7 เม.ย. 2020 เวลา 11:33 • ประวัติศาสตร์
เรื่องของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ กับแฟ้มลับ " บัญชีสีชมพู " (Pink list)
(Cr:www.site.google.com/www.th.m.wikipedia)
ในโลกใบนี้หากกล่าวถึง" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ " คงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะมักถูกขนานนามว่าเป็น " อาชญากรเบอร์ 1 ของโลก " ในห้วงประวัติศาสตร์ ที่สร้างบาดแผลให้กับความทรงจำต่อมนุษยชาติยากที่จะลืมเลือน...กับการกระทำต่อเพื่อนมนุษย์ที่แสนจะเลวร้าย...
ด้วยการสังหารหมู่ ชาติพันธุ์ชาวยิวราว 6 ล้านคน หรือที่เรียกว่า " Holocaust (โฮโลคอสต์) " คำว่า Holocaust คืออะไร?
คำว่า " Holocaust " มาจากภาษากรีก แปลว่า "การสังเวยโดยไฟ " คำนี้ได้ถูกนำมานิยาม เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่มีชาวยิวประมาณ 6 ล้านคนถูกเข่นฆ่าโดยสมุนรับใช้ในกองทัพนาซีของเยอรมัน
ผู้นำอย่างฮิตเลอร์นั้น ไม่เพียงแต่ต้องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เฉพาะชาวยิวที่อาศัยอยู่ในเยอรมันและยุโรปให้หมดไปจากโลกนี้เท่านั้น แต่ยังมีแนวคิดโหดร้าย...ที่จะกำจัดกลุ่มเกย์ เลสเบี้ยน ผู้ป่วยทางจิตและคนพิการ ไม่ให้อยู่ร่วมในสังคมและแพร่พันธุ์ต่อไปได้
" สามเหลี่ยมสีชมพู " ถูกใช้ในค่ายกักกันของนาซี เพื่อแสดงความผิดของนักโทษที่เป็นพวกรักร่วมเพศ ต้องติดไว้ที่เสื้อแจ็กเกต แต่ปัจจุบัน เป็นสัญลักษณ์แห่งความภูมิใจในความเป็นเกย์(cr: wikipedia)
กลุ่มนักโทษพวกรักร่วมเพศ ที่ถูกพวกนาซีกักตัวในค่าย Sachsenhausen (เมื่อ 19 ธันวาคม ค.ศ.1938)(cr:www.time.com)
ฮิตเลอร์นั้นมีแนวคิดที่ว่า ชาวเยอรมันนั้นเป็นชาติพันธุ์ " อารยัน " ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ชั้นเลิศ เขาต้องการที่จะยกระดับชาติพันธุ์นี้(ซึ่งเป็นคนผิวขาว ผมทอง ตาสีฟ้า) ให้มีแต่ประชากรที่มี " คนคุณภาพสูง " เท่านั้น
ที่ผ่านมานั้น ฮิตเลอร์เคยเป็นพลทหาร ผ่านการรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 เคยได้รับยศเชิดชูเกียรติ (ยศสิบโท) หลังจากสิ้นสุดสงคราม เยอรมันนีเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ประชาชนของประเทศตกอยู่ในภาวะยากลำบาก และเยอรมันต้องชดใช้ค่าปฏิกรรมสงคราม ให้แก่ อังกฤษและฝรั่งเศส ด้วยความผิดฐานเป็นผู้ริ่เริ่มสงคราม
พอจะคาดเดาได้ว่า ประชาชนของประเทศผู้แพ้สงคราม ย่อมอยู่อย่างหดหู่ และต้องการ " ผู้นำ " ที่จะนำพาแสงสว่าง หวงกลับมาสู่ประเทศอีกครั้ง...
ด้วยความที่ฮิตเลอร์เป็นผู้มีความทะเยอทะยาน ต่อมาได้ผันตัวเองมาเล่นการเมือง เป็นทั้งนักพูด นักปลุกระดม ที่มีวาทะศิลป์ซึ่งแสดงออกว่าเป็น พวกชาตินิยมสุดขั้ว และยังเขียนหนังสือ ออกจำหน่ายนับล้านเล่ม(แนวรักชาติ ขายอุดมการณ์ที่จะสร้างชนชาติเยอรมันขึ้นมาใหม่)
ปี ค.ศ.1932 มีประชาชนออกมาให้การสนับสนุนการปราศรัยของฮิตเลอร์อย่างล้นหลาม(cr:www.catdumb)
ในที่สุดฮิตเลอร์ก็ได้เป็นหัวหน้าพรรค National Socialist German Workers Party หรือ NAZI และต่อมา...จึงได้เป็นผู้นำสูงสุดของประเทศเมื่อวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 1933
ฮิตเลอร์นั้นเป็นคนโหดที่เอาจริง เมื่อขึ้นครองอำนาจสูงสุด จึงเดินหน้าแก้กฎหมายเพื่อหาทางทำลายล้างพวกเกย์ เลสเบี้ยน โดยกำหนดว่า กลุ่มคนเหล่านี้ เป็นพวก " พฤติกรรมเสื่อม" ใครก็ตามที่มีพฤติกรรมทางเพศผิดธรรมชาติ ถือเป็นเรื่องผิดกฏหมาย
จริงๆแล้วเยอรมันมีกฎหมาย เรื่องการต่อต้านเกย์อยู่ก่อนหน้านั้น คือมาตรา 175 ตั้งแต่ตอนตั้งประเทศ แต่ฮิตเลอร์ได้ปรับเปลี่ยนถ้อยคำในกฎหมายให้กว้างขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้กำจัดฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองได้ง่ายยิ่งขึ้น
ฮิตเลอร์ได้แต่งตั้ง ฮิมเลอร์(Himmler) ให้เป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการลับ SS รวบรวมรายชื่อ ที่เรียกว่า " Pink List " หรือ " บัญชีสีชมพู " รวบรวมพวกบรรดาเกย์ เลสเบี้ยน ทั้งหมดเพื่อ " กำจัด " โดยเปรียบเปรยว่า " ต้องกำจัดคนข้ามเพศเหล่านี้ ให้เหมือนกำจัดวัชพืชออกจากสนามหญ้าในบ้านเรา "
ไฮน์ริช ฮิมเลอร์(Heinrich Himmler) หนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลของพรรคนาซีเยอรมันและเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงต่อการทำ Holocaust ต่อชาวยิวและเหล่าเกย์(cr:wikipedia)
ในระหว่างปี ค.ศ.1933-1945 หน่วยตำรวจลับ " เกสตาโป " ได้กวาดจับพวกรักร่วมเพศไปราว 1 แสนคนและถูกส่งฟ้องดำเนินคดีราว 5 หมื่นคน ไม่มีใครรอดจากคำพิพากษา และถูกส่งไปเข้าค่ายทำงานหนัก ซึ่งต่อมา จากข้อมูลที่เปิดเผยหลังสงคราม เกย์เหล่านั้นส่วนใหญ่เสียทั้งหมด
การออกกฎหมายของฮิตเลอร์ ทำให้เห็นว่า พวกโฮโมเซ็กชวล เป็นคนป่วย ที่เป็นอันตรายที่จะทำให้เกิดการแพร่กระจายโรคและเป็นตัวถ่วงที่จะสร้างสังคมคุณภาพ
1
และข้อหา " การเป็นเกย์ " ยังสามารถเป็น " เครื่องมือกำจัดฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง " คู่แข่งของฮิตเลอร์ได้อีกด้วย
และต่อมาฮิตเลอร์ได้ตั้งหน่วยงานใหม่ คือ ศูนย์ปราบปรามโฮโมเซ็กชวลแห่งอาณาจักรไรซ์ (Reich Central Office for Combatting Homosexual )
และได้จับกุมเกย์ในหน่วยงานของตน เพื่อเป็นต้นแบบในสังคม (จากข้อมูลระบุว่า ในเวลานั้นดินแดนเยอรมันมีคนกลุ่มเหล่านี้ราว 1.2 ล้านคน)
หน่วยงานลับเกสตาโปในเยอรมัน ได้กวาดล้าง แหล่งชุมนุมของชาวเกย์ เช่นสโมสร ร้านกาแฟ ชมรมต่างๆและยึดเอกสารชาวเกย์ไปเผาทำลาย รวมทั้งปิดสถานมั่วสุมทุกแห่งของชาวรักร่วมเพศ
และในที่สุดกลุ่มคนที่โดนข้อหา " เป็นชาวรักร่วมเพศทั้งหลาย " จึงถูกกักตัวได้รับชะตากรรมไม่ต่างจากชาวยิว.....ที่น่าสงสารเช่นกัน
กลุ่มคนพวกรักร่วมเพศเหล่านี้ มีมากถึงราว.. 1 แสนคน
" สามเหลี่ยมสีชมพู" ณ สถานีรถไฟในกรุงเบอร์ลิน เพื่อระลึกถึงและเคารพเกย์ที่เสียชีวิต
อนุสรณ์และสัญลักษณ์ต่างๆที่ระลึกถึงกลุ่มรักร่วมเพศที่ต้องเสียชีวิตจากพวกนาซี(cr:wikipedia)
ฮิตเลอร์ยังคงยืนกราน ตามหลักกฎหมายอย่างหนักแน่นว่า " คนพวกนี้เป็นพวกผิดกฎหมาย " เพราะมีเพศสัมพันธ์ผิดธรรมชาติ เป็นประชากรที่ไม่มีคุณภาพของสังคมเยอรมัน เป็นตัวถ่วง และทำให้สังคมชาวอารยันไม่บริสุทธิ์
นอกจากนั้น....
ภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง มีเอกสารระบุว่าหน่วยงาน SS ที่ทรงอิทธิพลภายใต้การนำของฮิมเลอร์ ได้ให้โอกาสแพทย์ทดลองและทำงานวิจัยทางการแพทย์ เพื่อรักษา เยียวยาเกย์ทั้งหลายในคุกและทำงานวิจัยหาสาเหตุของการเป็นเกย์ทุกรูปแบบ เช่น การค้นหายีนผิดปกติในร่างกาย การใช้ยา หรือ การผ่าตัด
โดยจะทำอะไรกับพวกเกย์เหล่านั้นก็ได้ เพราะถือว่าเป็นเสมือนมนุษย์ชั้นต่ำที่ไม่มีคุณค่าอะไรเลย หากตายก็ตายไป....
...ช่างเลวร้ายหรือเกิน
...การเข่นฆ่าชาวยิวราว 6 ล้านชีวิตและการกวาดล้างชาวเกย์ ทั้งหลาย(ซึ่งอาจจะมีผู้บริสุทธิ์ ที่โดนใส่ร้ายป้ายสีเพื่อเหตุผลทางการเมืองรวมอยู่ด้วย) ถือเป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างใหญ่หลวง ยากที่จะให้อภัยได้เลยนะคะ กับผู้ชายคนนี้ ....อดอล์ฟ ฮิตเลอร์.....
🌷🌷ขอให้อย่ามีคนใจร้ายเช่นนี้เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้อีกเลย...
🌷🌷....ขอให้โลกนี้มีแต่ความเมตตาและสันติภาพ💐💐
🥰 ขอบคุณที่คิดตามอ่านบทความนะคะ
🥰 ฝากกด like & share
และกดติดตามด้วยนะคะ🙏🏼🙏🏼
Dent-jasmine เรียบเรียง 🌷🌷🌷
Reference
-www.en.wikipedia.org/wiki/Persecution_of_homosexuals_in_Nazi_Germany
-www.history.com/news/pink-triangle-nazi-concentration-camps
-www.th.wikipedia.org/wiki/สามเหลี่ยมชมพู
-www.matichon.co.th/article/news_1346142
-www.matichon.co.th/news-monitor/news_1387706
โฆษณา