5 เม.ย. 2020 เวลา 03:29 • ข่าว
Oil Update ! : ตลาดน้ำมันล่าสุด พลิกไพ่กันอีกแล้ว !! OPEC+ ขอเลื่อนประชุม ปูตินชี้ชัด "สหรัฐฯ ต้องร่วมด้วย" ส่วนทรัมป์เริ่มส่อแววเดือด เตรียมขึ้นภาษีน้ำมันนำเข้า ขณะที่สื่อรัสเซียและซาอุฯ ยังโจมตีกันไม่หยุด !
OPEC+ (โอเปกและพันธมิตร) ขอเลื่อนการประชุมด่วนระหว่างกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันทั่วโลกในวันจันทร์นี้ออกไป ซึ่งกลุ่มพันธมิตรต่าง ๆ ดูเหมือนจะต้องการเลื่อนประชุมไปเป็นวันที่ 9 เมษายน 2563
"ผู้ผลิตต้องการเวลาในการเจรจากันก่อน" ตัวแทนของกลุ่ม OPEC+ กล่าว แม้ว่ารัสเซียและซาอุฯ จะมีสัญญาณว่าพวกเขาต้องการให้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันอื่น ๆ มีส่วนร่วมกับการลดผลผลิตน้ำมันด้วย (โดยเฉพาะสหรัฐฯ)
การเลื่อนประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลายชั่วโมงหลังจากการโจมตีกันไปมาระหว่างสื่อของรัสเซียและซาอุฯ ในเมื่อวานนี้ ซึ่งยิ่งทำให้ความหวังในการลดผลผลิตเป็นไปได้ยากขึ้น
ข้อสังเกต : ทำไมคราวนี้ OPEC+ กลายเป็นคนลีลาซะเอง ? เกมการเมืองครั้งนี้พลิกไพ่กันไปมาตลอด ต่างคนต่างเดินหมากที่ดีที่สุดของตัวเอง มันมีอะไรมากกว่าที่ออกข่าวมาให้พวกเราเห็นหรือเปล่า ??
© Pixabay / FelixMittermeier
ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่า OPEC+ กำลังทำข้อตกลงเพื่อลดการผลิตน้ำมันที่เทียบเท่าประมาณ 10% ของอุปทานโลกหรือ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในสิ่งที่ประเทศสมาชิกคาดหวังว่าจะเป็นความพยายามระดับโลกที่ไม่เคยมีมาก่อน รวมถึงสหรัฐอเมริกา
แต่ปัญหาคือสหรัฐฯ ยังไม่ได้ให้คำมั่นที่จะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ และปูตินที่แม้จะส่งสัญญาณว่าพร้อมเจรจา แต่ก็กล่าวตำหนิการล่มสลายของราคาน้ำมันครั้งนี้ว่าเป็นความผิดของซาอุฯ
หลังจากนั้นทางฝั่งซาอุฯ ออกมาตอบโต้ว่า "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของรัสเซียต่างหาก เป็นคนแรกที่ประกาศต่อสื่อว่าข้อตกลงน้ำมันทั้งหมดกับกลุ่ม OPEC+ จะถูกยกเลิกในวันที่ 1 เมษายน 2563 และนำไปสู่การตัดสินใจของประเทศต่าง ๆ ในการยกระดับการผลิตของพวกเขา"
และการตอบโต้กันไปมานี้ก็ยังดำเนินการมาจนถึง ณ ตอนที่ World Maker เขียนบทความนี้ (05/04/2563 เวลา 9.23 น.)
ต่อจากนั้นรัสเซียประกาศออกมาอย่างว่าจะยอมลดกำลังการผลิต 10% โดย !!! มีเงื่อนไขอย่างชัดเจน ว่า "สหรัฐฯ ต้องลดการผลิตด้วยในปริมาณ 10% เท่ากัน" (ปูตินหงายไพ่ใบที่ 2 แล้ว)
ทีนี้ลองมาวิเคราะห์ดูว่าไอ 10% เนี่ยมันคิดเป็นเท่าไหร่กันแน่? แล้วจะถึงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10 ล้านบาร์เรลต่อวันหรือไม่? โดยมีเงื่อนไขง่าย ๆ เลยก็คือ "สหรัฐฯ ซาอุฯ และรัสเซีย ตกลงที่จะลดกำลังการผลิตของตนเอง 10%"
1. ปัจจุบันกำลังการผลิตโดยคร่าว ๆ ของสหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณ 15 ล้านบาร์เรลต่อวัน ดังนั้น 10% = 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
2. ปัจจุบันกำลังการผลิตโดยคร่าว ๆ ของซาอุฯ อยู่ที่ประมาณ 12 ล้านบาร์เรลต่อวัน ดังนั้น 10% = 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
3. ปัจจุบันกำลังการผลิตโดยคร่าว ๆ ของรัสเซีย อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน ดังนั้น 10% = 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ดังนั้นหากพี่ใหญ่ 3 ประเทศนี้ร่วมมือกันจะลดกำลังการผลิตได้ประมาณ 3.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งหมายความว่าน้องเล็กอีก 20 ประเทศ จะต้องลดกำลังผลิตรวมกันให้ได้ 6.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน (That's Impossible!)
ที่มัน "เป็นไปไม่ได้" ก็เพราะการกำลังการผลิตของ 20 ประเทศที่เหลือรวมกันยังไม่ถึง 30 ล้านบาร์เรลต่อวันเลย ซึ่งหากจะลดให้ได้ 6.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน มันหมายถึงแต่ล่ะประเทศใน 20 ประเทศนั้น ต้องลดกำลังการผลิตของตัวเองลงถึง 20% (แล้วใครจะไปยอมล่ะ พี่ใหญ่ยังลดแค่ 10%)
สรุปแล้วก็คือ...การลดกำลังผลิต 10-15 ล้านบาร์เรลที่ทรัมป์ ปูติน และ MBS หวังนั้น ไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลยในเงื่อนไขปัจจุบันนี้
กลับมาที่ปัจจุบัน ขณะที่สื่อรัสเซียและซาอุฯ กำลังโจมตีกันไปมา โดยเฉพาะรัสเซียที่แสดงอย่างชัดเจนว่า "ยังไงก็ได้ มาเถอะ" เป็นอารมณ์ที่พร้อมเจรจาและพร้อมรบในขณะเดียวกัน ส่วนท่าทีของซาอุฯ นั้นไม่ชัดเจนกับสหรัฐฯ เท่าไหร่นัก แต่ก็ยังกล่าวโจมตีรัสเซียอย่างชัดเจน (เหมือนกำลังยื้อเวลาอะไรสักอย่าง)
ทันใดนั้นเอง สหรัฐฯ ที่ดูเหมือนจะเดือดร้อนที่สุด ได้ทำการเคลื่อนไหวครั้งใหม่เมื่อทรัมป์ประกาศขู่ว่าจะ "ขึ้นภาษีน้ำมันนำเข้า" !!!
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาทรัมป์ได้ออกแถลงการณ์ว่า "เขาจะขึ้นภาษีสำหรับการนำเข้าน้ำมันดิบ หากจำเป็นต้องทำ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐฯ ไม่ให้ล่มสลาย โดยเฉพาะ Shale Oil"
ทรัมป์กล่าวว่าเขาไม่ได้พิจารณาภาษีในขณะนี้ แต่มันเป็นวิธีที่เขาจะใช้ "หากไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม" ซึ่งสหรัฐฯ นำเข้าน้ำมันมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากรัสเซียและซาอุฯ รวมกันในปี 2562 ตามข้อมูลของกระทรวงพลังงานของสหรัฐฯ (EIA)
1
ประโยคทิ้งท้ายของทรัมป์ในแถลงการณ์นั้นดูเหมือนจะเพิ่มความรุนแรงขึ้น โดยเขากล่าวว่า "หากรัสเซียและซาอุฯ ไม่ทำข้อตกลงกัน พวกเขาจะเสียหายเอง และผมก็ไม่ได้แคร์ว่า OPEC จะอยู่รอดหรือไม่ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรักษาธุรกิจ Shale oil ของสหรัฐฯ เอาไว้"
อย่างไรก็ตาม ความคิดนี้ของทรัมป์ถูกต่อต้านโดย 2 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักของประเทศคือ 1.สมาคมปิโตรเลียมแห่งอเมริกา 2.กลุ่มผู้ผลิตเชื้อเพลิงและปิโตรเคมี โดยเมื่อวันพุธได้เขียนจดหมายถึงทรัมป์ มีรายละเอียดสำคัญว่า
"อัตราภาษีนำเข้าน้ำมันอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจอื่น ๆ ภายในประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจโรงกลั่น เนื่องจากโรงงานบางแห่งจำเป็นต้องพึ่งพาน้ำมันดิบจากต่างประเทศ"
วิเคราะห์และสรุปสั้น ๆ โดย World Maker
จากข่าวที่ผ่าน ๆ มา เราจะเริ่มเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นแล้วว่าเป้าหมายของรัสเซียไม่ใช่ซาอุฯ แต่เป็นสหรัฐฯ จากคำกล่าวต่าง ๆ และการปฎิเสธข้อกล่าวหาเรื่องนี้โจมตี Shale Oil ของสหรัฐฯ กันไปมา (ไม่มีมูล หมามันไม่ขี้หรอกครับ)
ส่วนเรื่องความเป็นไปได้นั้น World Maker ยังมองว่ายากอยู่ เนื่องจากทรัมป์เริ่มส่อแววเล่นไม้แข็งอีกแล้ว ส่วนปูตินนั้นยื่นข้อเสนอชัดเจนว่าสหรัฐฯ ต้องร่วมกันลดด้วย ไม่งั้นจะไม่มี Deal ใด ๆ เกิดขึ้น ทำให้จุดต่อไปของเรื่องนี้คือ "ถ้าไม่ดีขึ้นไปเลย ก็รุนแรงขึ้นกว่าเดิมแน่ ๆ"
และที่สำคัญเลยคือประเด็นที่จะขึ้นภาษีนำเข้าน้ำมัน !! เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ Supply Chain ของน้ำมันโลกเปลี่ยนแปลงแน่นอนครับ Decoupling ระหว่างประเทศจะสูงขึ้นกว่าเดิมไปอีก ตรงนี้ผมกลัวว่าความตึงเครียดระหว่างประเทศจะทวีความรุนแรงขึ้นไปด้วยน่ะสิ
1
สรุป...กุญแจสำคัญของเรื่องนี้ดูเหมือนรัสเซีย, ซาอุฯ และกลุ่ม OPEC+ จะพุ่งเป้าไปที่ "การตัดสินใจของสหรัฐฯ" มากกว่าการ "ตัดสินใจของตนเอง"
ทิ้งท้ายบทความนี้ด้วยภาพกำลังการผลิตของสหรัฐฯ รัสเซีย และกลุ่ม OPEC+ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งไม่ต้องย้อนไปถึง 10 ปีก็พอจะอธิบายได้ทุกอย่างว่าจริง ๆ แล้วใครกันแน่ที่ "ไม่เคยปฎิบัติอย่างเป็นธรรม" กับผู้อื่นเลย
การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และการติชมในเชิงสร้างสรรค์ของคุณ เป็นกำลังใจให้เราและเหล่าอาชีพนักเขียนทุกคนในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างสังคมการเรียนรู้ที่ดีด้วยกันกับเรา
World Maker
สามารถติดตาม World Maker ผ่านทาง Facebook ได้แล้ววันนี้ที่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา