7 เม.ย. 2020 เวลา 11:19 • ปรัชญา
# เพราะความฝันของผมติด F
อย่าปล่อยให้ความฝันเป็นเพียงแค่ความฝัน อ่านเรื่องราวต่อไปนี้แล้วคุณจะเข้าใจ
ชีวิตที่ไม่แน่นอน
Monty Roberts เป็นเจ้าของฟาร์มเลี้ยงม้าใน San Ysidro เขาอนุญาติให้ jack เพื่อนรักในสมัยเรียนใช้บ้านของเขา เพื่อจัดกิจกรรมระดมทุนให้กับเยาวชนในโครงการที่เขาวาดฝันไว้ว่าจะทำ
Roberts จึงพูดแนะกับ jack ที่กำลังยืนจัดงานอยู่ว่า “ jack ฉันอยากบอกนายถึงเหตุผลที่ฉันให้นายใช้พื้นที่ของบ้านฉันนะ เหตุก็เริ่มมาจากว่า มีชายคนหนึ่ง เขาเป็นลูกของครูฝึกสอนม้า
ซึ่งเขาต้องเดินทางตามพ่อเขาไปทุกที่ จากคอกม้าสู่สนามแข่งสนาม จากสนามแข่ง สู่ฟาร์มฝึกม้า จึงเป็นผลให้เขาได้ย้ายโรงเรียนอยู่บ่อย ๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้เขียนบทความเกี่ยวกับสิ่งที่เขาต้องการจะทำมากที่สุดเมื่อเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่
การบ้านที่น่าสนใจ
ซึ่งการบ้านนี้ ทำให้คืนนั้นเขาเขียนบทความได้มากถึงเจ็ดหน้า ที่อธิบายถึงเป้าหมายของเขา ว่าในวันหนึ่ง เขาอยากเป็นเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ เขาลงรายละเอียดเกี่ยวกับความฝันของเขาได้ชัดเจนมาก
อีกทั้งเขาวาดแผนภูมิรูปภาพ ของฟาร์มปศุสัตว์ ที่มีขนาด 200 เอเคอร์ เพื่อแสดงถึงที่ตั้งของอาคารทุกหลังที่อยากจะมี รวมไปถึงคอกม้าและทางเดิน จากนั้นเขาก็วาดแผนผังอย่างละเอียด
อีกหนึ่งชุดสำหรับขนาดของบ้าน 4,000 ตารางฟุตที่จะอยู่ที่ไร่ในฝัน 200 เอเคอร์ของเขา เด็กชายคนนี้ทุ่มเทหัวใจในการวาดฝันนี้เป็นอย่างมาก จนในเช้าวันถัดมา เขาก็มอบมันให้กับครูของเขา
การนัดเจอ
และอีกสองวันต่อ เขาก็ได้รับกระดาษแผ่นนั้นกลับคืนมา พร้อมด้วยตัวอักษร F สีแดงขนาดใหญ่ และยังข้อความที่เขียนเพิ่มเติมไว้ด้วยว่า "มาพบครูหลังเลิกเรียน”
จนกระทั่งเลิกเรียน เขาก็เดินไปที่ห้องพักครูตามที่เขียนไว้ในกระดาษ เมื่อไปถึง เขาจึงถามคุณครูท่านนั้นไปว่า “ ทำไมผมถึงได้ F ครับ”
ทันทีที่เขาพูดจบ คุณครูจึงตอบเขาไปว่า “ นี่เป็นความฝันที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเด็กอย่างเธอ เธอไม่มีทั้งเงิน และต้นทุนใด ๆ เลย อีกทั้งครอบครัวของเธอก็ต้องเดินทางอยู่เสมอ เธอจึงไม่มีทางทำได้อย่างแน่นอน
คำพูดของคุณครู
นอกจากนี้การเป็นเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ต้องใช้เงินจำนวนมาก เธอต้องซื้อที่ดิน เธอต้องจ่ายค่าสต็อกสินค้า ค่าผสมพันธุ์สัตว์ และเธอยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมต่าง ๆ อีกมากมาย
ครูจึงคิดว่ามันไม่มีทางที่เธอจะทำได้” จากนั้นครูก็เสริมต่อไปอีกว่า “แต่ถ้า หากเธอเขียนบทความนี้ใหม่ โดยมีเป้าหมายที่เป็นไปได้มากกว่านี้ ครูจะพิจารณาเกรดของเธอใหม่อีกครั้ง”
เมื่อการพูดคุยนั้นจบลง เด็กชายกลับบ้าน พร้อมกับคำพูดของคุณครูที่ยังคงวกวนอยู่ในหัวไม่ไปไหน เขาจึงตัดสินใจเล่าเรื่องนี้ให้พ่อฟัง
การรับฟัง
และถามพ่อของเขาไปว่าเขาควรทำอะไร พ่อของเขาจึงพูดกับเขาไปว่า "เอาล่ะลูกรัก พ่อคิดว่าเรื่องนี้ลูกต้องตัดสินใจด้วยตัวของลูกเองนะ เพราะการตัดสินใจครั้งจะถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของลูกเลยก็ว่าได้นะ และไม่ว่าลูกจะตัดสินใจอย่างไร พ่อก็จะคอยสนับสนุนลูกเอง”
หลังจากนั่นหนึ่งสัปดาห์ เด็กผู้ชายยกกระดาษที่เขีบยภาพฝันของเขาขึ้นมาชมอีกครั้ง ซึ้งภายในกระดาษแผ่นนั้นไม่มีร่องรอยการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดเลย
เขาพูดลอย ๆ ขึ้นมาว่า “ก็จริงที่ครู สามารถให้ F ผมได้ แต่นี้เป็นฝันของผม ผมจะทำให้มันผ่าน F ในชีวิตจริงเอง”
ภาพฝัน
เมื่อเขาเล่าจบ Roberts ก็หันไปหากลุ่มเพื่อของเขาที่รวมตัวกันอยู่ด้านหน้าเพื่อนั่งฟังเรื่องนี้ แล้วพูดว่า “ที่ฉันเล่าเรื่องนี้ให้ นายได้ฟังก็เป็นเพราะว่า นายกำลังนั่งอยู่ในบ้านขนาด 4,000 ตารางฟุต ใจกลางฟาร์มปศุสัตว์ขนาด 200 เอเคอร์ของฉันอย่างไงล่ะ”
Roberts พูดพรางชี้ขึ้นไปที่ภาพวาดชิ้นหนึ่ง ที่แขวนไว้เหนือเตาผิง
พร้อมกล่าวเสริมอีกว่า “ ส่วนที่ดีที่สุดของเรื่องนี้ก็คือ เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว ครูที่เคยให้ F ฉันในครั้งนั้น พาเด็ก ๆ จำนวน 30 คนไป เข้ามาตั้งค่ายในฟาร์มของฉันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
ฝันที่เป็นจริง
และเมื่อถึงวันจบค่าย ครูก็เดินเข้ามาบอกฉันว่า “ Roberts ในตอนนี้ครูคงสามารถบอกเธอได้แล้ว ว่าในตอนที่ครู เป็นครูของเธอ
ครูคงเป็นนักขโมยฝันตัวยงเลย และตลอดหลายปีที่ผ่านมาครูก็ได้ขโมยความฝันของเด็ก ๆ มากมาย โชคดีที่เธอไม่ยอมแพ้ และขว้าโอกาสทำฝันจนเป็นจริงขึ้นมาได้ ครูยินดีด้วยนะ "
ดังคำที่กล่าวไว้ว่า “ อย่าให้ใครขโมยความฝันของคุณ ทำตามหัวใจของคุณไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
แปลและเรียบเรียงโดยเรื่องเล่าจากดาวนี้
ที่มา:
อ่านบทความเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย 😄
โฆษณา