1 เม.ย. 2020 เวลา 09:51 • สุขภาพ
วัคซีนป้องกันโควิด ความหวังเรืองรอง
การต่อสู้ป้องกันไวรัสโควิด-19 นั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ วัคซีน ถ้าคิดค้นวัคซีนสำเร็จ ผ่านกระบวนการทดลองใช้ จนผลิตออกมาได้เป็นจำนวนมากแล้ว จึงจะทำให้สถานการณ์ทั่วโลกเริ่มกลับคืนสู่ปกติ คนที่ได้ฉีดวัคซีนแล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าจะติดเชื้อไวรัสนี้อีกต่อไป อุ่นใจ วางใจ ที่จะดำเนินชีวิตตามปกติ ไปทำงาน ไปซื้อข้าวของ หรือเดินทางท่องเที่ยวได้ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วก็จะกล้าเดินทางมาไทย เราก็กล้าที่จะรับเขาเข้าประเทศ การพยายามให้คนอยู่บ้านหรือปิดเมือง ปิดประเทศตอนนี้ เป็นเพียงการดึงเวลาให้การระบาดไม่เร็วเกินไป คนไข้จะได้ไม่ล้นโรงพยาบาล และรอเวลาให้วัคซีนสำเร็จ
วัคซีนคืออะไร
วัคซีน คือ การใช้ส่วนประกอบของไวรัสหรือจุลินทรีย์(แอนติเจน) ซึ่งมีกลไกกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ฉีดเข้าในร่างกายมนุษย์ บางคนกลัวว่าถ้าตนร่างกายอ่อนแอ ฉีดวัคซีนจะทำให้ติดโรคหรือเปล่า ตอบว่า ไม่ต้องกลัว เพราะวัคซีนทำจากเชื้อที่ตายแล้วหรืออ่อนแรงจนไม่สามารถทำให้เกิดโรคได้แล้ว หรือใช้แค่ส่วนประกอบของเชื้อโรคเท่านั้น จึงไม่ทำให้เกิดโรคแต่อย่างใด ซึ่งก่อนจะผลิตออกมาใช้ จะต้องมีการทดสอบการใช้วัคซีนทั้งในสัตว์และในคนจริง ๆ หลายขั้นตอนมาก จนมั่นใจว่าได้ผล ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง จึงจะผลิตออกมาใช้จำนวนมากได้ ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ร่างกายก็จะสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาทำให้ไม่กลัวเชื้อโรคนั้นอีก
ความคืบหน้าวัคซีนป้องกันโควิด
1.ในสหรัฐอเมริกา
เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ของสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศว่า จะสามารถดำเนินการทดลองใช้วัคซีนไวรัสโควิดได้ในเดือนกันยายนปีนี้ และจะสามารถผลิตออกมาใช้งานจริงได้ในต้นปีหน้า โดยผลิตได้สำหรับปีละ 1,000 ล้านคน โดยได้รับเงินอุดหนุนจากทางรัฐ ราว 1,000 ล้านดอลลาร์ หลังประกาศ หุ้นของบริษัทขึ้น 8%
นอกจากนี้ บริษัทสตาร์ทอัพ ชื่อ Moderna ก็กำลังคิดค้นผลิตวัคซีนเช่นกัน โดยเมื่อทางการจีนได้ถอดรหัสพันธุกรรม(DNA) ของไวรัสโควิดนี้ และเปิดเผยสู่สาธารณะเมื่อ 11 มกราคม 2563 ทางบริษัท Moderna ก็ใช้เวลาเพียง 42 วัน สร้างวัคซีนต้นแบบขึ้น โดยศึกษารหัสพันธุกรรมนี้ และสังเคราะห์วัคซีนจากสารประกอบทางเคมี เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
4 มีนาคม 2563 องค์การอาหารและยา(FDA) ของทางการสหรัฐอเมริกา ตรวจสอบวัคซีนต้นแบบนี้เสร็จและอนุญาตให้นำไปทดลองใช้ในกลุ่มทดลองได้
16 มีนาคม 2563 วัคซีนต้นแบบเข็มแรกได้ถูกฉีดเข้าในคนกลุ่มทดลองคนแรก โดยจะใช้กลุ่มทดลองทั้งหมด 45 คน อายุตั้งแต่ 18-55 ปี ดูผลเป็นเวลา 6 สัปดาห์ จากนั้น เมื่อปรับปรุงแล้วก็จะนำไปทดลองใช้ในกลุ่มที่ใหญ่ขึ้น และปรับปรุงอีกเป็นลำดับ คาดว่าจะเสร็จผลิตออกใช้ได้ต้นปีหน้าเช่นกัน
ผู้ทดลองฉีดวัคซีนโควิดคนแรกของประเทศจีน
แต่เดิมการผลิตวัคซีน จะใช้วิธีเพาะเชื้อในไข่ไก่ เซลล์ของกระต่ายหรือลิง ใช้เวลาในกระบวนการผลิตราว 1-1.5 ปี แต่ทางบริษัท Moderna ใช้วิธีการใหม่ ที่เรียกว่า mRNA โดยสังเคราะห์วัคซีนจากการศึกษารหัสพันธุกรรมของไวรัสโดยตรง ทำให้ลดเวลาในการผลิตเหลือแค่ราว 1 เดือน ถ้าสำเร็จถือเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าการผลิตวัคซีนไปโดยสิ้นเชิง
2. ในประเทศญี่ปุ่น
บริษัทอันเจส ของญี่ปุ่น ก็ใช้วิธีการสังเคราะห์วัคซีนใหม่อีกแบบ ที่เรียกว่า DNA วัคซีน โดยใช้เวลาเพียง 20 วัน ผลิตวัคซีนต้นแบบจากการศึกษารหัสพันธุกรรมของไวรัส กำลังทดลองใช้ในสัตว์และจะเริ่มทดลองใช้ในคนต่อไป คาดว่าจะผลิตออกใช้ทั่วไปได้ต้นปีหน้า
ในเยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส อิสราเอล รัสเซีย ก็กำลังมีการวิจัยวัคซีนโควิดกันอย่างเข้มข้น
3.ในประเทศจีน
สถาบันวิจัยทางการแพทย์จีน ได้ผลิตวัคซีนต้นแบบขึ้น และทดลองฉีดวัคซีนเข็มแรกในคนกลุ่มทดลอง เมื่อ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา ห่างจากอเมริกาเพียง 1 วัน และกำลังทุ่มเทการศึกษาพัฒนาอย่างเข้มข้น คาดว่าจะผลิตวัคซีนออกใช้ทั่วไปได้สำเร็จต้นปีหน้าเช่นกัน
สรุป
ขณะนี้ทั้งอเมริกา ญี่ปุ่น จีน ต่างคาดการณ์ว่าจะผลิตวัคซีนสำเร็จในต้นปีหน้า แต่ในเดือนเมษายน 2563 นี้ คาดว่าผู้ติดเชื้อในสหรัฐอเมริกา จะมีราว 3-5 ล้านคน มีคนตายเกิน 1 แสนคน การระบาดจะเกิดขึ้นทั่วทุกทวีป ทุกมุมโลก สถานการณ์จะเร่งรัดให้การผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสโควิดเกิดเร็วขึ้นไปอีก คาดว่าในเดือนกันยายนนี้หรือเร็วกว่านั้น วัคซีนโควิดน่าจะออกมาใช้งานได้ รอดูว่าจีนจะสร้างปาฏิหาริย์ได้หรือไม่
บริษัทใดของประเทศไหนทำวัคซีนสำเร็จได้ก่อน จะเป็นเหมือนอัศวินขี่ม้าขาว ช่วยชีวิตชาวโลกนับล้านๆ คน ชื่อเสียงเกียรติภูมิ ผลตอบแทนจะกลับมาอย่างมหาศาล

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา