7 เม.ย. 2020 เวลา 03:30 • เกม
บทความตามใจฉัน “Atari Jaguar เฮือกสุดท้ายของอาตาริ” Part 2 End
Alien vs Predator เกมแนว First-Person Shooter พัฒนาโดย Rebellion Developments ได้วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 1994 โดยเกมนี้เป็น Exclusive ให้กับ Atari Jaguar เท่านั้น
ตัวเกมได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากการเอาสิ่งมีชีวิตต่างดาวจากหนังดัง 2 เรื่องมา Cross over กันโดยมีเนื้อเรื่อง, บรรยากาศและกราฟิกที่เคารพต่อหนัง Alien อย่างมากและใช้ Gameplay แบบ FPS ซึ่งเป็นที่นิยมในฝั่งอเมริกาจากอิทธิพลของ Doom จึงทำให้ Alien vs Predator กลายเป็นเกมที่ขายดีที่สุดของ Atari Jaguar โดยทำยอดขายได้มากกว่า 85,000 ตลับ
เกมดี ๆ บน Jaguar เริ่มทยอยออกมาก็ช่วงปลายปี 1994 นี่เอง เช่น Doom Jaguar Ver, Wolfenstein 3d Jaguar Ver เป็นต้น
แน่นอนว่าเมื่อเกมขายดีก็ย่อมหมายถึงยอดขายเครื่องที่เพิ่มขึ้นด้วย ความต้องการที่จะซื้อ Atari Jaguar เพิ่มขึ้นอย่างมาก
และนั้นนำมาซึ่งปัญหาใหม่
Atari ไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการที่จู่ ๆ ก็เพิ่มขึ้นอย่างมากได้ สาเหตุส่วนหนึ่งเพราะคาดไม่ถึงและอีกส่วนหนึ่งคือ Atari ไม่มีโรงงานผลิตเครื่องเล่นเกมของตนเองจึงต้องจ้าง IBM ผลิต ทำให้การเพิ่มกำลังการผลิตไม่สามารถทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม 1994 Atari สามารถหา Jaguar มาวางจำหน่ายเพิ่มได้เพียง 50,000 เครื่อง เฉลี่ยตกเดือนละ 25,000 เครื่องเท่านั้น เสียโมเมนตัมทางธุรกิจไปอย่างน่าเจ็บใจ
และถึงแม้จะเริ่มมีเกมดี ๆ ออกมาแล้วก็ตามแต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าปัญหาของ Hardware และความยากในการพัฒนาเกมได้หมดไปแล้ว นี่จึงทำให้บริษัทเกมต่าง ๆ ส่วนใหญ่ยังเลือกที่จะไม่มาสร้างเกมให้หรือที่แย่กว่านั้นคือสร้างมาแต่คุณภาพไม่ดีทำให้สัดส่วนของเกมไม่ดีต่อเกมดีเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้ง Atari เองยังขาดทีมพัฒนาเกม in-house ของตนเองจนต้องพึ่งพาแต่บริษัทภายนอก ทำให้จำนวนเกมของ Jaguar มีน้อยกว่าคู่แข่งมากจนไม่ดึงดูดผู้เล่น ทำให้หลังผ่านช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม 1994 ที่เป็นช่วง Shopping Season ไปแล้วยอดขายก็ตกลงมาอยู่ในระดับเดิม (เป็นช่วงปีใหม่และคริสมาสที่ผู้คนจะซื้อของขวัญให้กัน)
