ทำไมเกมฟรี ทำเงินได้มากกว่าเกมที่เสียเงินซื้อ ?
4 ล้านล้านบาท คือมูลค่าเม็ดเงินในอุตสาหกรรมเกมในปี 2019 ที่ผ่านมา (จากการรายงานของ Newzoo)
Cr : Newzoo Annual Report 2019
เทียบดูเล่น ๆ ใกล้เคียงกับ GDP ของประเทศฮังการีเลยทีเดียว
เม็ดเงินส่วนมากของเกมนั้น กลับไม่ได้มาจากเกมที่ต้องเสียเงินซื้อ (Paid Games) แต่กลับเป็น ‘เกมฟรี’ หรือที่เราเรียกกันว่า “Free to Play”
แล้วทำไมเกมฟรี ถึงสามารถทำเงินได้มากกว่าเกมที่เสียเงินซื้อได้นะ ?
เกมจริงจังจะอธิบายให้ฟัง
เกมฟรี เป็นเกมที่ทุกคนสามารถเข้าไปดาวน์โหลดมาเล่นได้ จากร้านค้าออนไลน์ เช่น App Store, Google PlayStore หรือเว็บไซต์ทางการของเกมนั้น ๆ ได้ทุกเมื่อ
เกมฟรีเหล่านี้ ส่วนมากจะเป็นเกมมือถือซะเป็นส่วนใหญ่ เพราะระบบอินเตอร์เน็ตมือถือเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้นทุกปี
จนสามารถเข้ามาครองพื้นที่เม็ดเงินส่วนมากในอุตสาหกรรมเกมได้
ในประเทศไทยเรา ก็คงหนีไม่พ้น PUBG, Garena FreeFire, RoV, Candy Crush Saga และอื่น ๆ อีกมากมาย
Candy Crush Saga
ปัจจัยที่สำคัญมีอยู่ 3 ปัจจัยหลัก ๆ ก็คือ
1 โมเดลธุรกิจแบบ In-App Purchase
เกมฟรีส่วนมาก มีโมเดลธุรกิจแบบ In-App Purchase เป็นโมเดลธุรกิจยอดฮิตในเกมฟรี
ซึ่งจะใช้วิธีการเสนอขายไอเทมต่าง ๆ ที่ใช้ในการเล่นเกมให้เรานั่นเอง
ไอเทมในเกมเหล่านี้ ส่วนมากจะเป็นไอเทมที่อำนวยความสะดวกในการเล่น ให้ประหยัดเวลามากขึ้น
Clash of Clans
บางครั้งอาจจะเป็นทรัพยากรต่าง ๆ ที่สามารถช่วยให้เราดำเนินเกมได้เร็วขึ้น ง่ายขึ้นกว่าคนอื่นนั่นเอง
ยกตัวอย่างเช่น Gems ในเกม Clash of Clans ที่สามารถจ่ายในเกม เพื่อใช้ลดเวลาในการสร้างสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ
2 “ของมันต้องมี”
เกมฟรีส่วนมาก จะเป็นเกมออนไลน์ ที่สามารถเล่นกับคนอื่นได้ ทำให้นักพัฒนาใส่ไอเทมประเภท “เครื่องแต่งกาย” ที่ผู้เล่นสามารถซื้อมาเพื่อตกแต่งตัวละครในเกมของตัวเอง ให้โดดเด่นกว่าคนอื่นในเกมได้อีกตะหาก
ไอเทมบางอย่าง สามารถซื้อได้เฉพาะช่วงเวลา เป็นของหายาก แถมบางไอเทมยังเพิ่มค่าพลังแฝงบางอย่าง ที่ทำให้ตัวละครเก่งขึ้นอีกด้วย
Garena : RoV
ทำให้เกมเมอร์หลาย ๆ คนก็ต้องจ่ายเงินเพื่อสะสมไอเทมหายากเหล่านี้ ใครที่ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินก็โชคดีไป ใครที่จ่ายเงินแล้วเกินตัว ก็ต้องพิจารณากันดี ๆ ด้วย
3. เกมฟรี เข้าถึงได้ทุกคน
เกมที่ต้องเสียเงินซื้อ (Paid Games) มีแนวโน้มว่าจะทำยอดดาวน์โหลดได้น้อยกว่าเกมฟรี
เพราะเป็นการจำกัดกลุ่มผู้เล่นตั้งแต่เริ่มเลย ว่าคนที่จะโหลดเกมนั้น ๆ จะต้องจ่ายเงินก่อน ทำให้ยอดดาวน์โหลดน้อยกว่าแน่นอน
ในขณะที่เกมฟรี ใคร ๆ ก็ดาวน์โหลดมาเล่นเองได้ทันที และเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ตัดสินใจด้วยตัวเองว่า อยากจะใช้จ่ายกับเกมนั้น ๆ เท่าไหร่
ใครที่ชอบเล่นมาก ก็อาจจะจ่ายเยอะกว่าผู้เล่นปกตินั่นเอง
ทั้งหมดนี้ก็เป็นปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้เกมฟรี มีเม็ดเงินหมุนเวียนมากกว่า เกมที่เสียเงินซื้อ นั่นเอง
การจ่ายเงินในเกม ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไร เพราะหลาย ๆ ครั้งมันก็ถูกนำไปเปรียบเทียบกับการทำโปรโมชั่นต่าง ๆ ของห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารต่าง ๆ ด้วย เพราะมันส่งผลทางจิตวิทยาที่คล้ายคลึงกัน
ที่สำคัญคือ อย่าทำให้ตัวเองและคนใกล้ตัว ต้องเดือดร้อนเพราะการจ่ายเงินในเกมของเรา เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
นักพัฒนาเกมก็สามารถนำรายได้จากแฟนเกม ไปพัฒนาเกมให้สนุกมากขึ้นได้ในอนาคตนั่นเองครับ
พบกันใหม่ ตอนต่อไปนะครับ :)
- 12
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
