Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าของปลาวาฬ
•
ติดตาม
8 เม.ย. 2020 เวลา 00:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
แพทย์นิติเวชรู้ได้ยังไงว่าศพนี้เสียชีวิตมานานแค่ไหนแล้ว??
การที่แพทย์นิติเวชสามารถบอกว่าศพนี้เสียชีวิตมานานเท่าไหร่แล้วนั้น เป็นแค่การประมาณเวลาเสียชีวิตเท่านั้นนะคะ ไม่สามารถบอกเป็นเวลาที่แน่ชัดได้ เพราะว่าสภาพหลังการตายของศพอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพแวดล้อมที่ศพอยู่ อย่างเช่นถ้าศพอยู่ในอากาศร้อนจะเน่าเปื่อยเร็วกว่าศพที่อยู่ในอากาศเย็นค่ะ
1
วิธีที่แพทย์นิติเวชใช้ในการหาระยะเวลาในการเสียชีวิตมีดังนี้ค่ะ
( รบกวนให้ผู้อ่านทุกๆท่านนึงภาพตามด้วยนะคะ 🙂 ถ้ากลัวก็สามารถดูภาพน่ารักๆประกอบเพื่อลดความกลัวได้ค่า)
1.การตกของเลือดตามแรงโน้มถ่วง
ทุกคนน่าจะรู้จักแรงโน้มถ่วงของโลกใช่มั้ยคะ ที่ค้นพบโดยชายคนหนึ่งไปนั่งใต้ต้นแอปเปิ้ล (ที่จริงๆควรจะเป็นต้นทุเรียนนะคะ ว่ามั้ย😏) แรงๆนี้ส่งผลให้ของทุกอย่างบนโลกตกสู่พื้นโลก เลือดเราก็เหมือนกันค่ะ เมื่อร่างกายของเราหยุดทำงานแล้ว เลือดในเส้นเลือดก็จะหยุดวิ่ง เม็ดเลือดแดงก็จะนอนก้น แล้วจะเกิดเป็นสีแดงคล้ำ แต่ผิวหนังส่วนที่สัมผัสกับพื้นหรือของแข็งจะมีสีซีด เพราะเส้นเลือดฝอยบริเวณนั้นจะไม่มีการนอนก้นของเม็ดเลือดแดงค่ะ
การตกของเม็ดเลือดแดงจะเริ่มเกิดตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงหรือ 2 ชั่วโมงหลังการตาย และจะเกิดอย่างเต็มที่8-12ชั่วโมงหลังการตายค่ะ (การเกิดอย่างเต็มที่คือ การที่พลิกตัวศพแล้วจะไม่เกิดบริเวณที่มีการนอนก้นของเม็ดเลือดแดงบริเวณใหม่ค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ใส่วุ้นน้ำแดงตอนที่ยังไม่แข็งตัวลงไปในพิมทรงกลม ถ้าเราพลิกมันไปมาวุ้นก็จะไปตามที่เราพลิก แต่ถ้าเรารอให้มันแข็งตัวแล้วพลิก วุ้นก็ไม่เปลี่ยนรูปทรงถูกมั้ยคะ มันก็เปลี่ยนรูปครึ่งทรงกลมของมันเหมือนเดิม)
2.การแข็งตัวของกล้ามเนื้อ
เกิดขึ้นเมื่อเสียชีวิตไปแล้ว 2 - 4 ชั่วโมง เกิดอย่างเต็มที่เมื่อ 6 -12 ชั่วโมง โดยเกิดจากการจับตัวกันของโปรตีนแอกทิน (actin) และไมโอซิน (myosin) เนื่องมาจากการขาดพลังงาน ATP ที่ได้มาจากการหายใจ
4
กล้ามเนื้อมัดเล็กจะแข็งตัวไวกว่ากล้ามเนื้อมัดใหญ่ๆ โดยกล้ามเนื้อมัดเล็กที่พบก่อนเพื่อนเลยคือ กล้ามเนื้อที่ใช้เคี้ยวอาหารจะทำให้ขากรรไกรแข็ง และกดไม่ลงค่ะ หลังจากนั้นกล้ามเนื้อบริเวณนิ้วมือ แขน ขา และลำตัวจะแข็งตัวตามลำดับค่ะ
ทั้งนี้ทั้งนั้นกล้ามเนื้อสามารถแข็งตัวไวขึ้นเมื่อมีการใช้กล้ามเนื้อหนักก่อนการเสียชีวิตด้วยค่ะ อย่างเช่นศพที่เสียชีวิตจากการจมน้ำ กล้ามเนื้อจะแข็งไวขึ้น เนื่องจากการตะเกียกตะกายที่จะคว้าสิ่งของเพื่อให้รอดชีวิตของผู้เสียชีวิตค่ะ
1
3.การลดลงของอุณหภูมิ
ทุกคนเคยจับตัวเพื่อนๆ หรือญาติสนิท มิตรสหายแล้วเขาคนนั้นตัวเย็นมากมั้ยคะ แล้วทักเขาว่า ตัวเย็นขนาดนี้ ตายรึยังเนี๊ยย มันเป็น common sense เลยใช่มั้ยคะ ว่าคนที่ตัวเย็น = คนตาย เพราะตายแล้วอุณหภูมิในร่างกายต้องลดลงแน่ๆ เนื่องจากการเผาพลาญต่างๆในร่างการหยุดลง
2
มีคนพยายามที่จะหาวิธีการที่จะใช้อุณหภูมิของศพบอกระยะเวลาการตาย แต่ก็ไม่สามารถนำมาบอกได้ เนื่องจากอุณหภูมิของร่างกายเราเปลี่ยนแปลงได้ค่อนข้างง่าย เช่น ตอนเช้าอุณหภูมิของร่างกายจะประมาณ 35 องศา และเมื่อเวลาผ่านไปก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ หรือเราออกกำลังกายอุณหภูมิร่างกายก็จะสูงขึ้นอีกนั่นเองค่ะ
4.อัตราการเน่า
เมื่อมีการเสียชีวิตแล้วก็จะมีการเน่าของศพ ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 กรณีค่ะ
1.การสลายตัวของเซลล์เอง
เกิดจากการที่เซลล์ปล่อยน้ำย่อยออกมาย่อยตัวเอง ถ้าอยู่ในที่ๆมีอากาศร้อนจะเกิดการย่อยเร็ว อากาศหนาวจะเกิดการย่อยช้าค่ะ โดยอวัยวะที่มีน้ำย่อยมากจะสลายตัวเร็วกว่าอวัยวะที่ไม่มีน้ำย่อยค่ะ
2
2.การเน่า
เกิดจากการที่แบคทีเรียทำปฏิกิริยาในเนื้อเยื่อของร่างกาย และจะเกิดในลำไส้ใหญ่เนื่องจากมีแบคทีเรียอยู่แล้ว (แบคทีเรียชื่อว่า E.coli ค่ะ) จะทำให้เกิดบริเวณเขียวที่ท้องน้อย โดยแบคทีเรียพวกนี้จะสร้างแก๊สไฮโดรเจนซัลไฟด์หรือแก๊สไข่เน่า แล้วแก๊สนี้จะวิ่งไปตามเส้นเลือด ทำให้เกิดเป็นเหมือนลายหินอ่อนสีเขียวคล้ำขึ้นมาค่ะ(ทุกคนยังมองลายหินอ่อนสวยเหมือนเดิมมั้ยคะ หนูขอโท๊ดด😫) ร่างกายจะอืดมากขึ้น และจะมีถุงน้ำโผล่ขึ้นมาตามผิวหนัง ผมและขนจะเริ่มหลุดออก และมีน้ำเหลืองไหลออกมาทางปากหรือจมูก ระยะอืดของศพในไทยอย่างเต็มที่จะประมาณ 3 - 4 วันค่ะ
1
5.การเปลี่ยนแปลงทางเคมีในร่างกาย
