เรื่องตลกในช่วงโรคระบาด
ในโลกนี้มักจะมีปัญหาเรื่องเขตแดนระหว่างประเทศ เนื่องจากตกลงกันไม่ได้ถึงข้อกำหนดในการใช้แบ่งเขตแดนระหว่างกัน อันนำมาซึ่งการกระทบกระทั่งกันบริเวณชายแดน ด้วยศักดิ์ศรีของประเทศแม้เพียงหนึ่งตารางเมตรก็ยอมไม่ได้ ดังจะเห็นข่าวการปะทะกันระหว่างทหารทั้งสองประเทศอยู่เป็นประจำดังเช่นบริเวณชายแดนไทยและเขมร หรือ ไทยและพม่า
เรื่องปัญหาชายแดนในยุโรปสมัยก่อนก็ไม่ต่างกัน จนกระทั่งเกิดการรวมเป็นสหภาพยุโรปทำให้เส้นแบ่งเขตแดนค่อยๆ เลื่อนหายไป เนื่องจากคนในยุโรปสามารถเดินทางข้ามเขตไปมาได้จนไม่รู้สึกว่ามันมีเขตแดนอยู่ ทำให้เส้นเขตแดนทางการ กลายเป็นเพียงสัญลักษณ์ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ในยุโรปมีเขตแดนหนึ่งที่มีความประหลาดอยู่คือเขตแดนบริเวณตอนใต้ของเนเธอร์แลนด์และตอนเหนือของเบลเยี่ยมที่เมือง Baarle
โดยเมืองนี้ตั้งคาบอยู่ระหว่างสองประเทศ ถ้าอยู่ในฝั่งเนเธอร์แลนด์จะเรียกเมือง Baarle-Nassau ถ้าอยู่ในฝั่งเบลเยี่ยมจะเรียก Baarle-Hertog
สองเมืองจริงๆแล้วคือเมืองเดียวกัน คนเชื้อชาติเดียวกัน และพูดภาษาเดียวกัน เพียงแค่ตั้งอยู่ในเส้นคาบเกี่ยวกันระหว่างเขตแดน
ความน่าสนใจของหมู่บ้านนี้ นอกจากพื้นที่จะคาบเกี่ยวระหว่างสองประเทศแล้ว บริเวณทั้งเมืองยังมีเส้นแบ่งพรมแดนกระจายอยู่ทั่ว ไม่ว่าจะบนทางเดินเท้าหรือกลางถนน บางเส้นพุ่งผ่าเข้ากลางบ้าน กลางศูนย์การค้า เรียกว่า ถ้าเดินเที่ยวในหมู่บ้านหรือเมืองนี้ 1 วัน ก็เท่ากับได้เที่ยวทั้งสองประเทศวันละหลายรอบเลยทีเดียว
ด้วยความซับซ้อนของพื้นที่บริเวณนี้ทำให้เมื่อเกิดโรคระบาด covid-19 จนนำมาซึ่งการปิดชายแดนและออกมาตรการในการเพิ่มระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ที่แต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน นำมาซึ่งเรื่องตลกบริเวณชายแดน
เช่น เมื่ออาทิตย์ก่อน เบลเยี่ยมประกาศปิดห้าง ร้านค้า ร้านอาหาร แต่เนเธอร์แลนด์แค่ขอความร่วมมือให้อยู่บ้าน ไม่ได้บังคับให้ปิด ทำให้คนเบลเยี่ยมแห่กันมาซื้อของและเข้าร้านอาหารฝั่งเนเธอร์แลนด์แล้วก็กลับเข้าเนเธอร์แลนด์
หรือคนดัช ยังขับรถไปเติมน้ำมันฝั่งเบลเยี่ยมเนื่องจากราคาถูกกว่าแล้วกลับเข้าเนเธอร์แลนด์
เนื่องจากเมือง Baarle ตั้งอยู่คาบระหว่างสองประเทศ และมีร้านค้าบางร้านตั้งอยู่คาบระหว่างสองประเทศด้วย เช่น ร้าน Zeeman ทำให้เกิดเรื่องประหลาดขึ้นทันที
ทางการเบลเยี่ยมขอให้ทำการปิดร้านตามที่ประกาศโดยทางการเบลเยี่ยม แต่เนื่องจากทางเนเธอร์แลนด์ไม่มีประกาศให้ปิดร้าน
ดังนั้นเพื่อเป็นปฏิบัติตามประกาศของทั้งสองประเทศ ทางร้านจึงเอาเทปมากั้น 'ภายในร้าน'ตามแนวเส้นแบ่งประเทศ โดยฝั่งที่อยู่ในเขตเนเธอร์แลนด์ก็จะยังคงเปิดร้านต่อไป ฝั่งที่อยู่ในเขตเบลเยี่ยมก็จะปิดไว้
ดังนั้นลูกค้าที่เข้าร้านฝั่งเนเธอร์แลนด์ ถึงแม้จะต้องการของที่อยู่ในร้านเดียวกัน แต่อยู่ในฝั่งเบลเยี่ยมก็จะไม่สามารถซื้อได้
คลิปเคลื่อนไหวดูได้ในลิ้งค์ข้างล่างครับ
ถือเป็นเรื่องตลกในช่วงโรคระบาดที่คงจะพบได้ยากบนโลกใบนี้
Ref.
- 55
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
