30 มี.ค. 2020 เวลา 18:50 • สุขภาพ
พริกขี้หนู ... เผ็ดนี้ดีต่อสุขภาพ !!
พริกขี้หนู จัดว่าเป็นเครื่องเทศชนิดหนึ่งที่ค่อนข้างได้รับความนิยมและมีการปลูกกันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มรสชาติอาหารให้ดีขึ้นแล้ว ยังมีสรรพคุณทางยาหลายอย่าง จัดว่าเป็นสมุนไพร ที่มีสรรพคุณในการบำรุงร่างกาย และป้องกันโรคได้ดังนี้
ลดอาการปวด
สารแคปไซซินที่อยู่ในพริกขี้หนูจะช่วยกระตุ้นสมองให้หลั่งสารเอ็นดอร์ฟินออกมา ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดอาการเจ็บปวดโดยธรรมชาติ ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดน้อยลง
ในสมัยโบราณได้มีการนำพริกขี้หนูมาใช้ทำลูกประคบ ใช้ทำน้ำมันแก้ปวดเมื่อยตามข้อ
ในปัจจุบันได้มีการสกัดสารแคปไซซินออกมา โดยนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของขี้ผึ้งและเจล เพื่อใช้ทาบรรเทาอาการปวดบวมตามส่วนต่าง ๆ เช่น ช่วยบรรเทาอาการปวดที่เกิดจากเส้นเอ็น เข่าอักเสบ บรรเทาอาการปวดข้อได้เป็นอย่างดี และยังช่วยลดอาการปวดเมื่อยตามตัวลงได้อีกด้วย
บำรุงสายตา
ในพริกขี้หนูยังมีปริมาณวิตามินเอและวิตามินซีสูง โดยพริกขี้หนูมีสารเบต้าแคโรทีนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยบำรุงและป้องกันจอประสาทตาเสื่อม จึงจัดว่าเป็นอาหารบำรุงสายตาอย่างดี หากอยากได้รับวิตามินเอจากพริก ควรทานสด ๆ โดยไม่ต้องมีการปรุงสุก
ช่วยลดน้ำหนัก
การทานพริกขี้หนูสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะในพริกขี้หนูมีสาร thermogenic ที่ทำให้เกิดความร้อนภายในร่างกาย ทำให้ระบบการเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้น้ำหนักตัวลดลงได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ในพริกขี้หนูยังมีสารแอสคอร์บิก ที่ช่วยเร่งให้ร่างกายเปลี่ยนไขมันไปเป็นพลังงานได้อีกด้วย ซึ่งจากการศึกษาในประเทศญี่ปุ่นก็ค้นพบว่า การทานพริก 10 กรัม จะทำให้อัตราการเผาผลาญพลังงานเพิ่มอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มยาวนานมากถึง 30 นาที
แก้อาการฟกช้ำ
พริกขี้หนูมีสรรพคุณที่ช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนของเลือดได้ดี จึงช่วยแก้อาการบวม ลดฟกช้ำได้ดี
วิธีใช้นำพริกขี้หนูสีแดงไปตากแห้ง นำมาบดจนเป็นผง ใส่วาสลีนลงไป เคี่ยวจนเหนียว นำมาทาบริเวณที่มีอาการ วันละ 1 – 2 ครั้ง จะทำให้อาการบวมบรรเทาลง
และช่วยทำให้อารมณ์ดีได้ด้วยนะคะ
เนื่องจากในพริกขี้หนูมีสารแคปไซซินที่จะช่วยกระตุ้นสมองให้หลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน สารชนิดนี้มีคุณสมบัติหลายประการต่อร่างกาย โดยจะช่วยลดอาการเจ็บปวด มีส่วนช่วยในการลดฮอร์โมนความเครียด ทำให้อารมณ์สดใส รู้สึกสดชื่น ช่วยลดระดับความดันโลหิต ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
ถึงแม้จะเป็นพริกเม็ดเล็กๆ แต่ประโยชน์มากมี สรรพคุณมากมายจริง ๆ .. หวังว่าข้อมูลที่ "สรรสาระ" นำมาฝากในวันนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านได้บ้างนะคะ
โฆษณา