การเปลี่ยนแปลงทางเคมีในร่างกายไม่สามารถนำมาบอกระยะเวลาการตายได้ค่ะ เพราะสารเคมีในร่างการมนุษย์มีการเปลี่ยนแปลงซะส่วนใหญ่ และไม่ทราบแน่ชัดว่าสารนั้นๆมีปริมาณเท่าไหร่ก่อนที่ผู้ตายจะเสียชีวิต แต่สามารถนำมาบอกสาเหตุของการตายได้ค่ะ
1
ยกตัวอย่างเช่น เอ็นไซม์โคลีนเอสเตอร์เรส (เป็นเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งกระแสประสาท) ที่ไม่เปลี่ยนแปลงหลังตาย เพราะฉะนั้นจึงสามารถตรวจหาได้ว่าผู้ตายเสียชีวิตจากสารพิษจำพวกยาฆ่าแมลงหรือไม่
1
6.ปริมาณอาหารในกระเพาะ
ปริมาณอาหารที่อยู่ในกระเพาะของผู้ตายสามารถบ่งบอกเวลาตายที่เกี่ยวข้องกับมื้ออาหารได้ อย่างเช่น มีคนพบศพของนายปลาอยู่ในห้องน้ำของสนามบินเมื่อเวลา 4 ทุ่ม เมื่อชันสูตรดูแล้วพบข้าว ผัดหอยลาย และต้มยำกุ้ง อยู่ในเต็มกระเพาะของนายปลา ซึ่งเป็นอาหารกลางวันของนายปลา ทำให้สามารถบอกได้ว่านายปลาเสียชีวิตหลังมื้อกลางวันไม่เกินครึ่งชั่วโมง
แพทย์นิติเวชสามารถบอกระยะเวลาการตายของศพจากอาหารให้กระเพาะได้ว่า
- ถ้าไม่พบอาหารในกระเพาะกินมาแล้ว 3 -6 ชั่วโมง
-ถ้าพบครึ่งกระเพาะกินมาประมาณครึ่งชั่วโมง - 2ชั่วโมงเศษ
-พบเต็มกระเพาะกินมาไม่เกินครึ่งชั่วโมง
7.การเจริญเติบโตของตัวหนอน 🐛
ถ้ารู้ว่าเป็นหนอนชนิดใด ก็จะสามารถรู้ว่าเติบโตมานานเท่าไหร่ และใช้เวลากี่วัน (ตามภาพเลยค่า😊) โดยทั่วไปในประเทศไทยจะพบหนอนแมลงวัน แต่อย่างไรก็ตามนะคะทุกๆคน ถ้าไม่มีแมลงวันตอม = ไม่มีหนอนแมลงวันค่าา
8.สิ่งที่ปรากฏในที่เกิดเหตุ
การตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดสามารถระยะเวลาการตายได้ดีค่ะ อย่างเช่น นายยุทธชอบซื้อหนังสือพิมพ์เป็นประจำทุกวัน แล้วในบ้านเขามีหนังสือพิมพ์ฉบับล่าสุดวันที่ 1 ธันวาคม 2567 ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าวันนั้นเป็นวันที่เขาเสียชีวิตค่ะ
1
จบไปแล้วนะคะกับบทความที่ยาวไม่รู้จะยาวยังไงแล้ว (แหะๆ 😅)
สุดท้ายนี้ขอฝากเกร็ดเล็กๆอีกสักหน่อยนะคะ ว่าศพสามารถเปลี่ยนไปเป็นขี้ผึ้งได้ด้วย!! หรือมีภาษาอังกฤษไว้เรียกเท่ๆ ชิคๆ ว่า Adipocere ประกอบด้วยกรดไขมัน palmitic, oleic และ stearic และ glycerol จะมีลักษณะเป็นสีขาว เทา จะเกิดหลังการเสียชีวิตประมาณ 2 - 4 สัปดาห์ จะเกิดในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิสูงและความชื้นสูงค่า
3
37 บันทึก
69
28
28
37
69
28
28
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย