5 เม.ย. 2020 เวลา 14:31 • ท่องเที่ยว
“ 1 หัวใจแห่งขุนเขา”
Chapter 2 ‘ธานีแห่งมนตรา’
ภาพจาก: https://www.insightguides.com/inspire-me/blog/dr-strange-movie-locations-in-kathmandu-nepal
ขอใช้ชื่อตอนนี้ว่า ‘ธานีแห่งมนตรา เนื่องจากภาพเปิดของบทความนี้เป็นใจกลางเมืองกาฐมัณฑุ (เมืองหลวงของประเทศเนปาล)
ซึ่งมี จัตุรัสกาฐมาณฑุ ดูร์บาร์ (Kathmandu Durbar Square) ประกอบไปด้วยวัดและปราสาทที่เก่าแก่
ให้เสน่แห่งมนตราจนผมต้องมนต์เดินหลงมั่วไปหมดครับ
ใครยังไม่ได้อ่าน Chaptet 1 ปฐมบท
ตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ
หลังจากเดินผ่าน ตม. ของเนปาล ผมมุ่งตรงมาที่จุดรอกระเป๋า ผมได้พบกับพี่ผู้หญิงไกด์ชาวไทย ซึ่งเป็นคนไทยคนที่สองที่ได้พบ
พี่ไกด์คนนี้ชวนผมเข้าเมืองโดยพี่เขานัดแทกซี่ไว้แล้ว ผมตกลงขอหารค่าแทกซี่ไปกับพี่เขาด้วย และนี่คือคนไทยคนสุดท้ายที่ผมเจอในเมืองแห่งมนตรานี้
ผมขอลงในบริเวณที่ใกล้ย่านทาเมล
เพราะแผนที่ผมวางไว้สำหรับวันนี้ คือ หาที่พักในทาเมลแบบ walk in และหาตั๋วรถบัสไปโพคาราสำหรับวันรุ่งขึ้น
ทาเมล เป็นสถานที่หนึ่งใจกลางเมืองกาฐมัณฑุ หลายคนบอกเหมือนกันว่า คล้ายถนนข้าวสารบ้านเรา แต่ใหญ่โตกว่าหลายเท่า เต็มไปด้วยร้านขายอุปกรณ์เทรคกิ้ง ร้านอาหาร ร้านค้า และโรงแรม มากมาย
ภาพจาก: https://roadsandkingdoms.com/travel-guide/kathmandu/walking-tour-thamel/
ระหว่างทางซึ่งไร้สัญญาณ wifi ผมเดินหลงมั่วไปหมด เดินไปเรื่อย ชมวิวรอบข้าง ซึมซับบรรยากาศ และ วัฒนธรรมของธานีแห่งนี้
เป็นเวลากว่าสามชั่วโมงที่หนุ่มไทยคนหนึ่งเดินอย่างไร้จุดหมาย หลงไปเรื่อย ผมไม่สามารถบอกได้ว่า ที่ที่ผมอยู่ ณ ตอนนั้นคือที่ไหน เพราะตึกราบ้านช่อง ซอกซอยมันดูคล้ายกันไปหมด
จนในที่สุดผมก็ตัดสินใจ walk in เข้าไปแบบงงๆ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในซอยอันลึกลับของทาเมล ลึกลับพอพอกับตรอกไดแอกอนในแฮรี่พอตเตอร์เลยครับ
ด้วยความเหนื่อยล้ากับสัมภาระราวยี่สิบกิโล
ทำให้ผมตัดสินใจพักที่นี่และรีบพูดคุยทำการจองตั๋วรถบัสไปโพคารากับทางที่พัก
ซึ่งบังพนักงานบริการผมเป็นอย่างดีจัดสรรตั๋วให้ผมเรียบร้อย ซึ่งรถจะออกในช่วงเช้ามืดของวันถัดไป
และบังก็บอกผมว่าที่พักที่นี่เต็มนะครับ!!
อ้าวแล้วที่บริการเป็นอย่างดีจองตั๋วให้แล้ววว คืออะไรอ่ะ ทำไมไม่บอกว่าเต็มแต่แรกเนี่ยย
ผมเริ่มบ่นและกังวลในใจ
บังอ่านภาษากายของผมออก และสวนกลับทันควัน “แต่ทางโรงแรมมีห้องรวม 4 เตียง ยังว่างอยู่สนใจไหม”
สนน สนก็ได้ครับ กุไม่ไหวละเหนื่อยอยากพักเต็มทนละ เซงครับบ แต่ก็ต้องทำใจ เพราะผมตัดสินใจ walk in มานี่นาา
สภาพห้องนอนที่เข้าไปเจอคือ มี 4 เตียงและว่างเพียง 1 เตียง พอดีสำหรับผม ส่วนเตียงอื่น ๆ มีเจ้าของเรียบร้อย แต่ละเตียงนี่เละตุ้มเป๊ะ ถุงเท้า และอุปกรณ์ต่าง ๆ วางไว้แบบล้นพื้นที่
ผมใช้เวลาช่วงเย็นหาอาหารรับประทานและเดินเล่นในทาเมล อาหารมื้อแรกที่เนปาลคือข้าวแข็ง ๆ ราดแกงเนื้อควายรสชาติจืด ๆ (ผมไม่รู้ว่ามันเรียกว่าเมนูอะไร) พร้อมชามะนาวที่ไม่รู้สึกถึงรสชาติของมะนาว
ก่อนมาเนปาลผมได้เตรียมใจรับมืออาหารสไตล์นี้อยู่แล้ว อันที่จริงรสชาติก็ไม่ได้โหดร้ายอะไรมาก ผมเป็นคนกินง่ายยิ่งเวลาหิวแล้ว อะไรก็กินได้หมด
เดินเล่นจนไปเจอร้านหนังสือในทาเมล ก็อดไม่ได้ที่จะแวะเข้าไป หนังสือในร้านมีให้เลือกอ่านมากมาย แต่ส่วนใหญ่ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องราวที่เกี่ยวกับขุนเขาหิมาลัย และแผนที่เส้นทาง trekking ในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งผมยืนอ่านฟรีอยู่นาน เลยตัดสินใจสอยแผนที่มาหนึ่งแผ่น
Trekking Map Annapurna Conservation Area ใครที่มาเดี่ยว ๆ แบบผม แผนที่สำคัญมากมาย ถ้าคุณไม่อยากหลงป่า แล้วต้องใช้ชีวิตแบบ พี่แบร์ กิล ก็ควรซื้อเก็บไว้ ถึงแม้เส้นทางเทรกนั้นจะมีคนเดินตลอดทาง แต่บางช่วงคุณอาจต้องเดินคนเดียว
คุณต้องดูรอยเท้า ดูอึสัตว์ ฟังเสียง และตื่นตัวตลอดเวลา เพราะในป่าบนหิมาลัย นั้นมีอันตรายรอบตัวจากหุบเหว และสัตว์ร้าย คุณคงไม่อยากนอนนับดาวจมกองเลือดในที่แห่งนี้
ผมอำเล่นครับ ผมแค่ซื้อแผนที่ไว้เพื่อวางแพลนและศึกษาเส้นทางเท่านั้น
ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี ผมอุดหนุนแผนที่และโปสการ์ด 2 ใบจากร้านหนังสือ เจ้าของร้านดูเฟรนรี่มากขึ้นหลังจากที่ผมอุดหนุนสินค้า 😅😅
ผมเดินเล่นในทาเมลดื่มด่ำบรรยากาศหัวค่ำที่เริ่มคึกคักกว่าเก่า มีนักท่องเที่ยวต่างชาติฮิปปี้เล่นดนตรีสดข้างทางเรียกความน่าสนใจได้ไม่น้อย
เมื่อพลบค่ำมาเยือนอาทิตย์ได้ลาลับไป อุณหภูมิลดลงไปอีก
ตอนนี้ลมหายใจที่พ่นออกมากลายเป็นควัน หนาวจัง.... แต่ความรู้สึกนั้นกลับตื่นเต้น แตกต่าง แปลกใหม่ มันรู้สึกถึงสิ่งที่เราไม่เคยสัมผัส ทั้งสภาพภูมิอากาศ วัฒนธรรมผู้คน รวมหลายสิ่งมันดูเหมือนทำให้ผมแอ่นอกและมโนแบบหล่อๆ ว่า กุโตขึ้นแล้ว มโนครับ
อารมณ์มโนหมดไป เมื่อมาเจอร้านชาข้างทางมีลูกค้าคนท้องถิ่นนั่งจิบคลายหนาว เมื่ออารมณ์มโนหมด ความหนาวก็มาเยือน เออหนาวว่ะ
ตอนนี้เสื้อฮีทเทคกับเสื้อยืดเริ่มเอาไม่อยู่แล้ว ผมสั่งชาร้อน 1 ถ้วย ยืนจิบใกล้เตาต้มชาของลุงพ่อค้า เตาต้มชาของลุงใช้ไฟจากฟืนเป็นเชื้อทำให้รัศมีความร้อนแผ่มาถึงผมช่วยบรรเทาความหนาว
ชาร้อนต้มกับหม้อ ใช่แล้วต้มกับหม้อแกงแล้วเอาใบชาเทลงไปคนในหม้อ แล้วคนๆ จนสีของน้ำเปลี่ยนเป็นสีเข้ม จากนั้นลุงเติมนมสดและน้ำตาล คนๆ จนพร้อมเสริฟ ลุงค่อยๆช้อนตักใส่แก้วแบบใช้ทัพภีกรองใบชาให้หลุดออก เหลือแต่น้ำชามาเสริฟผม
" อร่อยไหม" ลุงถาม
" อร่อยมั้งงง กู๊ดดๆ ไอ เลิฟ อิท" ผมพูดปด
ค่ำคืนแรกในเนปาล ช่างคึกครื้น ผมใช้เวลาจัดของอยู่บนเตียงในห้องและบรรจงนั่งเขียนโปสการ์ด ผมพบว่าเพื่อนร่วมห้องเป็นพลพรรคจากฝรั่งเศสทั้งหมด ชาย1คน หญิง2 คน (ผู้ชายเป็นทรานเจนเดอร์นะครับ)
เท่ากับผมต้องนอนท่ามกลางสาวๆ จากฝรั่งเศส ฮั่นแน่...
วันที่ 2
ผมตื่นขึ้นแต่เช้ามืด จัดการธุระส่วนตัวเตรียมของและย่องเบาๆ ออกจากห้องนอนที่พลพรรคจากฝรั่งเศสหลับอยู่ ผมเช็คเอ้าที่เคาเตอร์ชั้นล่างและถามทางไปขึ้นรถบัส ผู้ดูแลโรงแรมบอกเส้นทางใช้เวลาเดินไปประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง
จากกาฐมันฑุ-โพคารา ใช้เวลาร่วม 6 ชั่วโมงกว่า ไม่ทราบว่ารถบัสจอดรออะไรในช่วงแรกๆ ถนนเส้นทางไปโพคารานั้นคดเคี้ยวเลาะไปตามหุบเขา แต่คนขับดูเหมือนชำนาญเป็นอย่างดี มีโชว์จังวะหวาดเสียวให้ดูหลายครั้ง
รถมีพักเบรกให้รับประทานอาหารช่วงกลางทาง มีอาหารตักราดบริการตัวเอง ช่วงเวลาหิวอาหารทุกชนชาตินั้นอร่อยเหาะ
ครั้นถึงโพคาราผมเมื่อยก้นมากเพราะเกร็งลุ้นกลัวตกเหวครับ รถจะจอดในบริเวณที่เต็มไปด้วยโชว์เฟอร์รถท้องถิ่นมากมาย เพื่อรอเข้ามาเสนอที่พักและอัตราค่าบริการให้กับนักท่องเที่ยว
ผมตัดสินใจเข้าพักในโรงแรมที่ติดกับทะเลสาปแห่งหนึ่ง และรีบให้พี่โชว์เฟอร์แทกซี่พาผมไปทำใบขออนุญาติเข้าพื้นที่ในการเทรกกิ้ง คือ
1.Entry Permit
2.TIMS (Trekking Information Management System)
ผมต้องรีบไปทำเอกสารเหล่านี้ เพราะผมมาถึงที่พักก็บ่ายสามเข้าไปแล้ว เวลาทำการของสำนักงานเหลือน้อยเต็มที โดยสำนักงานทำเอกสารขออนุญาติตั้งอยู่ติดกับสถานีตำรวจ
ใช้เวลาทำเอกสารเพียงไม่นานก็กลับมาที่พักตั้งหลักเตรียมของจัดแจงเช็คอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะวันรุ่งขึ้นคือวันที่ต้องเริ่มเทรคจริง!!
ติดตาม ‘ 1 หัวใจแห่งขุนเขา’
ตอนต่อไปกับ Chapter 3
ชื่อตอน “ธาราหิมาลัย”
ทะเลสาปฟีวา
❤️กดไลค์ กดแชร์ ติดตามเป็นกำลัง❤️
🙏ขอบพระคุณครับ🙏

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา