28 มี.ค. 2020 เวลา 11:17 • สุขภาพ
ไวรัสทำให้โลกฟื้นตัว
นักวิจัยเผยชั้นโอโซนโลกกำลังฟื้นตัวดีขึ้น! เพราะโลกร่วมกันแบนปล่อยสาร ที่ส่งผลให้โอโซนเป็นรู ทำให้การหมุนเวียนอากาศเปลี่ยน
ก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์พบว่าโอโซนในชั้นบรรยากาศทวีปแอนตาร์กติกาถูกทำลายจนเป็นรูขนาดใหญ่มหึมา ซึ่งก่อนหน้านี้มนุษย์ใช้สารที่เรียกว่า CFCs chlorofluorocarbons ที่ส่งผลต่อชั้นโอโซนนี้เอง
สถานการณ์ดังกล่าวน่าวิตกกังวลมากเพราะโอโซนเป็นแก๊สที่ป้องกันสิ่งมีชีวิตบนโลกเราจากรังสีอัลตราไวโอเล็ตพลังงานสูง หากมันถูกทำลายไปมากถึงระดับหนึ่งย่อมส่งผลร้ายแรงต่อมนุษย์เราแน่นอน
โดยสถานการณ์ดีขึ้นหลัง หลายประเทศร่วมลงนามงดการใช้และปลดปล่อยแก๊ส CFCs หรือ ozone depleting substances (ODS) สู่ชั้นบรรยากาศืใน Montreal Protocal ปี ค.ศ. 1987
ซึ่งในปี 2019 รูรั่วชั้นโอโซนเหนือทวีปแอนตาร์กติกา เล็กลงที่สุดในรอบ 30 ปี ตั้งแต่หลังการแบนดังกล่าว
ล่าสุด นักวิจัยเผยว่า หลุมในชั้นโอโซนที่ปกคลุมแถบแอนตาร์ติกากำลังฟื้นฟูตัวเอง ซึ่งการฟื้นฟูตัวเองนี้จะหยุดการเปลี่ยนแปลงของกระแสลมที่เคยส่งผลไม่ดีให้กับซีกโลกใต้
Antara Banerjee นักวิจัยจาก University of Colorado Boulder เผยว่า การที่ชั้นบรรยากาศกลับมาดีขึ้นได้นั้นเป็นผลมาจากการหยุดผลิตสารที่ทำลายชั้นโอโซน (ODS) ตั้งแต่ในช่วงทศวรรษ 1980
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ส่งผลกับกระแสลมเร็วในซีกโลกใต้ เพราะปกติเมื่อชั้นโอโซนถูกทำลาย ลมเร็วจะเคลื่อนลงมาทางซีกโลกใต้และทำให้การตกของฝนและน้ำทะเลเปลี่ยนไป แต่ในขณะนี้ดูเหมือนว่าการเคลื่อนตัวดังกล่าวจะมีทิศทางที่เปลี่ยนไป
Antara Banerjee กล่าวว่า อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะเกิดเพียงชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากจะมีจำนวนก๊าซคาร์บอนที่เพิ่มขึ้น และสารที่ทำลายชั้นโอโซน (ODS) กำลังถูกปล่อยมาอีกจากจีน
ในอดีต ก่อนปี 2000 กระแสลมเร็วในช่วงละติจูดกลางได้เคลื่อนตัวไปทางขั้วโลกใต้ พร้อมกับที่กระแสลมเร็วที่ก่อให้เกิดพายุเฮอริเคนกำลังแพร่กระจายเป็นบริเวณกว้างพอดี สองสิ่งนี้ทำให้ช่วงนั้นรูปแบบของฝน และกระแสน้ำในมหาสมุทรบริเวณซีกโลกใต้เปลี่ยนไป ส่งผลให้ประเทศอย่างเช่นออสเตรเลียต้องเผชิญกับความแห้งแล้งอย่างหนัก
แต่ล่าสุดนักวิจัยเผยว่ากระแสลมเร็วได้หยุดเคลื่อนตัวไปทางใต้ ในขณะเดียวกับที่ชั้นโอโซนกำลังซ่อมแซมตัวเองได้ การเคลื่อนตัวย้อนกลับของกระแสลมอาจส่งผลดีให้ฝนกลับมาตกในบริเวณชายฝั่งของออสเตรเลียได้
เมื่อปี 2019 ที่ผ่านมาชั้นโอโซนบริเวณแอนตาร์กติกโดนทำลายจนเกิดเป็นหลุมน้อยที่สุดเป็นประวัติการ ตั้งแต่ที่เริ่มมีการบันทึกครั้งแรกในปี 1982
อย่างไรก็ตามนักวิจัยนิยามการหยุดเคลื่อนตัวของกระแสลมเร็วว่าเป็นเพียงการ "หยุดชั่วคราว” เท่านั้น ยังมีแนวโน้มที่จะมันกลับมาสู่สภาพเดิมอยู่ดี
Banerjee ระบุว่า สงครามสองขั้วระหว่างการพยายามฟื้นฟูชั้นโอโซน และการเพิ่มขึ้นของก๊าซเรือนกระจกจะเป็นตัวที่ตัดสินว่าโลกในภายภาคหน้าจะเป็นอย่างไร
นอกจากนี้เธอและทีมของเธอกล่าวว่า งานนี้ชี้ให้พวกเขาพบว่าข้อตกลงที่ทำเพื่อโลกอย่างข้อตกลงตามพิธีสารมอนทรีออลในปี 1987 สามารถหยุดหรือย้อนการทำลายสิ่งแวดล้อมได้ชั่วคราวได้จริงอีกด้วย
การลดลงของโอโซน (Ozone Depletion) คือภาวะการสูญเสียหรือการลดลงของปริมาณก๊าซโอโซน (Ozone) ในชั้นบรรยากาศโลกที่ระดับความสูงราว 20 ถึง 40 กิโลเมตรเหนือพื้นดินขึ้นไป หรือชั้น “สตราโตสเฟียร์” (Stratosphere) จากปฏิกิริยาเคมีระหว่างก๊าซโอโซนกับสารเคมีที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดปรากฏการณ์ “หลุมโอโซน” (Ozone Hole) จนส่งผลให้รังสีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตจากดวงอาทิตย์สามารถส่องลงมายังพื้นผิวโลกได้โดยตรง
ทีมวิจัยระบุว่าการถูกทำลายของชั้นโอโซนมาจากบริเวณที่มีการทำอุตสาหกรรมอย่างหนักอย่างในประเทศจีน
ที่มา
เด็กหญิงแก้มยุ้ยเป็นมิตร
environman
โฆษณา