จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เมื่อ Covid-19 ผ่านไป ?
ธรรมชาติได้สอนบทเรียนอะไรให้เราบ้าง ลองมาพูดคุยกันดูสักหน่อยดีกว่าครับ 😁😁
แน่นอนว่าอีกไม่นาน เรื่องเลวร้ายอย่างโรคระบาดที่เกิดจากไวรัสอย่าง Covid-19 ก็คงจะผ่านไป และเหลือทิ้งไว้เพียงความทรงจำที่เลวร้ายสำหรับใครหลายๆคน
แต่ว่า ในความเลวร้ายและความสูญเสีย ก็ได้ทิ้ง ค่านิยมใหม่ๆที่อาจจะทำให้โลกใบนี้น่าอยู่มากขึ้น จากบทเรียน โรคระบาดครั้งนี้ 🤔
💠อย่างแรก มุมมองที่เกิดกับคนที่ใส่หน้ากากอนามัย เวลาออกไปข้างนอกนั้นจะเปลี่ยนไป !
ถ้าลองมองย้อนกลับไป ไม่ไกลมาก ก่อนที่ กทม.จะมี Pm 2.5 แค่นั้นเองครับ
ค่านิยมของไทยมักมองว่า คนที่ใส่หน้ากากอนามัย มักจะถูกมองว่าเป็นคนป่วย หรือใช้แต่ในกลุ่มของคนที่ป่วยเท่านั้น ซึ่งใช้เพื่อป้องกันโรคไม่ให้ติดกับคนอื่นๆ ทำให้ถูกแบ่งแยกจากคนทั่วไปไป 😳
แต่ปัจจุบัน การใส่หน้ากากอนามัยนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติ ที่ทุกๆนั้นใช้กันตั้งแต่เด็กเล็กๆไปจนถึงผู้สูงวัย
ไม่ใช่เพราะพวกเขาป่วย แต่เพราะทุกๆคนนั้นรู้จักป้องกันตนเองมากขึ้น เป็นจนกลายเป็นค่านิยมใหม่ในสังคมไทย
ที่ทุกคนรู้ตัวเองเสมอว่า เมื่อเข้าชุมชนหรือที่ ที่มีคนจำนวนมาก เราจะต้องใส่หน้ากากอนามัย
ไม่ใช่เพราะว่าใครคนหนึ่งคนใดป่วย แต่เพราะ เพื่อไม่ให้ใครคนหนึ่งคนใดต้องป่วยหรือต้องติดโรค
เพราะฉันนั้น มันไม่ใช่แค่นิยมธรรมดาๆ แต่ยังแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อตนเอง และสังคมอีกด้วย
💠ค่านิยมที่สองนี้อาจจะเกิดจาก ผลพวงของความรับผิดชอบต่อตนเองที่มีมากขึ้น ทุกๆคนเริ่มใช้แก้ว ช้อนจานชาม ที่นำมาจากบ้านเป็นของส่วนตัว
กินร้อน ช้อนกลางคนละคัน ลดโรคที่มาจากการสัมผัสช้อนกลางร่วมกัน งดการใช้หลอดดื่มน้ำร่วมกับคนอื่น
นี่ไม่ใช่แค่การป้องกัน Covid-19 แล้วละครับ แต่ยังมีอีกสารพัดโรคที่เราป้องกันได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นไวรัสตับเอกเสบ หรือ ไข้หวัดต่างๆ
แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้หลายๆคนอาจจะบอกว่า ทำในช่วงนี้เพื่อป้องกันการติดโรค
แต่จะดีแค่ไหน ถ้าเราทำสิ่งเหล่านี้ ต่อไปได้จนเป็นนิสัย
กล่องโฟม และแก้วพลาสติก ที่เคยมีอยู่เกลื่อน ออฟฟิศ ก็จะต้องลดลง
โรคติดต่อที่ ติดกันง่ายๆ จากการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่นก็จะลดลง
ขยะลด มลพิษลด เรื่องดีๆมากมายมายก็จะตามมาครับ 😁😁
💠ค่านิยมต่อมาคือสิ่งที่หลายๆคนอาจจะชื่นชอบมากๆคือการ Work from home
ต่อไปจะไม่ใช่แค่หนีโรค แต่จะดีแค่ไหน ถ้าเราเลี่ยงรถติดใน กทม. และเมืองใหญ่ เราอาจจะไม่ต้องตื่นตี 5 เพื่อรีบไปนั่งรอรถติดบนถนน ไม่ต้องไปเผชิญ กับผู้คน และ Pm2.5
เราอาจจะมีเวลานอนกันมากขึ้น สักคนละ 1-2 ชั่วโมง และมีเวลาอยู่กับคนที่เรารักมากขึ้นอีกวันละ 8 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 4-5 วัน
เราอาจจะไม่ได้ทำงานภายใต้กรอบ สี่เหลี่ยมๆ แต่คุณอาจจะทำงานอยู่ภายใต้ท้องฟ้าสีคราม พื้นหญ้าสีเขียว มีพื้นที่มากมายให้กับจินตนาการที่เปิดกว้างให้กับงานของคุณ
ในช่วงที่หลายๆคนกวาดกลัว กับ Covid-19 แล้วทำงานอยู่ที่บ้าน บางทีพอหมดเหตุการณ์นี้ไป หลายบริษัท อาจจะมีการ Work from home กันมากขึ้นก็ได้จริงไหมละครับ
และแถมยังเป็นโอกาสที่สำหรับผู้ที่จะเริ่มต้นธุรกิจอะไรสักอย่าง ผ่านการทำงานร่วมกันแบบ WFH ก็ได้นะครับ 😁😁😁
💠อย่างสุดท้ายคือ ความสะอาด แน่นอนว่าถึงจะเป็นสิ่งที่ทุกๆคนควรมีตั้งแต่แรก แต่ว่าการแพร่ระบาดของโรคครั้งนี้ มันจะย้ำเตือนพวกเราว่า ความสะอาด คือสิ่งที่สำคัญ
ไม่ว่าจะเป็นบริเวณของที่อยู่อาศัย หรือร่างกายของเรา การดูแลและรักษาความสะอาดนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญจริงๆ
ซึ่งนอกจากจะดูสะอาดหูสะอาดตาแล้ว ยังช่วยลดการแพร่กระจาและการแพร่ระบาดของโรคต่างๆด้วยเช่นกัน
💠และเมื่อค่านิยมต่างๆ ที่กล่าวมา เกิดขึ้นในสังคมไทย มันก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีเป็นอย่างมาก โรคระบาดที่ไม่ได้รับาดง่ายๆ เมืองที่มีประชากรบนท้องถนนที่ลดลง ครอบครัวที่มีเวลาให้กันมากขึ้น ภาระในการจัดการขยะที่ทุกๆคนมีส่วนร่วมในการลดปริมาณ
และผมคิดว่า นี่แหละคือบทเรียนที่เราได้เรียนรู้จากบททดสอบของธรรมชาติ และมันคือสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในสังคมของเรา
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับเรื่องราวของค่านิยมที่กำลังจะเกิดขึ้นในสังคมไทย ที่นำมาฝากกันในวันนี้
ทุกๆคนสามารถ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับวิทย์นิดนิด ได้ผ่านการแสดงความคิดเห็นและแบ่งปันเรื่องราวกันได้ที่ด้านล่าง นี้เลยครับ ⬇️⬇️⬇️
และมากไปกว่านั้น ยังสามารถ เป็นกำลังใจ และสนับสนุน วิทย์นิดนิด ได้ด้วยการ กดว้าว เพื่อบอกกับเราว่า อ่านมาถึงบรรทัดสุดท้ายนะครับ 😆😆
🌸 Original dy วิทย์นิดนิด 29/03/2563
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
