5 เคล็ดลับในการดูแลตัวเอง
ด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันของคนสมัยนี้ ที่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก จึงทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ยกตัวอย่างเช่น โรคอ้วน ซึ่งทำให้เกิดหลายโรคต่างๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคภูมิแพ้ โรคหัวใจ เป็นต้น ซึ่งโรคต่างๆ เหล่านี้มีต้นเหตุมาจาก
1. การใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่ค่อยได้ขยับเขยื้อนร่างกาย ซึ่งการขยับร่างกายถือว่าเป็นการออกกำลัง เพื่อรักษาสมดุลร่างกายให้เกิดความแข็งแรงและเผาผลาญพลังงาน ที่เกิดจากการกินอาหารจำพวกให้พลังงานมากเกินไปแล้วไปสะสมในลักษณะไขมันส่วนเกินตามส่วนต่างๆของร่างกาย
2. การกินที่เกินความจำเป็น ในรูปแบบเมนูที่เกิดขึ้นตามยุคสมัยที่มีการพัฒนารูปแบบ รสชาติและกลิ่นที่แปลก และแตกต่างไปจากเมื่อก่อนมาก ทำให้เกิดการกินที่ตามใจปากมากเกินไป ส่งผลให้มีพลังงานสะสมในรูปแบบไขมันจากการกินที่เกินความจำเป็น ยกตัวอย่างเช่น อาหารฟาสต์ฟู้ดต่างๆ เบเกอร์รี่ที่มีการพัฒนารสชาติต่างๆ เพิ่มขึ้นมากมาย เมนูเครื่องดื่มตามคาเฟ่ต่างๆ ที่มีการปรับปรุงสูตรใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอยู่เสมอ เป็นต้น
แหม...แค่ 2 เรื่องนี้ ก็เป็นเรื่องใหญ่มากพอที่จะทำให้เราเกิดปัญหาสุขภาพมากมายแล้วล่ะค่ะ คุณผู้ช๊ม...🤔
แล้วเราจะมีทางแก้ไขอย่างไรบ้างไปดูกันค่ะ
1. พยายามขยับร่างกายให้มากขึ้น เช่น ระหว่างวันควรเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ สำหรับคนที่นั่งหรืออยู่กับที่ในท่าเดิมๆ เป็นเวลานานๆ เช่น คนที่นั่งเป็นพนักงานออฟฟิศควรเปลี่ยนอิริยาบถทุกๆ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง และต้องตระหนักเตือนตัวเองไว้เสมอว่า ควรขยับร่างกายและเปลี่ยนท่านั่งบ้าง อย่างเช่นการเดินไปดื่มน้ำ ไปห้องน้ำ ไปถ่ายเอกสาร หรือหันมาเหยียดแข่งเหยียดขา นวดมือหรือแขนขาเพื่อให้เลือดไหลเวียนสะดวกและเกิดการเผาผลาญจากการขยับเขยื้อนร่างกายเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างวันด้วยค่ะ
2. หาเวลาไปออกกำลังกายบ้าง ควรจัดเวลาให้ตัวเองได้ออกกำลังกายในช่วงเช้าก่อนไปทำงาน หรือช่วงเย็นหลังเลิกงานอย่างน้อยวันละ 30 นาที สักกประมาณ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ กำลังพอดีค่ะ เช่น ออกไปจ๊อกกิ้ง ไปฟิตเนส หรือถ้าไม่สะดวกก็เปิดยูทูบหาท่าออกกำลังกายอยู่ที่บ้านก็ได้ค่ะ การออกกำลังกายนอกจากทำให้ร่างกายสดชื่นแข็งแรงแล้ว ยังทำให้จิตใจเบิกบานแจ่มใสอีกด้วยนะคะ
3. เลือกทานอาหารให้เป็น เช่น ลดอาหาร หวาน มัน เค็ม หรือเปลี่ยนรูปแบบการปรุงอาหารจากเดิม ได้แก่ ทานอาหารรสจืดลง เพราะการทานอาหารเค็มมีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ และเกิดภาวะบวมน้ำของร่างกาย ลดความหวานของอาหารลงบ้าง เพราะอาหารหวานทำให้มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน และน้ำตาลเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง หากเราทานแล้วไม่ได้ใช้หรือใช้ไม่หมด ก็จะเกิดการสะสมเป็นไขมันในร่างกายของเราค่ะ เลือกทานอาหารที่มีไขมันน้อยลง เพราะจะทำให้เกิดไขมันสะสมในร่างกาย หันมาเลือกทานเนื้อหมูไม่ติดมันหรือเปลี่ยนจากหมูเป็นปลา และเปลี่ยนรูปแบบการปรุงอาหาร จากการทอดหรือผัดที่เป็นการเพิ่มไขมันให้อาหาร มาเป็นการต้ม นึ่ง ย่าง แทนค่ะ
4. เพิ่มปริมาณการทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น ผักและผลไม้เป็นอาหารที่เพิ่มวิตามินและกากใยต่างๆ ให้แก่ร่างกาย ซึ่งเป็นอาหารปะเภทที่มีปริมาณไขมันน้อยมาก นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุและวิตามินเข้ามาบำรุงส่วนต่างๆ ของร่างกายให้ดีขึ้นอีกด้วย เช่น การทานผักและผลไม้เป็นมื้อเย็นของบางวันสำหรับผู้ที่พยายามลดน้ำหนัก เป็นต้น
5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ คนเราควรนอนหลับให้ได้ 6 - 8 ชั่วโมง ถึงจะเพียงพอ ซึ่งคนที่ปัญหาการนอนไม่หลับหรือหลับไม่เป็นเวลา ส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาหลายโรค เนื่องจากเกิดภาวะร่างกายรวนที่ร่างกายบางส่วนทำงานไม่เต็มประสิทภาพนั่นเอง ดังนั้นเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการนอนที่ดีที่สุด ควรจัดการกับ "นาฬิกาชีวิต" ของตัวเองให้ดี นอนให้ตรงเวลาเพื่อลดปัญหาการนอนที่น้อยเกินไป
ร่างกายของเรานั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะขับเคลื่อนสิ่งต่างๆ ให้ดำเนินต่อไปได้ หากมีอาการป่วยหรือมีความไม่สบาย ไม่สดใสเสีย ก็จะทำให้ทุกอย่างแย่ลงหรือดำเนินต่อไปได้ไม่ดีนัก ดังนั้นเราควรดูแลตัวเองให้มีความแข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อการดำเนินชีวิตต่อไปได้ด้วยดีและมีความสุข ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน
เราเกิดมามีเป้าหมายกันทุกคน แต่ถ้าระหว่างทางเราดูแลตัวเองไม่ดี ก็อาจจะทำให้เราไม่สามารถไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
👉การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐนะคะ
เข้าเยี่ยมและให้กำลังผู้เขียนด้วยนะคะ😉
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
