9 เม.ย. 2020 เวลา 03:11 • ปรัชญา
ธรรมะ ธรรมดา ธรรมชาติ
บทความนี้เป็นบทความง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ มันไม่ได้มีความเลิศหรู วิเศษ เป็นบทความทั่วไป เพียงแค่เพิ่มจิตที่เป็นกุศล จิตที่บริสุทธิ์ ที่ใฝ่เมตตา ด้วยความรักและปรารถนาดี ให้ผู้อ่านได้เข้าใจตัวตนและจิตใจ ของเราทุกก้าวย่าง ทุกลมหายใจเข้าออก ในเวลาที่เคลื่อนผ่านไปแต่ละวินาทีเราจะเห็น ธรรมะ ธรรมดา และธรรมชาติซ้อนอยู่
ความมีอยู่ของทั้ง 3 อย่างนี้ ที่มีความหมายต่างกันแต่เมื่อนำมาตีความจะมีความคล้ายกันเป็นอย่างมาก ซึ่งล้วนแต่ช่วยให้คนเราเข้าใจและเข้าถึงทั้งทางตรงและทางอ้อม
♥️♥️♥️ ธรรมะประดับใจ ใฝ่หาแต่สิ่งดี ♥️♥️♥️
♥️♥️♥️ มีจิตเป็นธรรมดา พาตนสู่ธรรมชาติ ♥️♥️♥️
1) ธรรมะ คือ คำสอนให้รู้จักผิด-ถูก-ดี-ชั่ว-บาป-บุญ คำสอนที่ช่วยให้เราเลือกกระทำแต่กรรมดี
2) ธรรมดา คือ ความเรียบง่าย สันโดษ ไม่ยึดติด ไม่มีความอยาก ความพอเพียง พอดี และพอใจในสิ่งที่ตนมี
3) ธรรมชาติ คือ ความจริงของสรรพสิ่งบนโลก และจักรวาล ที่มีความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปตามกาลเวลา
คำทั้ง 3 นี้ เมื่อ รวมเข้าด้วยกันคือ สูญญตา อันเป็นความว่างเปล่า เมื่อถามว่าคนเราเกิดมาเพื่ออะไร? อยู่เพื่อสิ่งใด? และทำเพื่อใคร? คำตอบคงไม่ยากสำหรับเราเพราะทุกคนล้วนมีคำตอบอยู่กับตัวเองแล้ว ซึ่งผลที่ออกมาคือบทสรุปสุดท้ายของชีวิต
ธรรมมะ เป็นคำสอนที่มีประจำใดสำหรับมนุษย์ เทวดา พรหม และทุกศาสนา ทุกนิกาย ทุกลัทธิ ล้วนก็มีหลักคำสอนของตน ที่ได้วางไว้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ตามหลักพระพุทธศาสนา จึงได้นำคำสอนมาใช้ในการสั่งสอนให้ทุกคนเป็นคนดี โดย มีศีลในเบื้องต้น การทำดีทั้งทางกาย วาจา และการคิดดี (จิตใจ)
ธรรมดา เป็นความเรียบง่าย ไม่ยึดติด มีความสันโดษ มีความพอเพียง พอใจในสิ่งที่มี ไม่ไปเปรียบเทียบกับผู้อื่น หรือมีความอิจฉาริษยาในสิ่งที่คนอื่นเขามี แล้วตนเองไม่มี หากเรายึดความธรรมดาเรามีมีความสุขกับสิ่งที่เรามี และทำชีวิตของตนเองแบบง่ายๆ อยู่ง่ายกินง่าย ใช้ชีวิตแบบง่ายๆ ไม่ทำให้คนอื่นต้องวุ่นวาย หรือเดือดร้อน
ธรรมชาติ เป็นสัจธรรม ความจริงที่ทุกชีวิต และสรรพสิ่งในจักรวาลที่มีความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปตามธรรมชาติ เมื่อมองถึงสิ่งมีชีวิตบนโลกเราจะเห็นการเกิด การแก่ การเจ็บ และการตาย ที่วนเวียนอย่างนี้เรื่อยไปที่เรียกว่าวัฏฏะ หรือ สังสารวัฏฏ์ ที่ไม่มีความสิ้นสุด
1
เมื่อรวมทั้ง 3 เข้าด้วยกันเราจะเห็นว่าทุกชีวิตล้วนมีความกลัว ความโลภ ความโกรธ ความหลง และความรัก แต่เพื่อจะให้อยู่ในสังคมได้ดีต้องมีการขัดเกลาตนด้วยธรรมะ เมื่อเรามีธรรมะแล้วย่อมมีชีวิตที่เรียบง่าย มีความปล่อยวางในบางสิ่งบางอย่าง พอเพียงและพอใจในสิ่งที่ตนมี รู้จักที่จะไม่ฟุ่มเฟื่อย ไม่ลุ่มหลงกับสิ่งต่างๆ ได้ง่าย
การที่เราเข้าถึงทั้ง ธรรมะ และธรรมดา แล้วนั้น จิตเราจะถูกขัดเกลาพัฒนาให้สูงยิ่งขึ้นไปโดยการเข้าถึงความจริงของชีวิต ยึดมรรค 8 เพื่อเข้าถึงอริยสัจจ์สี่ คือ ความหลุดพ้น มุ่งสู่การพ้นทุกข์ มีแต่ความว่างเปล่า เป็นบรมสุข สุขที่อริยบุคคลต่างต้องการ และปรารถนาจะเข้าถึง
ดังนั้น การเข้าถึงธรรมะ ธรรดา และธรรมชาติ จะทำให้เรามีความสุขเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยให้เราอยู่ในสังคมได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเกิดภัยจากธรรมชาติ โรคร้าย เราก็ดำรงอยู่ได้ เมื่อเรามีเครื่องเตือนใจ เตือนสติตนเองอยู่ตลอดเวลา เพราะเหตุนี้เราจึงมีสติให้มากในยามที่เดือร้อนเราจะได้นำปัญญาที่มีอยู่ไปใช้ได้ ซึ่งส่งผลในทางที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น
ฝากกด like
ฝากกด share
ด้วยนะครับ
โฆษณา