การเอาตัวรอดในสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจ
วิกฤตโคโรน่าไวรัสครั้งนี้หนักหนาสาหัสมาก แม้ผู้เขียนเองก็ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการครั้งนี้ไม่น้อย อนึ่งสาเหตุมาจากการขาดประสบการณ์ ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้คล้ายคลึงกับเหตุการณสมัยสงครามโลก ตามมาด้วยการเกิด The Great Depression ทางเศรษฐกิจ
การเกิดวิกฤติเศรษฐกิจทุกครั้งจะนำมาด้วยภาวะเงินฝืด (สามารถหาอ่าน สาเหตุการเกิดเงินฝืดได้จากบทความก่อน) ส่งผลให้ราคาทรัพย์สินหรือสินค้าทุกประเภทมีสภาพคล่องต่ำลง
แต่หากเปรียบเทียบทรัพย์สินทุกอย่างบนโลกนี้แล้ว เงินตรา(รวมถึงทองในสถานการณ์นี้) มีสภาพคล่องสูงสุดในบรรดาทรัพย์สินทุกประเภท จึงทำให้เงินตรา (รวมถึงทองคำในสถานการณ์นี้) มีมูลค่าสูงขึ้นตามความต้องการซื้อที่มากขึ้น แต่ราคาทรัพย์สินที่นอกเหนือจากนี้ซึ่งธรรมชาติมีสภาพคล่องต่ำกว่า มีราคาถูกลงๆ ตามความต้องการซื้อที่ลดลง
การจะเอาตัวรอดในสถานการณ์นี้จึงจำเป็นต้องเลือกถือครองทรัพย์สินทรัพย์สินที่มีสภาพคล่องสูงสุดก่อนเป็นอันดับแรก นั้นก็คือ เงินตรา(หรือทองคำ) สำหรับธุรกิจนั้นต้องพยามปรับตัวให้สินค้าเรามีสภาพคล่องหรือความต้องการซื้อสูง นั่นคือเป็นสินค้าที่คนทั่วไปมีความต้องการหรือจำเป็นต้องซื้อ เช่น หมวดหน้ากากอนามัย หมวดวัตถุดิบอาหาร หรือหมวดที่จำเป็นต้องใช้เพื่อดำรงชีวิตในปัจจุบัน
ดังจะสังเกตุเห็นได้ว่า บรรดาธุรกิจพยายามลดแลกแจกแถมหรือปล่อยของออกมาช่วงนี้ เพื่อถือครองเงินสดซึ่งมีสภาพคล่องสูงกว่าสินค้าและบริการ
ที่กล่าวมาข้างต้น และบทความก่อนๆ จะเห็นได้ว่าสภาพคล่องนั้นสำคัญอย่างไร
> ในยามที่เศรษฐกิจดีๆ สภาพคล่องในระบบจะสูง ส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อและความต้องการซื้อทรัพย์สินทุกอย่างบนโลก ส่งผลให้สินค้าและบริการมีราคาสูงขึ้น แต่เงินมีค่าลดลง เช่นอาจจะกล่าวได้ว่า แม้แต่แกลบ(ที่ในอดีตมีค่าเป็น 0 บาท) ยังมีมูลค่ามีราคามีการซื้อขายขึ้นมา
> ในยามที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ สภาพคล่องในระบบจะต่ำ ส่งผลให้เกิดภาวะเงินฝืดและความต้องการซื้อทรัพย์สินทุกอย่างบนโลกต่ำ ส่งผลให้ทรัพย์สินทุกอย่างบนโลกมีราคาถูกลง แต่เงินตรามีค่าเพิ่มขึ้น เช่นอาจจะกล่าวได้ว่า แม้แต่แกลบ ยังไม่มีมูลค่า ไม่มีราคาการซื้อขาย
สรุปโดยย่อคือ
1) ในสภาวะสภาพคล่องต่ำ
เงินตรา(สภาพคล่องต่ำ) > มีค่ามากขึ้น
สินค้าและบริการ(สภาพคล่องต่ำ) > มีค่าลดลง/ถูกลง
2) ในสภาวะสภาพคล่องสูง
เงินตรา(สภาพคล่องสูง) > มีค่าลดลง
สินค้าและบริการ(สภาพคล่องสูง) > มีค่ามากขึ้น/แพงขึ้น
สุดท้ายนี้เรื่องทั้งหมดเกิดจาก
> เงินในระบบที่ถูกเป่าให้พองโตขึ้นๆ(เหมือนฟองสบู่) ทำให้ให้ทรัพย์สินทุกอย่างบนโลกมีมูลค่าขึ้นมาจากที่อดีตอาจจะไม่เคยมีค่าอะไร เช่นแกลบ ที่คนต้องการซื้อไปใช้ประโยชน์
> เมื่อดนตรีที่บรรเลงกล่อมโลกได้จบลง ฟองสบู่เงินตรานี้ก็แตกลง และหดตัวลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ทรัพย์สินทรัพย์สินทุกอย่างบนโลกที่ธรรมชาติมีสภาพคล่องต่ำอยู่แล้ว หมดคุณค่าหมดราคา เช่นแกลบที่ไม่มีใครเหลียวแล
เขียนโดย เศรษฐศาสตร์&การลงทุน
31 มีค.2563
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
