31 มี.ค. 2020 เวลา 00:34 • ไลฟ์สไตล์
ข้อความอาจไม่ชัด แต่เนื้อความ ชัดมาก!
หลังจากที่ห่างหายไปนาน
แอดเพิ่งมีเวลาได้อยู่กับ(กัก)ตัวเองที่บ้าน
ไปนอนเล่น ให้หมอกังวลอยู่โรงพยาบาลหลายวันเลย
ระหว่างที่ว่างๆ ก็คิดเรื่องนึงขึ้นมาได้
อันที่จริงก็ไม่อยากจะว่างเลย เพราะว่างปุ๊บ ก็จะคิดถึง (อดีต)คนรักทุกที ยิ่งพยายามสลัดความคิดยิ่งไม่หลุด
ทั้งๆที่เราก็จบกันไปแล้ว เค้าก็เงียบหาย ต่างคนต่างเงียบหาย เหมือนตายไปจากกัน แต่ทำไมยิ่งคิดถึงก็ไม่รู้
เอาวะ! ไหนๆก็คิดถึงแล้ว ต้องคิดเพื่อก่อประโยชน์แก่ผู้อื่น วันนี้แอดขอนำเสนออีกแง่มุมนึง ของความสัมพันธ์นะคะ เอาเรื่องของแอดนี่แหละมาตีแผ่ ใครใคร่อ่านก็อ่านค่ะ ไม่อยากอ่านเลื่อนผ่านไปเลยได้นะ แอดก็เห็นใจคุณผู้อ่านค่ะ วันๆไหนจะเรื่องโควิด เศรษฐกิจ
บลาบลาบลา
คิดว่าพักชมโฆษณาก็แล้วกันเนอะ 😬
ตามข้อความในรูปเลยค่ะ อันนี้แอดได้มาจากรุ่นน้องผู้ชายที่ทำงานคนนึง เค้าเคยทักมาจีบแอดเมื่อสองปีก่อน ตอนนั้น ไม่รู้ว่าเค้ารู้รึป่าวนะว่าแอดมีแฟนแล้ว
แต่แอดก็เฉยๆค่ะ เป็นคนที่เคยเจ้าชู้นะ คุยแหลกเลยสมัยยังเอ๊าะๆอะแต่พอมีแฟนปุ๊บ แอดหยุดทุกพฤติกรรม
ที่แอดคิดว่าจะทำให้เค้าไม่สบายใจค่ะ
แค่เค้าต้องมาแบกความคิด เรื่องที่เรามีหน้าที่การงานมั่นคงกว่า เรื่องฐานะ เรื่องรูปร่างหน้าตา แค่นั้นเค้าก็คงรู้สึกเหนื่อยพอแล้ว
แอดไม่อยากให้เค้าต้องมากังวลเรื่องคนรอบข้างแอดอีก จึงหยุดเฟรนลี่กับทุกคนไปเลยค่ะ ทุกคนในทีนี้หมายถึง คนที่เข้ามาจีบ มาเจ๊าะแจ๊ะนะ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบไหน แอดว่าคนเรา มันมีเซนส์แหละ นอกจากทำเป็นโลกสวย มองข้ามไปว่า เค้าเข้ามาแค่อยากเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องอะ
จนกระทั่งเมื่อสามเดือนก่อน ก่อนที่แอดจะถูกแฟนบอกเลิก แอดได้ย้ายกลับมาทำงานที่บ้าน และมีโอกาสได้อยู่ที่เดียวกับรุ่นน้องคนนั้นที่เคยทักแชทมาจีบค่ะ
ด้วยความที่ เราก็เฟรนลี่อะนะ คือ ไม่ได้คิดอะไรกับน้องคนนั้นเลยจริงๆค่ะ แค่ไม่อยากให้เค้าคิดอะไรกับเราเกินคำว่าพี่น้อง หรือไม่ก็ เพื่อนร่วมงาน
แอดเลยทักแชทไปหาเค้าก่อนคราวนี้
ประมาณว่าทักทาย เพราะตอนอยู่ที่ทำงาน
น้องเค้ามีอาการแบบ ไม่มองหน้า เหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง
แอดก็คิดว่า เค้าคงเคือง(ตัวเค้าเอง)ที่ตอนนั้น
ทะเล่อทะล่าเข้ามาจีบแอดโดยไม่ดูเลยว่าแอดมีแฟนแล้ว แต่คือคุณผู้อ่านเข้าใจมั้ยคะ มันอึดอัดอะค่ะ เวลาที่ต้องทำงานร่วมกัน เวลาที่ต้องสื่อสารกัน แต่น้องเค้าแทนที่จะพูดกับเรา ดันฝากคนนั้นคนนี้มาบอก
ทั้งๆที่นั่งห่างกันไม่ถึงสองเมตร ในใจแอดแอบคิดเหมือนกันนะว่า เอ๊ะ! รึว่าน้องมันยังชอบเราอยู่นะ
ก็ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองอะนะ แต่ก็แปลกๆอยู่
เลยตัดสินใจ ทักแชทไปทักทายก่อนค่ะ
กะเชื่อมสัมพันธไมตรีว่างั้น แต่!
แอดก็ถามตรงๆนะ ว่า “น้องเป็นอะไรรึป่าวคะ
โกรธอะไรพี่รึป่าว เห็นน้องไม่ทักทายเลยตั้งแต่พี่ย้ายมา
เวลาทำงานน้องก็ไม่คุยกับพี่ น้องมีอะไรคุยกันตรงๆได้นะคะ”
แต่สิ่งที่น้องเค้าตอบกลับมาคือ “ไม่ได้เป็นอะไรครับ
พี่เป็นผู้หญิง ทักมาอย่างนี้ ไม่ดีมั้ง เดี๋ยวแฟนก็ว่าเอาหรอก”
ห๊ะ! เดี๋ยวนะ พี่แค่ถามตามมารยาทเองนะคะน้อง
ถ้าพี่ไปจีบน้องก็ว่าไปอย่าง พี่ไม่ได้คิดอะไรเลยค่ะ
ทักไปตามประสา พี่น้อง หรือเพื่อนร่วมงานเท่านั้น
แล้วน้องเค้าก็เงียบไปเลย
พอวันต่อมา เจอกันที่ทำงาน น้องก็หลบหน้าอีก
ทำงานร่วมกันลำบากมากค่ะ เวลาจะสื่อสาร
น้องเค้าไม่ยอมพูดด้วย แต่ใช้วิธีเขียนใส่กระดาษให้อ่านแทน โอ๊ย! แอดจะบ้าตาย เพิ่งเคยเจอเคสแบบนี้
แต่ก็พยายามนิ่งนะ เรามาใหม่ก็ไม่อยากจะมีปัญหาตั้งแต่เดือนแรกที่ทำงาน
จนผ่านไปสามเดือนนี่แหละ
อยู่ๆน้องเค้าก็ส่งรูปนี้มาให้ ข้อความอ่านแล้ว
แอดรู้สึกเหมือนถูกต่อว่ายังไงไม่รู้ 55
หรือว่าแอดคิดมากไป เหมือนแอดโดนสอนทั้งๆที่แอดยังไม่ทำอะไรผิดเลย และอีกอย่าง น้องเค้าก็น่าจะรู้นะว่าแอดเลิกกับแฟนตั้งแต่สามเดือนที่แล้วละ
เรื่องแบบนี้ มันไปเร็วค่ะ ปากต่อปาก ไวยิ่งกว่า5G
แต่แอดก็ไม่ได้ตอบอะไรน้องเค้าไปหรอกนะคะ
นิ่ง และเงียบเข้าไว้ค่ะ
แต่พอมาคิดอีกที ก็จริงอย่างในเนื้อความว่านะคะ
แอดเห็นด้วยทุกอย่างเลย เพราะ(อดีต)แฟนแอด เค้าก็ค่อนข้างจะเฟรนลี่กับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆและคนรอบข้างเค้าค่ะ แรกๆคบกัน แอดก็ไม่รู้หรอก จนกระทั่ง ได้มีโอกาสจับมือถือเค้านั่นแหละ
จริงๆไม่ชอบละลาบละล้วงความเป็นส่วนตัวของใครนะ ให้เกียรติตลอด แต่มันบังเอิญค่ะ วันนั้นอยากถ่ายรูปกล้องมือถือเค้า แต่จู่ๆมันมีข้อความเด้งเข้าทางแชท แล้วปฏิกิริยาเค้ามันแปลกๆ
เลยโป๊ะแตกค่ะ จริงๆ ก็แค่คุยๆแบบคนเฟรนลี่นะ
เฟรนลี่มากกกกกกกก ประมาณว่า “เงี่ยนมั้ย?”
