F1 ดีกว่า Go-Kart จริงหรอ ?
แม้ว่าทุกวันนี้เราจะไม่มีศึกฟุตบอลใดๆก็ตามให้รับชมกันอย่างก่อนที่จะเกิดการระบาดของ COVID-19
จะมีก็เพียงแต่ประเทศ Belarus นั้นที่ยังยืนหยัดเปิด league ให้แข่งกันต่อโดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรห์มอะไรทั้งนั้น จากการควบคุมโรคที่ได้ประสิทธิภาพในประเทศนั้นหรืออย่าไรก็มิทราบ ทำให้ฟุตบอล league จาก Belarus นั้นได้รับความสนใจขึ้นมาทันที
แม้ว่าทางยุโรปจะไม่มีการฟาดแข้งไปอย่างน้อย 1-2 เดือนนั้น ในขณะที่ทุกคนนั้นกำลังคิดถึงฟุตบอลกันอยู่ การติดตามข่าวสารวงการฟุตบอลก็อาจจะพอบรรเทาอาการลงแดง match การแข่งขันได้ไม่น้อย
ซึ่งถ้าข่าวที่ว่ามันเป็นข่าวคราวการย้ายตัวหรือข่าว gossip ต่างๆนั้นมันก็ใช้ได้เมื่อ The Sun สื่อแห่งการนั่งเทียนเขียนข่าว แต่ถ้าเป็นข่าวฉาวนี่พี่แกแม่นจริง
Kyle Walker ที่โดนกระแสชุดใหญ่เข้าไปก็คือผลงานชิ้นเอกของเขาแหละ
แต่ถ้าเป็นการฟาดปากระหว่างนักเตะแทนล่ะ?
ก่อนหน้านี้ทุกคนได้ทราบกันดีแล้วถึงเรื่องราวของการแข่ง(เป็น)รถของสองหัวหอกตราไก่อย่าง Karim Benzema และ Olivier Giroud
ซึ่งก็นั่นแหละ เป็นฝั่งเทพเบนซ์ที่อยู่ๆก็อยากเป็นรถแข่งสูตรหนึ่งซะงั้น ซึ่งเขาได้ทำการเปรียบเทียบตัวเขาเองกับ Giroud ในเรื่องของฝีเท้า ความสามารถ ให้ออกมาอยู่ในรูปของรถ...?
“อย่าสับสนระหว่าง formula one กับ go-kart”
คงไม่ต้องเล่าเรื่องอะไรให้มากมาย
เรื่องมันก็มีอยู่ว่า ระหว่างช่วง outbreak ที่อาจจะทำให้เหล่านักเตะนั้นว่างเกินไป จากการที่ต้องเข้า camp ซ้อมอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนนี้ ซึ่งเป็นช่วงโค้งสุดท้ายที่เข้มข้นที่สุดของฤดูกาลในการล่าถ้วยรางวัลต่างๆ
กลายเป็นว่าพวกเขานั้น ต้องนั่งกินข้าว เล่นเกม ดูทีวี อยู่ที่บ้านกับครอบครัวแทน
ซึ่งบ้างก็มีนักเตะมากมายที่ใช้พื้นที่ใน social อย่าง Facebook หรือ Instagram ในการติดต่อกับแฟนบอลอยู่บ้าง แต่นี่พี่ Benz แกเล่นงานใหญ่ เมื่อเขาได้ live Instagram ผ่าน account ของตัวเองอยู่นั้น
เกิดมีแฟนบอลขี้สงสัยท่านหนึ่งได้ถามเจ้า Benz ในช่วง Q&A ว่าให้เขาบรรยายสรรพคุณของเบอร์ 9 คนปัจจุบันของทัพตราไก่อย่าง Olivier Giroud
ก่อนที่ Benzema จะตอบอย่างมั่นใจว่า เขาคือ formula one และอย่าได้เอา go-kart อย่าง Giroud นั้นมาเทียบ และก่อนที่จะยืนยันภายหลังว่า เขาเพียงแต่พูดความจริง ซึ่งก็ทำให้เสียงใน social แตกออกเป็นสองฝั่งอย่างดุเดือดพอสมควร
จริงๆแล้ว Giroud นั้นห่วยขนาด go-kart เลย?
หรือว่า Benzema นั้นพูดเกินไป?
ด้วย style ที่แตกต่างแต่เหมือนกันของทั้งสองคนนั้น ย่อมทำให้เกิดคำถามอยู่แล้วว่าใครเหมาะสมกับเบอร์ 9 ของทีมชาติมากกว่ากัน
เริ่มจาก Benzema ก่อน
ถ้านับจากจำนวนถ้วย trophies และความสำเร็จๆต่างๆนานา แชมป์ยุโรป 3 สมัยซ้อนย่อมทำให้เขาเข้าวินคนแรกแน่อยู่แล้ว หากแต่เขายังมีเรื่องราวที่ทำให้สมาคมฟุตบอลฝรั่งเศสต้องหันหลังในจากคดี sex tape ปี 2015
ที่ทางด้านสมาคมได้ออกมาแถลงว่า “การผจญภัยของ Benzema กับ France นั้นจบแล้ว”
ซึ่งหลังจากนั้น ก็เป็น Giroud ที่ต้องตำแหน่งหน้าเป้าของทีมมาตลอด ทุก major tournament หลังจากการจากไปของ Benzema
แต่ถ้าปี 2015 Benzema ได้รับการพิพากษาคดีที่ชัดเจนกว่านี้ เขาอาจจะยังมีอนาคตอยู่ใน camp ทีมชาติ กระทั่งเขาได้พ้นความผิดทุกข้อกล่าวหา แต่ผลที่ตามมามันหนักหนาพอสมควรกับตัวเขาและทีมชาติเอง
ซึ่งถ้าดูจากเนื้อผ้า Benzema นั้นอาจจะดูเหมาะสมกว่า Giroud เป็นแน่แท้ แต่อะไรที่ทำให้ Giroud นั้นพิเศษกว่าคนอื่นรวมถึง Benzema ในทีมชาติล่ะ?
หากใครที่ได้ติดตาม World Cup 2018 อย่างเข้มข้นนั้น จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ทำไมต้อง Giroud?
เมื่อ Giroud นั้นเป็นกองหน้า style target man ที่มีสภาพร่างกายยอดเยี่ยมและแข็งแกร่งในการเข้าปะทะและการเล่นลูกกลางอากาศ ซึ่ง Giroud นั้นก็นับเป็นเจ้าเวหาเบอร์ต้นๆเลยก็ว่าได้
การที่ Didier Deschamps นั้นวาง Giroud ไว้เป็นหมากตัวบนสุดของกระดาน ทำให้ทีมของเขาสามารถใช้การเล่น counter attack ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
จากการที่มี Kylian Mbappe คอยพาบอลสวนขึ้นไปจากการประคองของ Griezmann ก่อนที่จะขึ้นไปเจอกับ Giroud ที่พื้นที่สุดท้ายก่อนเข้าทำ
ซึ่งตัองยกประโยชน์ในการเตรียมทีมของ Deschamps ที่ทำให้ฝรั่งเศสชุดแชมป์โลกทีมปัจจุบันนั้นเล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่นจนไปถึงตำแหน่งแชมป์ แม้ว่าทีมจะเต็มไปด้วยนักเตะที่ถนัดการสร้างสรรค์โอกาส แต่พวกเขาก็เล่นเกมรับร่วมกันได้อย่างลงตัว
เมื่อแผง back-four ตัวจริงของเขาประกอบไปด้วย centerback ธรรมชาติทั้งหมด 4 คน และ 2 ในนั้นยังสามารถเล่น fullback ได้อย่าง Lucas Hernandez และ Benjamin Pavard
ซึ่งเมื่อพวกเขาเล่นเกมรับ แนวรับ 4 คนของเขานั้น ทำหน้าที่เหมือนกับ centerback เป๊ะๆเมื่อพวกเขายืนกัน compact มากขึ้นในเกมรับ ย่อมทำให้ฝั่งตรงข้ามต้องเพิ่มจำนวนคนเล่นเกมรุกหากต้องการจะเจาะประการฝรั่งเศสเข้าไปได้
และนั่นก็ทำให้ฝั่งตรงข้ามเปิดพื้นที่หลังบ้านเยอะพอสมควรในการที่จะใชั Giroud พักบอลให้ Mbappe ควบเข้าไปล่าตาข่าย
Giroud นั้นเด่นในการหันหลังเล่นบอลกับประตู ซึ่งเขาไม่จำเป็นต้องลงมาล้วงบอลเขาทำเอง หรือว่าต้องรอเข้าฮอสตลอดเวลา
เขาเพียงแค่หาตำแหน่งการยืนที่ทำให้ทีมเกิดผลประโยชน์มากที่สุดจากการเล่นร่วมกับคนอื่น และชิงเหลี่ยมในการเป็นฝ่ายครองบอล พักบอล ได้อย่างดี ซึ่งท่าเด็ดของเขาก็คือการพิงกองหลังฝั่งตรงข้าม
ในขณะเดียวกัน หลังจากเป็นกระแสเกิดขึ้น
ก็เป็น Griezmann เพื่อนร่วมทีมชุดแชมป์โลกก็ได้ออกมาป้อง Giroud จากการโดนโจมตีด้วยเช่นกัน
“เขาช่วยให้เราได้แชมป์โลก” จอมทัพหัวหยองได้กล่าวไว้ โดยหลีกเลี่ยงผลเสียที่ออกมาจากคำพูดเขา ซึ่งเขาก็บอกว่าเขาพูดอะไรมากไม่ได้เพราะอาจจะทำให้เขามีปัญหาและอาจจะส่งผลเสียต่อภาพรวมของทีม
แม้ว่าการที่เขาจะไม่ได้โจมตี Benzema กลับ แต่การที่เขาชี้แจงจุดประสงค์ในการออกมาปกป้องเพื่อนร่วมทีมชาติคนปัจจุบันของเขานั้น ก็บอกได้แล้วว่า Greizmann นั้นสนับสนุนและให้เกียรติ Giroud ในฐานะเพื่อนร่วมทีมชุดประวัติศาสตร์ของชาติมากพอสมควร
ด้วยพื้นฐานการเล่นบอลที่อยู่บนรูปแบบการเล่นเกมรับและรัดกุมเป็นหลักของ Greizmann กับ Atleico Madrid นั้นก็อย่างจะเป็นจุดแข็งที่ทำให้เขาเล่นเข้ากับ tactic ของทีมชาติได้ดีอีกทั้งยังได้รับอิสระในการเคลื่อนที่ไปรอบๆโดยการป้อนบอลจาก Paul Pogba ที่คอย support อยู่ข้างหลังกับ N’Golo Kante อีกด้วย และการโจมตีพื้นที่ว่างที่เหลือนั้นเป็นหน้าที่ของ Mbappe
tactic นี้มันก็เอื้อต่อตัวเขาเอง และ Giroud ก็คือส่วนสำคัญของระบบนี้
ทำไมต้อง Giroud นั้นเหรอ?
เขาก็ทำให้คนที่เหลือเล่นได้ง่ายที่สุดไง
กลับมาทางฝั่งของ Benzema
ทั้งสองคนนี้แตกต่างแต่เหมือนกันตรงที่ พวกเขาเป็นกองหน้าสาย support อย่างแท้จริงแต่ต่างวิธีการอย่างสิ้นเชิง
ด้วยเทคนิคแพรวพราวที่ติดตัวมาพร้อมกับพรสวรรค์ในการล่าตาข่ายของเทพเบนซ์ทำให้เขาสามารถเลี้ยงบอล และไปกับบอลได้ดีกว่า Giroud เป็นไหนๆ อีกทั้งยังมีสัญชาตญาณจบ score โป้งเดียวจอดที่ไม่ขี้เหร่ไปกว่า Giroud เลย
แต่ด้วยการที่เขานั้นเล่นร่วมกับเครื่องจักรพังประตูอย่าง CR7 มาจะครึ่งอาชีพกับ Real Madrid แล้วนั้น
เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า เขาคือ False-9 ชั้นยอดเช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้น บทบาทอื่นเขาก็เล่นได้ไม่เคอะเขินเลยซะทีเดียว
ในช่วงเวลาของเขาในฐานะสามประสาน BBC ที่มีเขาเป็นศูนย์กลางคอยเชื่อมบอลให้กับ Cristiano และ Bale นั้น เขามักจะถอยลงมาในพื้นที่หน้าแผงหลังของฝั่งตรงข้าม
ซึ่งมันก็คล้ายกับการที่ Lionel Messi ถอยลงมาจากตำแหน่งหน้าเป้ามาเชื่อมเกม สร้างสามเหลี่ยมนรก ต่อบอลไม่มีสิ้นสุดกับ Xavi และ Iniesta ซึ่ง Modric กับ Kroos ในช่วงนั้น ทั้งคู่ต่างก็ฟอร์ม peak แบบสุดๆไม่แพ้กัน
เมื่อเขาถอยลงมานั้น หากกองหลังเลือกที่จะตามเขาลงมานั้น คงจะโดน Cristiano และ Bale เล่นงานพื้นที่ที่ถูกเปิดไว้อย่างแน่นอน หรือถ้าไม่ตาม Benzema ก็พลิกบอลไปเล่นต่อเองได้เช่นกัน
และไม่ว่าจะมีการปรับระบบการเล่นมาเป็น 4-4-2 ในช่วงที่สภาพร่างกายของ Bale นั้นย่ำแย่ Benzema ก็ยังคงเล่นดีอย่างต่อเนื่องในบทบาทคู่หน้ากับ Cristiano จึงทำให้ Real Madrid ยุคนั้นไร้เทียมทานพอสมควร
ซึ่งหลังจากการจากไปของ CR7 และปัญหาระหว่าง Zidane และ Bale
Benzema นั้นต้องปรับตัวอีกมากในการเล่นร่วมกับ Eden Hazard ที่ style แต่งต่างจากเบอร์ 7 คนก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง และการเล่นร่วมกับ Hazard นั้นไม่สามารถทำให้เขาต้องลงมาล้วงบอลบ่อยๆได้แล้ว ซึ่งควรจะเป็นหน้าที่ของ Hazard แทนอย่างที่เขาทำได้ดีในช่วงเวลากับ Chelsea
แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดการระเบิดฟอร์มของ Benzema ได้ เพราะเขาเรียนรู้ tactic ที่ถูกปรับปรุงของ Zidane ได้อย่างไวและแตกฉาน นั่นจึงทำให้มีเสียงแซวว่า ต่อให้ใครหน้าไหนย้ายเขามา ก็ต้องมาเป็นสำรองให้ Benzema ในยุค Zidane อยู่ดี
ไม่เชื่อลองไปถาม Luka Jovic ได้
ซึ่งโดยสรุปก็คือ เทพเบนซ์นั้นเป็นกองหน้าที่เล่นได้หลากหลาย แต่นั้นไม่ได้ทำให้เขามีความเป็น “Striker” ไปมากกว่า Giroud เลย
Striker นั้นถูกจำกัดความให้ใช้เรียก ดาวยิง หรือ จอมถล่มประตู มากกว่าคำว่า “Forward” ที่มักใช้เรียกกองหน้าโดยรวมทั่วไป แต่ในจุดนี้ก็แล้วแต่การตีความของแต่ละคน ไม่มีผิดมีถูกอะไรขนาดนั้นหรอก
ซึ่งในที่นี่นั้น อาจจะหมายความว่าทั้ง Giroud และ Benzema นั้นเป็นกองหน้าที่ต้องการเล่นร่วมกับคนอื่นในเกมรุก ไม่ใช่ที่จะรอยิงประตู หรือเล่นคนเดียว ชงเองกินเองอะไรประมาณนั้น แต่สำหรับพวกเขา ถ้าจะให้ทำแบบนี้ก็ทำได้
ทั้งคู่นั้นจัดอยู่หมวดกองหน้าที่มีประโยชน์ต่อตำแหน่งอื่นๆในทีม ซึ่งการใช้งานนั้นอาจจะแตกต่างไปตามองค์ประกอบของทีม ซึ่งใน tournament World Cup 2018 นั้น
ทีมชาติฝรั่งเศสนั้นนำด้วย Antoine Greizmann ที่ฟอร์มเข้าฝักสุดๆ ประกอบด้วย Kylian Mbappe ว่าที่นักเตะที่ดีที่สุดในโลกยุคต่อไป เป็นแกนหลักของทีม
และมีพระรองอย่าง Pogba, Kante และ Matuidi ที่ทำให้งานของพวกเขาง่ายขึ้น และสามารถบุก บุก บุก จนไม่ต้องพะวงกับการโดนสวนกลับไวอีกด้วย
การที่ใช้ระบบเล่นเกมรุกแบบ 4-2-3-1 ที่ถ่าง Matuidi ไปรับผิดชอบริมเส้นฝั่งซ้ายนั้น กองหน้าตัวเป้านั้นต้องอำนวยความสะดวกให้ Griezmann กับ Mbappe เล่นได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
การใช้ Giroud มายืนชนกับกองหลัง size มหึมากว่าขนาดร่างกับของ Mbappe กับ Greizmann นั้นก็เป็นตัวเลือกที่ดี เมื่อเขามาสามารถยืน tank พิงกองหลัง ชิ่งบอลให้ Mbappe ที่ sense บอลมันทันกับกองหน้า sense บอลสูงอย่าง Giroud นั้นหลุดเข้าไปทะลวงแนวรับแทน
แต่สิ่งที่ทำให้ Giroud นั้นเหมาะสมกว่า Benzema ในทรรศคติส่วนตัวนั้นก็คือการเคลื่อนที่ off the ball ของทั้งคู่ที่ต่างกัน
ในขณะที่ Griezmann รับบท playmaker หลังกองหน้านั้น เขาจำเป็นต้องเคลื่อนที่หาตำแหน่งให้กับตัวเอง ซึ่งอาจจะเป็นแนวทางเดียวกับที่ Benzema เล่นเกมรุกที่เขาชอบลงมาล้วงบอล ซึ่งมันคงจะสร้างความสับสนในการทับตำแหน่งกันให้กับ Greizmann แน่นอน
และด้วยร่างกายของ Benzema ที่ไม่ได้อยู่ในระดับที่ดีเท่า Giroud อาจจะทำให้คนอื่นเล่นยากไปเลย เมื่อต้องเจอลูกหนัก หรือว่าการเข้าปะทะของคนตัวใหญ่ ในจุดนี้อาจจะทำให้ Giroud ตอบโจทย์มากกว่าเมื่อมี Greizmann กับ Mbappe อยู่ในทีม
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ซึ่งฝรั่งเศสชุดนี้เต็มไปด้วยตัวสร้างสรรค์อยู่แล้ว การที่ใช้กองหน้าล้วงบอลทำเกมก็อาจจะเป็นส่วนเกินใน tactic ของ Deschamps ก็เป็นได้
หากแต่เปลี่ยนไปเป็นตัวพักบอล รับบอลยาวจาก Pogba ยังดีกว่า ซึ่งเป็นการเพิ่ม option และมิติในการเกมรุกให้หลายหลายขึ้นอีกด้วย
แม้ว่าฝรั่งเศสชุดแชมป์โลกล่าสุดจะโดนตำหนิจากการเล่น ugly football หรือฟุตบอลที่ไม่สวยงาม เน้นผล รัดกุมนั้น ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Giroud นั้นเองก็เป็นส่วนสำคัญที่แท้ไม่แพ้กันในแผนระบบนี้เลย
และก็เป็น Giroud เองที่ได้ใจแฟนบอลไปเต็มๆจากการเล่นที่เสียสละและไม่เห็นแก่ตัวเพื่อประสิทธิภาพของทีม
ถ้าหาก Benzema นั้นดันมีชื่อติดไปลุยฟุตบอลโลก 2018 กับเขาด้วย
เพื่อนๆคิดว่าอย่างไรกันบ้างครับ ?
ติดตามพวกเราได้อีกช่องทางได้ที่ Facebook : Talk Shit Football
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
