Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ดอกไม้ไทยในขั้วโลกเหนือ
•
ติดตาม
31 มี.ค. 2020 เวลา 17:41 • ไลฟ์สไตล์
กรีนแลนด์ตะวันออก The heart of Old Greenland
ระยะสองสามปีหลังมานี้หลายคนคงได้ยินชื่อของเกาะกรีนแลนด์บ่อยขึ้น ไม่ว่าจากเรื่องโลกร้อนที่มนุษย์โลกห่วงว่าน้ำแข็งที่กรีนแลนด์จะละลายจนเพิ่มระดับน้ำทะเล หรือจะจากเรื่องข่าวโดนัลด์ ทรัมป์สนใจอยากซื้อเกาะกรีนแลนด์จากประเทศเดนหมาก ต่างๆเหล่านี้พาผู้คนหันมาสนใจกรีนแลนด์มากขึ้น
กรีนแลนด์เป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งบนโลกที่การเดินทางระหว่างเมืองภายในประเทศเป็นเรื่องยากลำบากมาก เพราะไม่มีถนนเชื่อมต่อระหว่างเมือง การเดินทางทำได้ทางเรือ เครื่องบินเล็ก เฮลิคอปเตอร์ และหมาลากเลื่อน เพราะเหตุนี้ทำให้การที่จะไปเยือนกรีนแลนด์สักครั้งต้องตัดสินใจเลือกที่จะไปส่วนใดของเกาะกรีนแลนด์ตั้งแต่ก่อนออกเดินทางว่าจะไปแห่งหนใด เหนือ ใต้ ตะวันออก หรือตะวันตก
สำหรับกรีนแลนด์ตะวันออกผู้คนจากโลกภายนอกยังเข้าถึงน้อยกว่าทางตอนใต้ที่มีเมืองหลวงตั้งอยู่ และทางตะวันตกที่มีสถานที่ท่องเที่ยวและเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมรับนักเดินทาง ซึ่งต่างจากกรีนแลนด์ตะวันออกที่ยังไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากนัก ผู้คนยังคงล้าหลังในหลายเรื่อง ทั้งการศึกษาและวิธีคิด การใช้ชีวิต ทำให้ผู้คนในกรีนแลนด์ตะวันออกมีชีวิตที่ไม่งดงาม เหมือนธรรมชาติที่อยู่รอบตัวของพวกเขา
ภูมิภาคกรีนแลนด์ตะวันออกนี้ ประกอบไปด้วยชุมชนเล็กๆ5 ชุมชนมีประชากรรวมกันทั้ง5 ชุมชน ราว 900 คน คือ หมู่บ้าน Tiniteqilaaq ,Sermiligaaq, Kuummiut,Isortoq และ2ชุมชนใหญ่คือ Kulusuk ชุมชนที่มีสนามบิน และ Tasiilaq ที่เรียกกันว่าเป็นเมืองหลวงของกรีนแลนด์ตะวันออก ภูมิภาคขนาดใหญ่กับประชากรบางเบานี้มีธรรมชาติที่สวยงามโอบล้อม เทือกเขาสูงใหญ่ น้ำตกมากมาย ทะเลสาปแสนสวยสีฟ้าใส ดอกไม้อาร์ติกหลากหลายสายพันธุ์ สัตว์ป่าหาดูยาก รวมไปถึงก้อนน้ำแข็งสูงใหญ่รูปทรงแปลกตาที่แตกหักออกมาจากธารน้ำแข็งหลายลูก หนึ่งในภูเขาน้ำแข็งที่มีน้ำแข็งแตกออกมามากที่สุดคือ Helheim Glacial ที่มีน้ำแข็งละลายแตกหักถึง 5% ของภูเขาน้ำแข็งทั้งหมดในเกาะกรีนแลนด์
การมีชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ในภูมิภาคกรีนแลนด์ตะวันออกนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม คือ สังคมนักล่า ล่าสัตว์เกือบทุกชนิทที่เจอมาเป็นอาหารในแต่ละมื้อแต่ละวัน สัตว์ป่าที่ได้มามีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น นก ปลาชนิทต่างๆ แมวน้ำ วัวป่า ปลาวาฬหลากสายพันธุ์ รวมไปถึงหมีขาวขั้วโลกเหนือ การใช้ชีวิตที่นี่ไม่มีเวลาเป็นเครื่องกำหนด มีเพียงระดับน้ำขึ้น น้ำลง ทัศนวิสัยในการมองเห็น สภาพน้ำแข็ง ลม ฝน เป็นตัวกำหนดการทำงานล่าสัตว์ในแต่ละวันว่าจะเริ่มงานเมื่อไหร่ไหนและจบงานตอนไหน การดำรงชีวิตที่ไม่มีระเบียบแบบแผนนี้สร้างความประหลาดใจให้กับนักเดินทางที่ได้ไปเยือนภูมิภาคนี้ยิ่งนัก จนนำพาให้เริ่มมีนักเดินทางเข้าไปในภูมิภาคนี้มากขึ้น เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่น่าค้นหา
เมื่อมีผู้ไปเยือนมากขึ้นทุกปี โลกสมัยใหม่ก็นำพาสิ่งอำนวยความสะดวก เทคโนโลยี ตามติดไปด้วย การดำรงชีวิตแบบเก่าก่อนก็ค่อยๆเริ่มจางลง เริ่มเห็นบ้านเล็กหลายหลังมีเสาจานรับดาวเทียม คนพื้นเมืองหลายคนมีโทรศัพท์มือถือ รถยนต์เริ่มเข้ามาแทนที่หมาลากเลื่อน ต่างๆเหล่านี้นำพาผู้คนในพื้นที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้เขียนได้มีโอกาสไปภูมิภาคนี้ทุกปีตลอดระยะเวลา5 ปี ก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของคนพื้นเมืองที่พยายามปรับตัวตามโลกสมัยใหม่ เปลี่ยนจากไล่ล่าหาสัตว์มาเป็นอาหาร หิวก็ล่า อิ่มก็นอนเล่น เปลี่ยนมาวิ่งไล่ล่าหาเงิน(จากนักท่องเที่ยว) มาซื้ออาหารและวัตถุ ก็พาให้คิดว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะนำพาผู้คนในภูมิภาคนี้ไปในทิศทางใด และภูมิภาคนี้ยังจะได้ชื่อว่าเป็น The heart of Old Greenland ไปอีกนานเพียงไร ไว้จะติดตามมาเล่าเรื่อยๆ 😊🙏
1 บันทึก
6
12
2
1
6
12
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย