5 เม.ย. 2020 เวลา 06:10 • ความคิดเห็น
ครึ่งเดือนหลังปิดร้านเหล้าชั่วคราว....
เมื่อค่ำวานนี้ ผมไปเก็บของที่ร้านมา เพราะประเมินแล้วว่าคงยาวแน่ๆ ก็เลยไปเก็บของมีค่าที่อาจเสียหายได้
เก็บไปเก็บมา เจอเบียร์อยู่ลังกว่าๆ ก็เลยเอาซะหน่อย 😁
นั่งกินเงียบๆ คนเดียวนั่นแหละ
...นั่งมองร้านเงียบๆ ก็เหงาๆนะ ปกติมันจะมีบรรยากาศปาร์ตี้ตลอด
...หยิบถุงบิลเก่ามาดูเล่นๆ ก็รู้สึกว่าเสียดายเงินที่หายไป
...สิบกว่าวันนี่น่าจะทำกำไรได้สองสามหมื่นอยู่ ในสภาวะปกติ....
....ผมนึกแบบนั้นในหัว...
มองรอบตัว โต๊ะ เก้าอี้เต็มไปด้วยฝุ่น ส่วนที่เป็นเบาะหนังก็แห้งแตกเพราะไม่มีใครเช็ด ทาน้ำยา
ถึงจะไม่เสียค่าเช่าช่วงนี้ แต่กับสภาพความเสื่อม ก่อนจะกลับมาเปิดนี่ก็คงต้องทำใหม่หลายตังเหมือนกัน
ไม่น่าเชื่อ แค่สิบกว่าวันเอง
ครั้งนี่ต่างจากตอนงานพระบรมศพ
เพราะตอนนั้นเรายังเข้ามาดู มานั่งเล่นกับเพื่อนๆเรื่อยๆ ร้านมันจึงไม่โทรมมากนัก
แม่บ้านโครงการก็ยังมี จ้างเขาดูแลได้ตลอด
แต่ครั้งนี้ด้วยความกลัว จึงไม่มีใครทำแบบนั้น แม้แต่ตัวเราเองก็ไม่อยากไปไหน
แม่บ้านของโครงการที่เช่าทำร้าน ตอนนี้ก็ไม่มี กลับบ้านเยอะ มันเลยยิ่งไปกันใหญ่
ผมนั่งสักพัก พี่เจ้าของโครงการก็เดินผ่านมาทักทาย ก็เลยชวนแกนั่งคุย นั่งดื่มกัน
ตามนโยบายเว้นระยะ เราเลยนั่งกันคนละโต๊ะ ไม่หันหน้าหากัน
แต่ด้วยความที่มันเงียบมาก คุยเบาๆยังได้ยินเลย
เงียบขนาดไหนก็คิดดู...
"อย่าว่าแต่คนเช่าเลยคุณสุ คนให้เช่าก็แย่"
...แกว่า...
แกบอกผมว่า ตอนนี้ทุกร้านมาของดค่าเช่ากันเยอะ กับร้านอาหารบางร้าน อย่างร้านชาบู , เนื้อย่าง แกจำเป็นต้องให้งดชั่วคราว เพราะนั่งทานไม่ได้และก็ออนไลน์ไม่ได้
ส่วนร้านที่ยังเปิดได้แกก็ต้องลดให้ครึ่งหนึ่ง หรือไม่ก็ยังไม่เอาในตอนนี้ ทำให้แกเสียรายได้ไปมาก
...จะไม่ยอมก็เสียดายผู้เช่าอีก....
ประกอบกับแกเพิ่งลงทุนทำยิมฟิตเนสไปหลายล้านในโครงการด้วย แกบอกเลยว่าแกเจ็บหนัก ยิ่งช่วงนี้อพาร์ตเมนต์แกก็แทบจะร้างอยู่แล้ว
แกจึงแทบไม่มีรายได้เลย
ผมฟังแล้วก็ได้แต่ปลง ขนาดรวยๆอย่างแกยังเจ็บขนาดนี้ แล้วคนธรรมดาๆจะเหลืออะไรล่ะ
ผมนึกไปถึงเด็กเสริฟ นักดนตรีต่างๆ ก็ไม่รู้ว่าป่านนี้เป็นไงบ้าง ถ้ามันนานๆไปเขาจะทำยังไงกัน พวกนี้ไม่มีรายได้คืออดเลยนะ ไม่ใช่แบบพี่เจ้าของโครงการ
คิดเลยเถิดไปถึง เศรษฐกิจภาพรวม ถ้าคนเจ๊งกันเยอะๆ นี่ก็คงสาหัสน่าดู..
ยิ่งคิดก็ยิ่งห่วง แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็ได้แต่รอและหวังกันไป
"คุณสุคิดว่าจะทำต่อไหม?"
...อยู่ๆ แกก็ถามขึ้นมา...
แกรู้ว่าร้านเหล้าไม่ใช่ธุรกิจหลักของผม
การที่ยืดเยื้อมากๆก็เป็นไปได้ที่ผมจะเลิก
บอกตรงๆนะ ผมเองก็ไม่มั่นใจ
แต่ก็ตอบแกแบบแบ่งรับแบ่งสู้
"...ถ้าไม่มีร้านคุณสุ ที่นี่คงเงียบไปอีกเยอะเลยล่ะ"
...น้ำเสียงราบเรียบและสายตาที่มองไปแบบไร้จุดหมายนั้น ผมเข้าใจได้ดีทีเดียว...
...COVID ทำให้โลกนี้ไม่มีเสือนอนกิน อย่างน้อยก็ตอนนี้...
...ทุกอย่างหลังจากนี้ จะไม่เหมือนเดิม...
...ผมบอกตัวเองแบบนั้นในระหว่างขับรถกลับไปบนถนนที่เงียบงัน เมื่อเวลาใกล้สี่ทุ่ม....
...อีกนานแค่ไหน มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้......😔😔😔
โฆษณา