6 เม.ย. 2020 เวลา 05:46 • การเมือง
Update ! : ทั้งสื่อและรัฐบาลอังกฤษยังคงกล่าวโทษจีนเรื่อง Coronavirus อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ Boris Johnson มีผลทดสอบเป็นบวก และชาวอังกฤษหลายคนยังใช้ชีวิตตามปกติ โดยไม่สนใจมาตรการ Lockdown
1. รายงานจากสำนักข่าว The Independent ของประเทศอังกฤษ ระบุว่า สส. ประจำ Westminster ได้กล่าวเตือนสติประชาชนถึงการระบาดของ Coronavirus โดยมีใจความสำคัญดังต่อไปนี้
"จีนพยายามปกปิดข้อมูลการแพร่ระบาดในระยะแรกสุด ตามมาด้วยการบิดเบือนตัวเลขต่าง ๆ ของผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรค ขณะที่การแพร่ระบาดคร่าชีวิตผู้คนไปเรื่อย ๆ และการกระทำดังกล่าวยังเป็นการขัดขวางความพยายามของนานาชาติในการต่อสู้กับ Coronavirus"
รายงานล่าสุดจากคณะกรรมธิการต่างประเทศของอังกฤษ ระบุว่า "ประเทศแรกที่มีการแพร่ระบาดเกิดขึ้น ควรเป็นผู้นำในการรวบรวมและแบ่งปันข้อมูลการวิจัยของตนเองให้กับชาติอื่น ๆ เพื่อช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของ Coronavirus แต่จีนกลับจงใจที่จะปกปิดข้อมูลนั้นมากกว่าที่จะทำให้มันโปร่งใส"
นอกจากนี้ รายงานยังกล่าวโทษ "รัสเซีย" และ "อิหร่าน" โดยให้เหตุผลว่า "พวกเขาปฎิเสธที่จะให้ข้อมูลอย่างขาวสะอาด สำหรับประสบการณ์ต่าง ๆ ที่พวกเขามีต่อภัยพิบัติทั่วโลกในขณะนี้"
เท่านั้นยังไม่พอ รายงานดังกล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษ "เผชิญหน้ากับเรื่องนี้ และเปิดโปงความจริง เพื่อตีตราคำโกหกจากชาติมหาอำนาจเหล่านี้" (หมายถึง จีน รัสเซีย และ อิหร่าน)
Tom Tugendhat หัวหน้าของพรรคฝ่ายอนุรักษ์นิยมของอังกฤษ กล่าววิพากย์วิจารณ์จีนอย่างรุนแรง ซึ่ง World Maker สรุปใจความสำคัญมาให้ดังนี้
1
"รัฐบาลจีนได้อนุญาตให้สื่อต่าง ๆ บิดเบือนข้อมูลอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับการแพร่กระจายของไวรัส แทนที่จะช่วยประเทศอื่น ๆ เพื่อเตรียมการตอบสนองอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง ซึ่งมันยิ่งทำให้เห็นได้ชัดว่าจีนได้บิดเบือนข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับ Coronavirus เพื่อปกป้องภาพลักษณ์ของระบอบการปกครอง"
1
"รัฐบาลจำเป็นต้องจัดการกับคำโกหกเหล่านี้ด้วยการตอบสนองที่ชัดเจนและรวดเร็วโดยทำงานร่วมกับพันธมิตรของเราเพื่อแสดงให้เห็นถึงแนวร่วมในการเผชิญหน้ากับข้อเท็จจริงเท็จและการบิดเบือนข้อมูลอย่างร้ายแรง"
Tom Tugendhat
"เราต้องการระบบค่านิยมของจีนรวมถึงผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อีกหรือไม่? หรือเราควรทำงานร่วมกับประเทศเสรีอื่น ๆ และลดการพึ่งพาเผด็จการแบบนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ?"
"เช่นเดียวกับระบอบเผด็จการทั้งหมด รัฐบาลจีนอ่อนแออย่างมาก มันจำเป็นต้องอาศัยการโกหกและความกลัวในการรักษาอำนาจและการควบคุมประชาชนและนี่คือสาเหตุที่มันซ่อนความจริงในช่วงเวลาที่ถูกไวรัสโจมตีครั้งแรก"
"เรื่องนี้ไม่ผิดพลาดแน่นอน เพราะจีนมุ่งมั่นที่จะสร้างระเบียบโลกใหม่* (New world order) ด้วยตัวของมันเอง"
*ระเบียบโลกใหม่ หรือ New world order เป็นคำที่เกี่ยวข้องกับทฤษฎีสมคบคิดเรื่อง Illuminati ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นองค์กรลับที่ควบคุมเหตุการณ์สำคัญทั้งหมดบนโลก รวมถึงระบบการเงินโลก โดยตามทฤษฎีกล่าวว่ากลุ่มทุนของอังกฤษ โดยเฉพาะพวกนายแบงค์ทั้งหลาย เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
ข้อสังเกต : ทำไมอังกฤษถึงมาพูดเรื่อง New world order ในช่วงนี้ตอนนี้ และพุ่งเป้าไปที่จีน ??? แปลกมาก ๆ ครับ
และล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา Tom Tugendhat และคณะกรรมธิการของเขาได้มีมติเป็นเอกฉันท์ เพื่อเรียกร้องให้สหราชอาณาจักรยืนยันเรื่องความสัมพันธ์กับจีนอีกครั้งหลังการแพร่ระบาดหยุดลง
2. Boris Johnson มีผลการทดสอบ Coronavirus เป็นบวก
รายงานจาก Downing Street เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ระบุว่า "Boris Johnson เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หลังจากก่อนหน้านั้นหลายวันมีอาการของโรค" และอัพเดตล่าสุดระบุว่า Boris Johnson มีผลการทดสอบ Coronavirus เป็นบวกเรียบร้อยแล้ว
Johnson ในวัย 55 ปี ได้ประกาศเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมาว่าเขามีผลการทดสอบ Coronavirus เป็นบวก โดยได้มีการอธิบายอาการไอและไข้ของเขาผ่านทางวิดีโอใน Twitter
Dr. Kent Sepkowitz นักวิเคราะห์ด้านการแพทย์ของ CNN ซึ่งเป็นแพทย์ประจำที่ Memorial Sloan Kettering ใน New York และศาสตราจารย์ด้านการแพทย์แห่งมหาลัย Weill Cornell Medical กล่าวว่า Boris Johnson อาจจำเป็นต้องเอกซเรย์ปอดลและส่วนอื่น ๆ ด้วยการทำ CT รวมถึงการตรวจเลือดและการวินิจฉัยอื่น ๆ ที่ซับซ้อน
"ผมยังมีอุณหภูมิสูงอยู่ ดังนั้นตามคำแนะนำของรัฐบาล ผมจำเป็นต้องแยกตัวเองออกไปจนกว่าอาการนั้นจะหายไป แต่อย่างไรก็ตาม เรากำลังทำงานอย่างต่อเนื่องในมาตรการต่าง ๆ ของเราเพื่อเอาชนะ Coronavirus" นั่นคือคำกล่าวล่าสุดจาก Boris Johnson
ปัจจุบัน Boris Johnson ได้ปรับเปลี่ยนความคิดของเขาไปสู่มาตรการทางสังคมที่เข้มงวดยิ่งขึ้น (Social Distancing) ในเพียงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากก่อนหน้านั้นเขาได้ท้าทาย Coronavirus ด้วยนโยบาย Herd Immunity และการจับมือ Shake Hand กับผู้ป่วยในโรงพยาบาล
เหตุการณ์ทั้งหมด ทำให้ในขณะนี้อังกฤษต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์จากประเทศเพื่อนบ้านในยุโรป สำหรับการหาแนวทางที่เข้มงวดยิ่งขึ้น
3. ชาวอังกฤษจำนวนไม่น้อยยังคงใช้ชีวิตตามปกติ โดยไม่สนใจคำเตือนของรัฐบาล
สภาพอากาศที่อบอุ่นได้พิสูจน์แล้วว่ามันดึงดูดผู้คนในอังกฤษมากเกินไป และทำให้หลายคนละเมิดกฎ Lockdown และแห่ไปยังสวนสาธารณะเพื่ออาบแดด
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ชาวอังกฤษกว่า 3,000 คนได้ไปรวมตัวกันที่สวนสาธารณะ Brockwell ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของ London ส่งผลให้สภาแลมเบธ ตัดสินใจปิดสวนสาธารณะทันที เนื่องจากผู้คนจำนวนมากที่กำลังนอนอาบแดด "เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้"
"เราขอโทษที่ต้องตัดสินใจอย่างนี้ และเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นหากผู้คนยอมทำตามคำแนะนำของรัฐบาล เราทำอย่างนี้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยต่อสาธารณะให้มากขึ้น"
ในเช้าวันอาทิตย์ Matt Hancock รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษ เตือนประชาชนว่ารัฐบาล "ชัดเจนมาก" ในการห้ามไม่ให้ใครออกนอกบ้าน เว้นแต่เป็นเหตุผลทางการแพทย์, ซื้ออาหาร, ไปทำงาน และออกกำลังกาย
"แน่นอน ผมเข้าใจว่ามันเป็นวิธีการที่ยากลำบาก แต่ปัญหาคือเมื่อคุณออกไปข้างนอก มันไม่เพียงแต่คุณอาจโต้ตอบกับคนที่อยู่ใกล้กว่า 2 เมตรโดยตรงเท่านั้น แต่คุณยังสามารถแพร่เชื้อไวรัสผ่านการสัมผัสสิ่งของที่คนอื่นสัมผัส หรือไม่คุณก็อาจกลายเป็นผู้ติดเชื้อเสียเอง โดยวิธีการเดียวกัน"
นอกจากนี้ Hancock ยังเตือนอีกว่า เขาจะสั่งแบนการ "ออกกำลังกลางแจ้งทุกรูปแบบ" หากผู้คนส่วนใหญ่ยังละเลยมาตรการ Social Distancing
"ถ้าคุณไม่ต้องการให้เราสั่งห้ามการออกกำลังกายกลางแจ้งทุกรูปแบบ คุณก็ต้องทำตามกฎ รวมถึงคนส่วนใหญ่ก็ต้องทำตามกฎ อย่าเป็นชนกลุ่มน้อยที่ทำให้คนทั้งประเทศเสียหายไปด้วย"
การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และการติชมในเชิงสร้างสรรค์ของคุณ เป็นกำลังใจให้เราและเหล่าอาชีพนักเขียนทุกคนในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างสังคมการเรียนรู้ที่ดีด้วยกันกับเรา
World Maker
สามารถติดตาม World Maker ผ่านทาง Facebook ได้แล้ววันนี้ที่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา