Work From Home ดีกว่าจริงหรือ?
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในสถานการณ์การระบาดโควิด-19 แบบนี้ การทำงานจากที่บ้าน, work from home หรือ working remotely ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด และวิธีการทำงานแบบนี่เองที่ใครหลายๆคนอยากได้จากที่ทำงานมานานแล้ว
ในหลายๆองค์กรมีการรณรงค์ให้พนักงานทำงานจากที่บ้านในหลายๆตำแหน่งมาก่อนที่จะมีโควิด-19 เสียอีก และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในต่างประเทศ แต่ทราบหรือไม่ว่า ในสถานการณ์ที่ทุกอย่างยังคงปกติ มิใช่ทุกคนที่จะชอบการทำงานในลักษณะนี้ เพราะอะไรน่ะหรือ ??
1. ค่าใช้จ่ายจำเป็นที่เพิ่มมากขึ้น
จริงอยู่ว่าการทำงานจากที่บ้านนั้น จะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายบางส่วนจากการเดินทาง อาหาร การแต่งตัว(ในบางคนเท่านั้น) หรือการสังสรรค์หลังเลิกงาน แต่กลับมีค่าใช้จ่ายบางอย่างที่เราต้องแบกภาระมากขึ้น เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าสปีดอินเทอร์เน็ต และยังไม่รวมการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ เป็นต้น
2. นอกจากค่าใช้จ่ายเหล่านั้นแล้ว สำหรับบางท่านอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในเรื่องของอาหาร เพราะในบางองค์กรมีสวัสดิการอาหารฟรีในหว่างทำงาน รวมไปถึงของว่าง กาแฟ ต่างๆ แต่หากทำงานจากที่บ้าน ท่านจำเป็นต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้เอง อีกทั้งจากการสำรวจบางแห่งพบว่า โอกาสที่ท่านจะทานบ่อยขึ้นมีมากตามไปด้วย
3. รู้สึกทำงานมากกว่าปกติ อันนี้ในบางท่านอาจเป็นเพียงความรู้สึก แต่สำหรับบางท่านข้อนี้ถือเป็น Fact เลยทีเดียว จากที่เคย 5 โมงเย็นดีดตัวออกจากเก้าอี้ กลับกลายเป็นว่าต้องทำงานล่วงเวลาไปอีกเพราะงานยังไม่เสร็จ งานต่างๆที่สะสมมาอาจจะเป็นเพราะ คุณไม่ได้ทำงานเต็มระยะเวลาเหมือนตอนอยู่ที่ออฟฟิศ หรือหัวหน้าของคุณไม่เห็นว่าคุณงานยุ่งมากแค่ไหนแล้ว จึงได้มอบหมายงานเพิ่มเติมให้
4. บางงานไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร โดยเฉพาะในกลุ่มงานที่ต้องอาศัยการประสานงาน หรืองานที่ต้องทำร่วมกัน เคยมั้ย..นั่งทำงานใกล้ๆกันแค่หันไปถามงานก็ได้คำตอบ แต่เมื่อเป็นการทำงานจากที่บ้าน จะโทรไปถามบ่อยๆก็เริ่มรู้สึกเกรงใจ ไม่รู้เพื่อนหรือหัวหน้าจะว่างให้ถามได้หรือเปล่า บางครั้งถึงกับต้องส่งเวลาขอประชุมด้วยเรื่องเล็กน้อย และอาจพบอุปสรรคในการสื่อสารมากขึ้น หรือแม้กระทั่งงานในสายอื่นๆ อาจจะมีพนักงานบางคน ที่ใช้โอกาสนี้ในการเอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน ทำงานบ้างไม่ทำบ้าง หากเป็นเช่นนั้นตัวหัวหน้างานเองก็ควบคุมเรื่องนี้ได้ยาก
5. รู้สึกไม่เป็นอิสระและไม่มีสมาธิในการทำงาน เคยมีเพื่อนร่วมงานท่านนึงถึงกับขอหัวหน้าไปทำงานที่บริษัทเพียงคนเดียวในช่วงเวลาการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยให้เหตุผลว่า ไม่มีสมาธิในการทำงาน เนื่องจากเธอมีลูกเล็กอยู่ที่บ้าน และแน่นอนว่าเธอต้องดูแลลูกของเธอนอกเหนือจากการทำงานไปด้วย อีกตัวอย่างหนึ่งคือ ชายอเมริกันคนนึงให้สัมภาษณ์ว่าเขาเกลียดการทำงานจากที่บ้าน เนื่องจากภรรยาของเค้าชอบวานให้เขาไปตลาดเพื่อซื้อของเข้าบ้าน เพราะเห็นว่าเขาอยู่ที่บ้านตลอดเวลา
นอกจากนี้อาจรวมไปถึงงานต่างๆที่ต้องใช้สมาธิ การอาศัยอยู่กับครอบครัวหรือเพื่อนที่ไม่ได้มีงานในลักษณะเดียวกันอาจจะกลายเป็นอุปสรรคในการทำงานมากขึ้น
6. ความกระตือรือร้น หรือแรงจูงใจในการทำงานลดลง
ด้วยสภาพแวดล้อมในการทำงาน อาจส่งผลให้ความทะเยอทะยานหรือการมองเห็นเป้าหมายในการทำงานน้อยลงได้มาก เนื่องจากไม่เห็นบรรยากาศคนทำงาน หรือภาพของผลความสำเร็จที่ชัดเจนมากเท่ากับการอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ
7. ปล่อยตัวมากขึ้น จากที่เคยต้องดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะหน้าตา ผิวพรรณ หุ่น การแต่งตัว เมื่อคุณทำงานจากที่บ้าน คนส่วนใหญ่จะเห็นความสำคัญเรื่องนี้น้อยลง ถึงแม้จะบอกว่ามีเวลาในการใช้ชีวิตมากขึ้น แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะใช้เวลาที่ได้เพิ่มมานั้นไปกับการดูแลหรือพัฒนาตัวเอง เหมือนตอนคุณตั้งเป้าหมายชีวิตช่วงปีใหม่นั่นไงล่ะ
8. เหงา ใครจะไปคิดล่ะว่าการทำงานในฝันอย่าง Work From Home จะทำให้เราเหงาขนาดนี้ เพราะสุดท้ายแล้วมนุษย์ก็ยังเป็นสัตว์สังคม หากคุณไม่ใช่ Introvert จัดๆ การอยู่แต่ในบ้านอาจทำให้คุณหดหู่มากขึ้น สุดท้ายในสถานการณ์ปกติคุณก็จะพยายามหาข้ออ้างในการออกจากบ้าน นัดเจอเพื่อนอยู่ดี หรือแม้กระทั่งเอางานออกไปหาที่นั่งทำข้างนอก
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเหตุผลหลักๆที่ว่า ทำไมสำหรับบางคน การทำงานจากที่บ้านถึงไม่ใช่ทางเลือกที่ชอบนัก เชื่อว่าแต่ละท่านคงมีโอกาสได้สัมผัสการทำงานแบบนี้ในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ และคงตอบตัวเองได้ว่าสำหรับท่าน การทำงานแบบไหนเหมาะกับลักษณะนิสัยหรือการใช้ชีวิตของตัวเองมากกว่ากัน
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