และเมื่อเครื่องเกม 32 Bit ของ Sega และ Sony กำลังจะบุกตลาดอเมริกาในปี 1995 Atari ได้พยายามตอบโต้โดยการยิงโฆษณาอย่างต่อเนื่องและลดราคาขายของ Jaguar ลงอีกจนเหลือ 149 USD และยังออก Add-on ของ Jaguar ที่ชื่อ Atari Jaguar CD หรือเรียกย่อ ๆ ว่า Jag CD ในเดือนพฤศจิกายน 1995 เพื่อกลบจุดอ่อนของ Jaguar
โดย Add-on นี้นอกจากจะทำให้ Jaguar เล่นเกม CD ได้แล้วช่วยเสริมประสิทธิภาพหลาย ๆ ด้านของเครื่องอีกด้วย แต่รูปร่างของ Add-on โดยเฉพาะเมื่อประกอบเข้ากับ Jaguar แล้วนั้นกลับทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ติดลบเข้าไปอีก อีกทั้งยังเกิดปัญหาทางเทคนิคที่ทำให้ Add-on หลายตัวไม่สามารถใช้งานได้อีกด้วย
เมื่อเข้าปี 1996 สถานะทางการเงินของ Atari ก็ย่ำแย่มากแล้ว ปี 1995 บริษัทสามารถทำกำไรได้เพียง 14.6 ล้านUSD ลดลงจากปี 1994 ถึง 24.1 ล้านUSD
ถึงแม้ Atari จะพยายามลดราคาลงมาสู้กับคู่แข่งแล้วแต่ก็ไม่ได้ผล ผู้เล่นยอมจ่ายซื้อเครื่องที่ราคาแพงแต่มีเกมให้เล่นเยอะกว่า
ในที่สุด เพียงหนึ่งเดือนหลังจากออก CD Add-on บอร์ดบริหารของ Atari ก็ตัดสินใจยุติการผลิต Atari Jaguar และเริ่มถอนตัวจากธุรกิจเกมคอนโซลโดยทิศทางของบริษัทจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาและ Port Software ของ Atari ลง PC
ฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ Jaguar ทยอยถูกยุบไปเรื่อย ๆ โดยเริ่มจากฝ่ายพัฒนาสินค้าและฝ่ายการผลิต
ธันวาคม 1995 Atari ลดราคาขาย Jaguar ลงอีกจนเหลือเพียง 99 USD จุดประสงค์เพื่อลดสินค้าในสต๊อกในได้มากที่สุด
ปี 1998 Atari ถูกซื้อโดย Hasbro ในตอนนั้นแผนกที่เกี่ยวกับ Jaguar เหลือเพียงแผนก Support เพียงแผนกเดียว โดยจำนวนพนักงานในแผนกนี้มีเพียง 1 คน ซึ่งต่อมา Atari ถูกผนวกเข้ากับ Hasbro Interactive บริษัทลูกของ Hasbro
ตลอดอายุของเครื่อง Atari Jaguar มีเกมให้เลือกเล่นเพียง 61 เกมโดย 50 เกมเป็นตลับและ 11 เกมเป็น CD ที่ต้องมี Add-on ถึงจะเล่นได้
ถึงกระนั้นไม่ใช่ว่า Jaguar จะตายหายไปเสียทีเดียว
CoJag ซึ่งเป็นเวอร์ชั่น Top Tier ของ Jaguar ที่มีการ upgrade เพิ่ม memory และประสิทธิภาพในหลายด้าน ถูกใช้เป็นแผงวงจรสำหรับตู้เกมอาเขตของ Atari Game โดยตู้เกมที่ใช้วงจรนี้เคยติดตั้งให้บริการในประเทศไทยด้วย เป็นเกมอาเขตที่ชื่อว่า Area 51 ผู้เขียนเคยเห็นตู้เกมนี้ตั้งให้เล่นที่เซ็นทรัลรามอินทราในช่วงปี 2530-40 จำปีที่แน่ชัดไม่ได้
ผู้ที่เคยเล่นตู้เกมนี้ผู้เขียนขอแสดงความยินดีด้วยที่ถือว่าเป็นคนไทยไม่กี่คนที่เคยได้เล่นเกมบน Atari Jaguar เครื่องเกมที่(คาดว่า)ไม่เคยถูกนำมาขายในไทยถึงจะไม่ใช่เครื่องเกมคอนโซลแต่เป็นน้องของ Atari Jaguar ก็ตาม
Game play ของ Area 51 ดูได้ใน Link ข้างล่าง
หลังจากที่ Hasbro ซื้อ Atari ไปแล้ว Hasbro ก็เปิดให้ Jaguar กลายเป็น Open Platform ให้ใครก็ได้สามารถพัฒนาเกมบน Jaguar ได้ บางบริษัทเกมก็ได้ปล่อยเกมของ Jaguar ที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์หรือเกมที่ยังพัฒนาเสร็จแล้วแต่ยังไม่ประกาศออกมา
Jaguar ยังมีการวางขายอยู่ที่ อังกฤษ ประเทศที่เป็นแฟนเดนตายของ Atari จนถึงปี 2007
ต่อมา (ไม่ทราบปีที่แน่ชัด) Imagin Systems นำ Jaguar ไปดัดแปลงเป็นกล้องถ่ายภาพในช่องปาก
วิดีโอสัมภาษณ์ CEO ของ Imagin Systems เกี่ยวกับการดัดแปลง Jaguar เป็นกล้องถ่ายภาพในช่องปาก อยู่ใน Link ข้างล่าง
กลุ่มโปรแกรมเมอร์, วิศวกร, ช่างเทคนิคและแฟนเดนตายของ Atari ได้ร่วมกันศึกษา, ทดสอบและพัฒนาเกมบน Jaguar ต่อไปเพื่อให้ Platform ของ Atari ไม่ตายหายไปและสร้างเกมที่สามารถรีดประสิทธิภาพของ Jaguar ออกมาให้ได้มากที่สุด
ในแต่ละปีจะมีการจัดงาน The European Atari Jaguar Festival ย่อว่า “ejagfest” ซึ่งมีการแสดง Hardware หายากของ Atari หรือเกมใหม่บนเครื่องเล่นเกมของ Atari โดยจัดมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2000 แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้ชื่นชอบ Atari มีอยู่ไม่น้อยและยังเกาะกลุ่มกันได้อย่างเหนี่ยวแน่น
ตัวอย่างเกมล่าสุดของ Jaguar ที่แสดงในงาน ejagfest 2018 ในเยอรมัน ก็เช่น The Last Strike
บางเกมก็สามารถรีดประสิทธิภาพ 3D ระดับสูงของ Jaguar ออกมาให้ชมได้ เช่นเกม fallen angels ออกมาเมื่อปี 2012
ทำให้คำกล่าวอ้างของ CEO ของ Atari ในช่วงปี 1995 ที่ว่า Jaguar นั้นมีประสิทธิ์ภาพที่ทัดเทียมเครื่องเกมจาก Sony นั้นได้รับการพิสูจน์ว่ามีความเป็นไปได้
ล่าสุด Atari Interactive ซึ่งก็คือ Hasbro Interactive ที่ถูกซื้อไปโดย Infogrames Entertainment แล้วถูกรีแบรนด์เป็น Atari Interactive ได้ประกาศจะวางจำหน่ายเครื่องเล่นเกมของ Atari อีกครั้งในปี 2019 ในชื่อ Ataribox โดยคาดว่าจะเป็นเครื่องรวมเกมคลาสสิกของ Atari ตามเทรนด์ที่ค่ายอื่น ๆ เช่น Sega หรือ Nintendo ผลิตเครื่องเกมรีโทรของตนเองออกมา
ถึงแม้ Atari Jaguar จะไม่ประสบความสำเร็จในธุรกิจเครื่องเกมคอนโซลแต่ก็เป็นเครื่องเกมคอนโซลที่มีแฟน ๆ มากมาย, มีการนำไปใช้งานหลายหลายและยังมีเกมใหม่ ๆ ออกมาจนถึงปัจจุบัน
REF
Do The Math - The Story Of The Atari Jaguar
Atari Jaguar Story | Nostalgia Nerd
โฆษณา