9 เม.ย. 2020 เวลา 08:16 • กีฬา
คนขุนแดนเอธิโอเปีย : 'BODI' ชนเผ่าที่กักตัวและกินแหลก 6 เดือนเพื่อแข่งกันอ้วน
กักตัวหนีโควิด ... เชื่อว่าเราคงได้ยินคำนี้จนชินหูตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และมันมีทีท่าว่าจะไม่จบลงง่ายๆ และแน่นอน หนึ่งในปัญหาของการอยู่กับบ้านไม่ได้ออกไปไหนก็คือ "น้ำหนักขึ้นโดยไม่รู้ตัว"
คุณอาจจะเผลอกินเยอะโดยไม่ตั้งใจ ไม่ได้ออกกำลังกายเพราะสถานการณ์บังคับ ทว่าอีกฟากของโลกมีชนเผ่าหนึ่งที่ไม่เคยกังวลกับความอ้วน อีกทั้งยังพยายามแข่งกันทำน้ำหนักให้มากที่สุดในเผ่าอีกต่างหาก
ติดตามเรื่องของชนเผ่า Bodi ในประเทศ เอธิโอเปีย กับเทศกาลการกักตัวและกินจนกว่าจะกินไม่ไหวของพวกเขา
ทำเพื่ออะไร แข่งอย่างไร ชนะแล้วได้อะไรกลับมา? ติดตามทั้งหมดได้ที่นี่
หนึ่งเดียวใน 50 เผ่ารอบแม่น้ำ OMO
Bodi คือชื่อชนเผ่าท้องถิ่นในประเทศเอธิโอเปีย พวกเขามีจำนวนประชากรราวๆ 9,000 คน ส่วนเรื่องของการทำมาหากินและประกอบอาชีพนั้นไม่ต่างจากเผ่าอื่นๆ ในแอฟริกา นั่นคือการทำเกษตรและปศุสัตว์ พวกเขาปลูกข้าวฟ่าง ข้าวโพด เลี้ยงแพะ เลี้ยงวัวไปตามประสา อ่านมาถึงตรงนี้ฟังดูแล้วดูเหมือนจะไม่มีอะไรน่าสนใจและไร้ซึ่งความแตกต่าง ... แต่ช้าก่อน คุณจะต้องคิดใหม่หลังจากรู้เรื่องต่อไปนี้
Photo : naturepl.com
เพราะบริเวณรอบๆ แม่น้ำ Omo แม่น้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศรองจากแม่น้ำไนล์ เส้นเลือดใหญ่ของทวีปแอฟริกา มีชนเผ่าท้องถิ่นมากมายถึง 50 เผ่า แต่ชาวเผ่า Bodi นั้นแตกต่างเด่นชัดสังเกตง่ายมากที่สุด เพราะประชากรเพศชายของเผ่าอื่นๆ จะมีลักษณะที่ผอมเพรียว แข็งแรง เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ แต่กับเผ่า Bodi ผู้ชายของที่นี่จะเดินตัวกลมพุงพลุ้ยนำหน้ามาแต่ไกล ... และพวกเขาไม่แคร์ด้วยที่ร่างกายของตัวเองไม่ได้ถูกจริตตามบริบทสังคมโลกทั่วไป
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นไปได้ เพราะภาพจำของเราๆ ท่านๆ นั้น ประชากรชนเผ่าจะต้องมีลักษณะร่างกายที่แข็งแกร่ง แบบเดียวกับเผ่าอื่นๆ ที่ไม่ใช่เผ่า Bodi ซึ่งสาเหตุที่พวกเขาสามารถแตกต่างและเน้นไปที่การสร้างรูปร่างให้อ้วนได้ มีเหตุผลมาจากชนเผ่า Bodi เป็นเผ่ารักสงบไม่คิดรบกับใคร อีกทั้งยังไม่ค่อยล่าสัตว์เองเนื่องจากมีปศุสัตว์และผลผลิตทางการเกษตรเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องผอม ต้องมีกล้าม และต้องแข็งแรงเหมือนกับเผ่าอื่นๆ ที่เป็นภาพจำของชาวโลกทั่วไป
Photo : steemit.com
ไม่เพียงเท่านั้น เหตุผลที่พวกเขาจำเป็นต้องอ้วน เพราะมันเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความร่ำรวย ... มีอันจะกิน มีทรัพย์สินเยอะ และที่สำคัญมีวัวหลายตัว ซึ่งวัวนี่แหละที่เป็นแหล่งโปรตีนอันดับ 1 ของชนเผ่า Bodi พวกเขากินทั้งเนื้อ ทั้งนม และกินแม้กระทั่งเลือดสดๆ ที่เชือดกินกันตรงนั้นให้รู้แล้วรู้รอดกันไป
นอกจากความอ้วนจะบ่งบอกถึงฐานะและความมั่งมีแล้ว อีกประการหนึ่งที่ผู้ชายเผ่า Bodi ภูมิในไขมันที่ตนเองมีอย่างยิ่งก็เพราะมันแสดงถึงการมีพลังอำนาจ โดยผ่านการแข่งขัน ที่ยิ่งพุงใหญ่เท่าไหร่คุณก็จะยิ่งเข้าใกล้การเป็น "ราชา" ของเผ่ามากขึ้นเท่านั้น
เทศกาลหาราชา
ในเดือนมิถุนายนของทุกปี ซึ่งตรงกับวันขึ้นปีใหม่ตามปฎิทินโบราณของชาว Bodi จะมีเทศกาลหนึ่งที่ทุกคนในเผ่ารอคอย ... ขนาดที่ในระยะหลังถึงขั้นมีสำนักข่าวดังจากโลกศิวิไลซ์ส่งทีมงานมาถ่ายทำสารคดีกันมากมาย นั่นคือเทศกาล Ka'el หรือเทศกาลที่หาความเป็นเลิศของชายที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเผ่า เพื่อขึ้นเป็นผู้นำของเผ่าในอนาคต
จะมองว่าเทศกาล Ka'el เป็นกีฬาก็คงไม่ผิดนัก เนื่องจากบริบทของกีฬามีอยู่ว่า "การเล่นเพื่อการแข่งขัน เพื่อความเพลิดเพลิน หรือเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง มีกฎระเบียบ และกติกาที่แน่นอนตามแต่ชนิดกีฬา" หากจะเปรียบเทียบก็คงเหมือนกับกีฬาเพาะกาย เพียงแต่ว่าเปลี่ยนสิ่งที่ใช้ตัดสินจาก กล้ามเนื้อ เป็น ไขมัน ก็เท่าน้นเอง
Photo : face2faceafrica.com
มองดูแล้วอาจจะเป็นเรื่องที่ดูตลกดี ที่มีผู้ชายหลายสิบคนมาแข่งกันกินอาหารให้ตัวอ้วนขึ้น และที่สำคัญคุณคงคิดว่ามันจะยากอะไรแค่การกินให้มากที่สุด ไม่ไหวก็แค่ยอมแพ้ไป ปีหน้าค่อยๆ กินขยายกระเพาะอาหารและกลับมาแข่งใหม่ก็ยังได้ ทว่าความจริงและสิ่งที่เกิดขึ้นกับเทศกาล Ka'el นั้นจริงจัง และโหดร้ายเกินกว่าที่ใครจะนึกภาพออก ... ยินดีต้อนรับเข้าสู่เทศกาล Ka'el เทศกาลแข่งกินที่ใช้ความสามารถเหนือมนุษย์ที่สุดเท่าที่โลกเคยมี
1
KA'EL การกักตัวและทำให้อ้วนที่มาก่อนกาล
พูดถึงการแข่งกิน ภาพที่เราๆ นึกออกคงหนีไม่พ้นรายการญี่ปุ่นอย่าง TV Champions หรือการแข่งกินฮอทดอกในวันชาติของสหรัฐอเมริกา ที่เอาผู้เข้าแข่งขันมาแข่งกินจุในเมนูสุดอร่อยภายใต้เวลาที่จำกัด ครึ่งชั่วโมงบ้าง 1 ชั่วโมงบ้าง หรือบางเมนูก็ให้เวลากิน 2 ชั่วโมง อะไรก็ว่ากันไป ใครกินได้มากชิ้น มากจานที่สุดก็เป็นผู้ชนะ ง่ายๆ แบบนั้นเอง
แต่ที่ชนเผ่า Bodi แข่งกันกินนั้น ต้องย้ำอีกทีว่าพวกเขาไม่ต้องการคนที่กินจุ แต่พวกเขาต้องการคนที่กินแล้วอ้วนที่สุด ระยะเวลาการแข่งขันก็ไม่มากไม่มาย ... "6 เดือนเต็มๆ" คุณอ่านไม่ผิดหรอก 6 เดือนที่พวกเขาจะต้องกินแต่ของที่ทำให้ตัวเองอ้วนขึ้นเป็นอันดับ 1 ของเผ่า
Photo : face2faceafrica.com
แรกเริ่ม ผู้เข้าแข่งขันจะต้องเป็นชายหนุ่มที่ยังไม่เคยผ่านการแต่งงานเท่านั้น จึงจะมีสิทธิ์สมัครลงแข่งขันในพิธี Ka'el ได้ เมื่อผ่านคุณสมบัติแล้ว พวกเขาทั้งหมดจะถูกจับแยกกระท่อม กระท่อมละ 1 คน กติกาคือระหว่างการแข่งขัน 6 เดือน ผู้เข้าแข่งขันห้ามออกจากระท่อมเด็ดขาด ใครออก = แพ้ แบบไม่มีข้อแม้
1
อย่าลืมว่าในกระท่อม 6 เดือนนั้นจะโหดร้ายขนาดไหน จงจำไว้ว่าที่นั่นไม่มีไฟฟ้า ไม่มีอินเตอร์เน็ต และที่สำคัญไม่อนุญาตให้สุงสิงกับใคร เพราะ 1 ในกิจกรรมที่ห้ามเด็ดขาดคือการมีเพศสัมพันธ์ด้วย เวลาเดียวที่กลุ่มผู้เข้าแข่งขันจะได้เจอกับผู้คน คือยามเช้าที่จะมีผู้หญิงซึ่งเป็นสาวโสดในเผ่านำอาหารมาให้หน้ากระท่อมเท่านั้นเอง
ที่สำคัญสุดๆ และทำให้มันโหดสุดๆ คืออาหารจานหลักที่ทำให้อ้วนได้ไวที่สุด เป็นอาหารที่น้อยคนบนโลกจนกินมันได้โดยเต็มใจ สำหรับชาว Bodi ไม่มีเวย์โปรตีน ไม่มีอาหารทางเลือก มีแต่การกินนมวัวผสมเลือดเท่านั้น
Photo : face2faceafrica.com
มันไม่ใช่เรื่องเล่นและชนเผ่า Bodi คิดไปเอง เพราะในเลือดสัตว์มีโปรตึนสูงมาก หนึ่งในตัวอย่างที่ทำให้เราเห็นถึงความจริงข้อนี้เกิดขึ้นในปี 2562 ที่ผ่านมา เมื่อ ดร.อารีย์ อินทร์นวล ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ได้ศึกษาการใช้ประโยชน์จากเลือดหมูเผื่อนำมาแปรรูปเป็น "โปรตีนฮีม" ซึ่งเป็นทางเลือกเพื่ออนาคตอีกด้วย
เหนือสิ่งอื่นใด การกินเลือดสดๆ นอกจาจะได้โปรตีนแล้ว ยังมีไขมันที่ผสมอยู่ในเลือดอีกต่างหาก ดังนั้นการเอาเลือดไปผสมกับนมจึงเป็นเหมือนการรวมเอาแหล่งโปรตีนและไขมันมาผสมกันจนได้โภชนาการที่สูงขึ้นระดับคูณสองเลยกว่าได้
เรื่องประโยชน์ก็เป็นดั่งที่กล่าวมา แต่ให้ลองนึกภาพถึงคนที่ต้องกินมันติดต่อกันเป็นเวลา 6 เดือน คงเป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย ทว่าสุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับผู้เข้าแข่งขันชาว Bodi ด้วย พวกเขาอาจจะชินกับการกินอะไรแบบนี้และคิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่จะจัดการดื่มรวดเดียวให้หมดชามก็เป็นได้
จะเห็นได้ว่าการแข่งขันครั้งนี้ทรหดมากทั้งในแง่ของกิจกรรมที่ต้องทำ (กินอาหารเดิมซ้ำๆ) รวมถึงเรื่องสภาพจิตใจที่ต้องอยู่คนเดียวเกือบครึ่งปี ออกไปไหนไม่ได้ จึงทำให้ผู้เข้าแข่งขันบางคนสติแตกก่อนที่การแข่งขันจะแข่งจบเสียอีก
ทนไปแล้วได้อะไร?
หลังจากครบหกเดือนแล้ว ผู้เข้าแข่งขันที่อยู่รอดจะปรากฎตัวต่อสาธารณะชนด้วยสภาพเปลือยเปล่า เพื่อให้เห็นถึงไขมันที่เพิ่มขึ้นมา 6 เดือนโดยที่ไม่มีใครเห็นก่อนหน้านี้ และออกมาแบบเซอร์ไพรส์ในคราวเดียว มันจึงเป็นเรื่องที่ชาวเผ่า สำนักข่าว หรือทีมสารคดีต่างๆ ให้ความสนใจอย่างปฎิเสธไม่ได้ บางคนออกมาปรากฎตัวด้วยน้ำหนักที่มากกว่าเดิมถึง 3 เท่าเลยก็มี (จาก 50 กิโลกรัมเป็น 150 กิโลกรัม)
Photo : answersafrica.com
หลังจากครบหกเดือนแล้ว ผู้เข้าแข่งขันที่อยู่รอดจะปรากฎตัวต่อสาธารณะชนด้วยสภาพเปลือยเปล่า เพื่อให้เห็นถึงไขมันที่เพิ่มขึ้นมา 6 เดือนโดยที่ไม่มีใครเห็นก่อนหน้านี้ และออกมาแบบเซอร์ไพรส์ในคราวเดียว มันจึงเป็นเรื่องที่ชาวเผ่า สำนักข่าว หรือทีมสารคดีต่างๆ ให้ความสนใจอย่างปฎิเสธไม่ได้ บางคนออกมาปรากฎตัวด้วยน้ำหนักที่มากกว่าเดิมถึง 3 เท่าเลยก็มี (จาก 50 กิโลกรัมเป็น 150 กิโลกรัม)
วิธีหาผู้ชนะคือ "พุง" ผู้เข้าแข่งขันจะถูกวัดพุงด้วยการใช้เชือกวัด (คล้ายๆ การวัดรอบเอว) ใครพุงใหญ่ที่สุดจะกลายเป็นผู้ชนะไปในท้ายที่สุด
ในการแข่งขันที่สุดจะโหดร้ายทรมานทั้งกายทั้งใจแบบนี้ ผู้ชนะจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นว่าที่ผู้นำของเผ่าในอนาคต ที่สำคัญคือพวกเขาจะได้สาวงามที่สุดในเผ่าไปเป็นคู่ชีวิต (ส่วนมากมีน้ำหนักน้อยและร่างกายผอมบาง) ส่วนผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ที่ไม่ชนะก็ไม่ต้องเสียใจไป พวกเขายังเป็นที่หมายปองของสาวๆ ในเผ่า ที่นิยมคนอ้วนเป็นสเป็คหลักอยู่ดี ... อย่างน้อยๆ การทนฝืน 6 เดือนก็ยังไม่สูญเปล่า
ความแปลกที่เสี่ยงตาย
ค่านิยมความอ้วนของเผ่า Bodi นั้นอาจจะดูแล้วไม่เดือดร้อนใคร แถมยังปฎิบัติกันมานานหลายชั่วอายุคน ทว่าเมื่อเรื่องราวถูกเผยแพร่ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการก็เตือนว่า มันเป็นความเสี่ยงที่จะทำลายสุขภาพอย่างรุนแรง
Photo : Lensculture
Fedric Ngugi นักเขียนจากเว็บไซต์ face2faceafrica.com ได้ค้นคว้าและขอความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญและพบว่า การกินแต่เลือดวัวผสมกับนม รวมถึงการทำให้ร่างกายอ้วนขึ้น 2-3 เท่าภายในเวลาแค่ 6 เดือนนั้นมีผลเสียหลายด้าน
อย่างแรกคือผู้เข้าแข่งขันจะประสบกับภาวะขาดสารอาหาร ถึงแม้ร่างกายจะอ้วนท้วนแต่ก็ไม่ได้กินแป้ง กินผัก ผลไม้เลย และการทำให้อ้วนภายในเวลาอันสั้นนั้น จะทำให้กลายเป็นโรคอ้วนที่นำมาสู่โรคหัวใจ, เบาหวาน, ความดัน และหากใครมีร่างกายไม่แข็งแรงพอที่จะรับการเปลี่ยนแปลง ก็อาจส่งผลเสียถึงชีวิตได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอีกด้วย
อย่างไรก็ตามความเชื่อนั้นยากจะเปลี่ยน ยิ่งบางความเชื่อที่สืบทอดกันมาเป็นร้อยปียิ่งยากเข้าไปใหญ่ สุดท้ายแล้วในเมื่อเผ่า Bodi ยังไม่พบว่ามีใครต้องตายเพราะการกินเลือดวัวผสมกับนม ไม่มีใครเสียสติทำร้ายคนอื่นจากการกักตัวและขุนตัวเองให้อ้วนเป็นเวลา 6 เดือน พวกเขาก็ยังมีสิทธิ์จะทำตามประเพณีของตนเองต่อไปได้
โลกใบนี้กว้างใหญ่และเต็มไปด้วยวัฒนธรรมต่างๆ มากมายแบบที่เราไม่เคยเจอ เผ่า Bodi คือหนึ่งในนั้น ... และในช่วงการกักตัวหนี โควิด-19 แบบนี้ ใครอยากจะลองสูตรเพิ่มน้ำหนักของชาว Bodi ก็ลองดูกันสักตั้ง! แล้วคุณจะได้รู้ว่ากว่าจะมีเมียสักคน กว่าจะได้เป็นผู้นำ ชาว Bodi เขามีความรู้สึกแบบไหนกันแน่?
บทความโดย ชยันธร ใจมูล
โฆษณา