1. หม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี สวัสดิวัตน์ ทรงเสกสมรสกับ สมเด็จฯ เจ้าฟ้าชายประชาธิปกศักดิเดชน์ ทำให้หม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี สถิตอยู่ในตำแหน่งของ พระชายา รับพระราชทานเครื่องราชฯจุลจอมเกล้าฝ่ายใน (สายสะพายสีชมพู)สถิตในที่ของสะใภ้หลวง ต่อมาพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 เสด็จสวรรคต ราชสมบัติตกที่สมเด็จฯ เจ้าฟ้าชายประชาธิปกศักดิเดชน์ พระองค์ขึ้นเป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ทันที และเฉลิมพระยศหม่อมเจ้าหญิงพระชายา ขึ้นเป็น “พระวรราชชายา ” แลพระราชทานเครื่องราชฯมหาจักรี (สายสะพายสีเหลือง) เมื่อถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2469 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ จึงสถาปนา หม่อมเจ้าพระวรราชชายาอีกครั้ง ขึ้นเป็นสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี สูงสุดในฝ่ายใน
2. หม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ กิติยากร ทรงหมั้นกับ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 ทำให้หม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ อยู่ในฐานะของพระคู่หมั้น จนกระทั่งปีถัดมา พ.ศ. 2493 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ โปรดให้จัดพระราชพิธีราชาอภิเษกสมรสขึ้น แลโปรดให้อาลักษณ์อ่านประกาศสถาปนาพระคู่หมั้นขึ้นเป็น "สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์" ในที่ของพระอัครมเหสี แลพระราชทานเครื่องราชฯมหาจักรี (สายสะพายสีเหลือง) ต่อมาในปีเดียวกันนั้น พระองค์ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ จึงสถาปนาอีกครั้ง ขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี สูงสุดในฝ่ายใน