อะไรแบบนี้ และตั้งแต่นั้นมา ความเชื่อใจ มันก็หล่นหายเลยค่ะ เค้าก็ขอโทษนะ แล้วก็ขอโอกาส คือ เรารู้แหละว่าเค้าไม่ได้แอบนอกกายเราหรอก แต่เรื่องของใจอะ
มันก็แป้วๆป่ะคุณ คือ ตอนนั้นคิดเลยว่า เป็นเพราะเราไม่ยอมมีอะไรกับเค้าใช่มั้ย หรือว่าเค้าเป็นโรคจิต หรือว่าผู้ชายเป็นงี้ทุกคน คิดไปสารพัดสารเพคร้าาาา
แต่ก็ให้โอกาสเค้านะ เพราะหลักฐานยังไม่แน่นพอ
และอีกอย่างคือ รักเค้ามาก มันปีที่ 3 แล้วไง ใจมันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
แต่หลังจากวันนั้น เราก็ทะเลาะกันเรื่อยๆ ถึงแม้ต่างฝ่ายต่างมีรหัสผ่านเฟสบุค แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ความไว้ใจกันมันกลับคืนมาเลย โดยเฉพาะแอด เอาจริงๆนะ
ตั้งแต่นั้นมาก็เช็คมือถือตลอดทุกครั้งที่เจอกันอะ
คิดดูสิ 3 ปี ไม่เคยแตะของเค้าเลยนะ เค้าไม่น่าพลาดเลย ไม่น่าเลย(คิดในใจ ไม่เนียนไปเรียนมาใหม่นะ55)
สาเหตุที่ทำให้แอดให้โอกาสเค้า ให้อภัยเค้า แต่ยังเรียกความเชื่อใจกลับมาไม่ได้ ก็เพราะ มันยังมีอีกหลายแอพนี่แหละ และหลังๆมา มีการลบข้อความแชท ซ่อนข้อความแชทด้วย เป็นคุณ คุณคิดยังไงอะ
เราไม่เคยทำแบบนั้นกับเค้าเลย ทั้งๆที่โอกาสมีมากกว่าด้วยซ้ำ ของเค้าแค่คุยๆ เจ๊าะแจ๊ะๆไปวันๆ แต่ของเรา
มีคนอยากจริงจังด้วย ถึงขั้นขอแต่งงาน สารภาพความในใจทุกอย่าง ทั้งๆที่เราบอกว่ามีแฟนแล้ว ถ้าตอนนั้น เราเห็นแก่ความสุข ความสนุกส่วนตัวเรา เราคงเลือกที่จะทำเหมือนคุณไปแล้วล่ะ
แต่เราไม่ทำ ไม่ใช่เพราะเราเป็นคนดี หรือเราสงสารคุณ
หรืออะไรนะ ทั้งๆที่อีกหลายๆคนที่เข้ามาก็โปรไฟล์ดีกว่าคุณทุกอย่าง แต่เหตุผลเดียวที่เรายังซื่อสัตย์ เพราะเรารักคุณ รักมากกว่าตัวเราเองอีกไง
และครั้งล่าสุดที่แอดมาจับได้อีก หลังจากเหตุการณ์วันนั้น 2 ปี ช่วงก่อนครบรอบ 5 ปีของเรา เค้าก็ไปคุยทำนองนั้นกับผู้หญิงคนนึงอีกแล้ว ก่อนหน้านี้ แอดก็ไม่รู้นะว่าเค้าเป็นมานานรึยัง แต่แอดเชื่อใจมาตลอด ถึงจะแอบระแวงอยู่บ้างแต่ก็ไม่ถึงขั้นว่าโทร.จิก หรือเช็คตลอด แอดจะได้โทร.คุยกับเค้าแค่วันละครั้งก่อนนอนเท่านั้น นอกนั้นจะไปไหน จะทำอะไร ก็จะแชทรายงานกันตลอด ก็ไม่อยากให้เค้าอึดอัดมาก เราเองก็ไม่ต้องบ้าคอยระแวงมากด้วย
แต่ยอมรับว่าครั้งที่ 2 นี่หนัก คือมันทำลายความไว้ใจแบบพังครืนลงมาเลยอะ บวกกับช่วงนั้นแอดมีปัญหาหลายอย่าง ไหนจะน้ำท่วมบ้าน ไหนจะภาระหนี้สินทางบ้าน ไหนจะทะเลาะกับเพื่อนร่วมงาน เรียกว่า ประดังประเดเลยก็ว่าได้ แล้วคนที่เราคิดว่าเราไว้ใจเค้าได้นะ
เค้าเป็นกำลังใจสำคัญของเรานะ แต่มาเจอแบบนี้อีก
แอดยอมรับว่า เสียศูนย์อยู่เหมือนกัน แต่ก็นั่นแหละ
พอเค้าขอโทษ เราก็ยอมใจอ่อน เหตุผลเดิมคือ รักเค้า
ก็สมนะกับที่ใครๆก็บอกว่าแอดโง่ คือโง่ตั้งแต่ไปรักเด็กที่ยังมองไม่เห็นอนาคตแล้ว แต่แอดคิดว่าความคิดเค้าน่าจะเป็นผู้ใหญ่ไง 3 ปีแรกที่คบกัน คือ เค้าพิสูจน์ทุกอย่างให้เห็นว่าเค้าไม่เด็กนะ แต่ทำไมจู่ๆมาแผ่วปลายก็ไม่รู้ ส่วนนึงคงเป็นเพราะสังคม บริบท และอีกส่วนนึง
ก็อดไม่ได้ที่จะโทษตัวเองว่าแอดก็มีส่วนที่ละเลยบางสิ่งบางอย่างไป ทำหน้าที่คนรักได้ไม่ดีพอ
และแอดไม่โทษใครคนใดคนนึงนะ ทุกคนมีส่วนทั้งหมด
ผู้หญิงที่พยายามจะเข้าหาแฟนแอด ทั้งๆที่เค้าก็รู้ว่ามีแฟนแล้ว แต่เค้าไม่หักห้ามใจ ไม่คิดถึงศีลธรรมหรือจิตใจใคร เค้าคิดถึงแต่ตัวเค้าเอง ความสุขของเค้าแค่คนเดียว แต่หลักๆเลยคือแฟนแอด ถ้าเค้าไม่เฟรนลี่เกินไป ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ก็คงไม่มีใครกล้าเข้ามารุกล้ำถึงพื้นที่ส่วนตัวของเราทั้งสองแบบนี้หรอก
และที่เจ็บไปกว่านั้นคือ หลังเจรจาขอจบกัน
เลิกกันไปด้วยดี แอดดันมาจับได้อีกว่า
หลังบอกเลิกกันแล้ว เค้าไปแชทกับรุ่นน้องเค้า
ซึ่งเค้าก็รู้ว่าน้องคนนี้สนใจเค้า แชทน่ะไม่ว่าหรอก
เพราะเราเลิกกันแล้ว มันสิทธิ์ของเค้าจะแชทกับใครก็ได้
แต่เค้าจะแชทเรื่องแอดไม่ได้ จะมาว่าแอดทำให้อึดอัด
ยิ่งเวลาแอดจะฆ่าตัวตาย เค้ายิ่งอึดอัด (คือเดี๋ยวนะ ตอนที่จะฆ่าตัวตายน่ะ แอดบอกเหตุผลชัดเจนนะว่าเหนื่อยกับปัญหาที่บ้าน อะ ส่วนนึงก็ปัญหาความรักด้วย
นั่นแหละ) แต่เค้าบอกรุ่นน้องคนนั้นไปว่า แอดรั้งเค้าด้วยวิธีนี้ ตรงนี้แหละที่มันจี๊ดมากๆ
และทุกวันนี้เค้าก็ยังคงเฟรนลี่กับทุกคน
ดีกับทุกคน อ่อนโยนกับทุกคน
สุภาพกับทุกคน ยกเว้นผู้หญิงคนนี้ค่ะ
ผู้หญิงคนที่ยอมเสียสละทุกอย่าง
อยากเลิก ก็ยอมเลิกให้ (ทั้งๆแอดต่างหากควรเป็นคนขอเลิกด้วยซ้ำ)
อยากเป็นเพื่อน (อะ เจ็บนะ แต่ให้อภัย
เป็นเพื่อนก็ได้ ยังปรึกษา ยังมีความหวังดีให้กันได้อยู่)
สักพัก อยากกลับมาเป็นเหมือนเดิม
(คือ เดี๋ยวนะ หน้าที่ที่จะดูแลกัน ซัพพอร์ตกันเหมือนตอนเป็นแฟน คุณยังทำได้อยู่อีกเหรอ เอายังไงกันแน่)
แล้วก็หายเงียบไป (ไอเราก็เริ่มจะทำใจได้ละ)
สักพัก มาอีก คราวนี้ให้แม่มาช่วยคุยแทน
(เดี๋ยวนะ สตินิดนึง คือเรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เล่นเกมนะคุณ ชีวิตเรา เหมือนไร้ค่าขนาดนั้นเลยเหรอ)
อะ โอเค เห็นแก่แม่ และเห็นแก่ความดี ความรักที่คุณเคยให้เรามา เรายังเปิดโอกาสให้คุณรับรู้ชีวิตเราได้
เราไม่บล็อก ไม่ปิดกั้นอะไรคุณทั้งนั้นแหละ
แต่เราขอใช้ชีวิตแบบสงบนะ
เราต้องรักษาตัว เราเสียคุณ เราเสียลูก
เราเสียใจ เราเสียเกือบทุกอย่างในชีวิต
แต่เรายังเหลือความเข้มแข็งในหัวใจ
ที่จะต้องไปต่อให้ได้ แม้มันจะบอบช้ำแค่ไหนก็ตาม
พอคุณรับรู้ปัญหา เรื่องลูก เรื่องเรา
อ้าวหาย! ไหนล่ะ เพื่อนกัน555
นี่ ใจเย็นนะ เราไม่ได้ให้คุณมารับผิดชอบอะไรเลย
เรารับผิดชอบชีวิตเราเองได้ เราโตแล้ว
ผ่านอะไรมาเยอะแยะแล้ว คุณอย่าคิดมากไปเลย
แต่ก็โอเค ถ้าคุณจะอยากออกไปแบบนั้น
เราจะไม่เอาปัญหาของเรา หรือทุกเรื่องในชีวิตเรา
ไปให้คุณรับรู้อีก
เกมนี้คุณชนะแล้วนะ ไม่ต้องแข่งกับใครแล้ว
เรายอมแพ้ ยอมทุกอย่างเลย
เราไม่คิดที่จะยื้อ หรือเหนี่ยวรั้งคุณไว้ด้วย
ถ้าเราไม่สามารถทำให้คุณมีความสุขได้
เราจะปล่อยคุณไปมีความสุขกับทางที่คุณต้องการนะ
ไม่ต้องห่วงล่ะ
เราจะไม่ให้คุณเห็นแม้แต่น้ำตาเราสักหยดเดียว
เราจะเข้มแข็งอย่างที่คุณอยากให้เราเข้มแข็ง
เราจะหายไปเงียบๆอย่างที่คุณต้องการ
แม้ในวันสุดท้าย ถ้าเราสู้กับโรคร้ายที่คุณมีส่วนทำให้เกิดนี้ไม่หาย เราก็จะไม่ให้คุณรู้แม้แต่ที่ฝังศพของเรา
คุณจะไม่มีวันเสียใจเพราะเรา
คุณจะไม่มีวันเสียน้ำตาเพราะเราเด็ดขาด
เราสัญญาแล้ว ตั้งแต่วันนั้น เราจำได้ดี
ไม่ใช่เพราะเราโกรธเกลียดคุณนะ
เราอภัยให้คุณทุกอย่างเลย
แต่เราจะไม่ให้คุณต้องมาเสียอนาคตเพราะเรา
คุณจะต้องมีชีวิตที่ดีในวันข้างหน้า
เรารู้ว่าทุกคนบนโลกนี้ ล้วนเคยทำผิดบาปกันทั้งนั้น
เราเองก็เคยทำผิดบาป แต่วันนี้เราพบสันติสุขแล้ว
เราให้อภัยตัวเราเอง และให้อภัยทุกคนหมดแล้ว
ในขณะที่เรากำลังเสียสละเพื่อคุณอยู่นี้
เราขอคุณอย่างเดียวได้มั้ย
ขอให้คุณตั้งใจทำหน้าที่ของคุณให้ดีที่สุด
อย่าประชดชีวิตเพราะเราหรือเพราะใครอีก
คุณไม่ได้อยากสำมะเลเทเมา เรารู้
คุณไม่ได้อยากเสเพล ไม่ได้อยากให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ เรารู้ เราเองก็ไม่ได้อยากให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้
แต่เราเลือกอะไรไม่ได้เลย คุณก็รู้ใช่มั้ย
ดึงตัวเองกลับมาให้ได้นะ เราเป็นกำลังใจให้
หาคำตอบให้เจอ ว่าอะไรคือความสุข สันติสุขในใจที่แท้จริงกันแน่ ในโลกนี้ มันมีสิ่งยั่วยุเยอะแยะมากมาย ถ้าวิ่งไล่ตามความสุขปลอม หรือแค่ฉาบฉวย ก็จะไม่มีวันเติมในใจตัวเองให้เต็มได้ ต่อให้เจอคนดีพร้อมแค่ไหน เค้าคนนั้นก็ไม่มีทางเติมให้เต็มได้หรอก ถ้าเราเองไม่รู้จักพอ
ถ้าจะเริ่มต้นใหม่กับใคร ก็ขอให้คุณให้อภัยตัวเองซะ
แล้วเริ่มต้นใหม่อย่างจริงจังไปเลย
อย่าเอาแผลเก่ามาสะกิดให้เจ็บอีก
อย่าคิดว่าคุณไม่คู่ควรกับใคร
แต่จงเอาบทเรียนที่ได้จากเราทั้งสองไปปรับปรุงให้ดีขึ้น
ถ้ามั่นใจในตัวเอง ก็จะมั่นใจในตัวคนๆนั้น
อย่ากลัว ว่าความรักครั้งใหม่มันจะซ้ำรอยเดิม
ถ้ามั่นใจในคนๆนั้นแล้ว ก็อย่าลืมชัดเจนกับเค้าล่ะ
เฟรนลี่ได้ แต่อย่าเฟรนลี่กับคนอื่นจนเกินไป
คุณไม่ชอบแบบไหน เค้าก็ไม่ชอบแบบนั้นเหมือนกัน
เรารู้ คุณทำได้ คุณเป็นคนเก่งสำหรับเราเสมอนะ
Black Sapphire 🙂
โฆษณา