11 เม.ย. 2020 เวลา 07:47
"สละชีพ เพื่อผืนป่า"
สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ภาคเหนือ ปี63
จากผลการติดตามข้อมูลดาวเทียมระบบ MODIS ของ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน):GISTDA ในวันที่ 10 เมษายน 2563 บริเวณภาคเหนือตอนบนพบตำแหน่งจุดความร้อนจำนวน 108 จุด เพิ่มขึ้นจากเดิม 62 จุด โดยจังหวัดเชียงใหม่เป็นพื้นที่ที่พบจุดความร้อนมากสุดจำนวน 43 จุด รองลงมาเป็นพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน 25 จุด จังหวัดตากจำนวน 17 จุด จังหวัดเชียงราย 10 จุด จังหวัดน่าน 9 จุด โดยจังหวัดพะยา, ลำปาง พบจำนวน 2 จุด และจังหวัดแพร่ , ลำพูน ไม่พบจุดความร้อน พื้นที่ส่วนใหญ่ที่พบจุดความร้อนเกิดขึ้นในเขตป่าสงวนแห่งชาติ สาเหตุสำคัญมาจากการเผาเพื่อกำจัดวัชพืช สำหรับเตรียมพื้นที่เพาะปลูก และการหาของป่า ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์.....เฮ้อ
ปฏิบัติการสู้กับไฟป่าเป็นงานที่สาหัสสากรรจ์มากเพราะเป็นงานที่ทั้ง ร้อน หนัก เหนื่อย อันตราย เสียสละ และสิ้นเปลืองงบประมาณอย่างมหาศาล ทุกๆปีก็มักจะเกิดไฟป่าในช่วงต้นปีทั้งที่เกิดจากธรรมชาติและฝีมือมนุษย์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันสถานกาณ์ไฟป่าก่อให้เกิดความเสียหายทั้งธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ทรัพย์สิน รวมไปถึงการเสียชีวิต ของเจ้าหน้าที่และจิตอาสาที่ร่วมไม้ร่วมมือกันเพื่อระงับไฟที่เกิดจากเห็นความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ในการเผาป่าเพื่อประโยชน์ของตัวเองแต่ไม่นึกถึงโทษหรือผลร้ายแรงที่จะตามมาอย่างใหญ่หลวง
สำหรับการปฏิบัติการสู้กับป่าในปีนี้ก็ทำให้มีวีรบุรุษและวีรสตรีเสียละชีพ เพื่อผืนป่าของไทยและเพื่อคุณภาพอากาศที่ดีของชาวเหนือที่ต้องทนอยู่ในเมืองสายหมอก(ควัน) ไปแล้วทั้งสิ้น 4 ราย
1. นายนิพนธ์ จาระธรรม (พ่อหลวงแดง) ผู้ใหญ่บ้านตำบลแม่แฝกใหม่
2. นายเงิน นาหยิ อายุ 64 ปี ประชาชนจิตอาสา
3. นางต๊ะนี กิจเจริญพัฒน์ ประชาชน
4. พลทหาร ปิยพันธ์ แสนสุข ทหารสังกัดกองร้อยเครื่องยิงหนัก กรมทหารราบที่ 17 ค่ายขุนเจืองธรรมิกราช
ขอร่วมสดุดีวีรบุรุษและวีรสตรีต่อความเสียสละเพื่อส่วนรวมทั้ง 4 ราย และขอร่วมแสดงความไว้อาลัยกับการสูญเสียเจ้าหน้าที่และจิตอาสาในครั้งนี้ด้วย
ได้มีประโยคหนึ่งจากผู้เสียชีวิตที่อาสาออกไปทำแนวกันไฟเพื่อไม่ให้ลุกลามเข้าหมู่บ้าน และเป็นคำที่ทิ้งไว้ให้ผู้คนที่ยังอยู่ได้คบคิด คือ "ผืนป่านี้คือบ้าน ถ้าไม่มีป่าก็ไม่มีบ้าน เราต้องช่วยกันรักษาด้วยชีวิต" และเขาผู้นี้ก็ใช้ชีวิตของเขารักษาป่าผืนนี้จริงๆ “อาโละ”เป็นหนึ่งในผู้กล้าที่ขันอาสามาสร้างแนวกั้นไฟ
ความคิดเห็นส่วนตัวรัฐบาลควรที่จะออกมาช่วยเหลือพี่น้องชาวบ้านเกษตรกรอย่างจริงจังถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาและให้ความรู้ ถ้าไม่ให้เขาเผาแล้วจะให้เขาทำอย่างไร และต้องเป็นวิธีที่ Effective จริงๆ ไม่ใช่มีเพียงแต่ทฤษฏี มันทำให้เขาสู่วงจร คนคิดไม่ได้ทำคนที่ทำไม่ได้มีส่วนร่วมในการคิด(หาแนวทางและทางออก) การที่จะทำอะไรให้หยั่งยืนได้มันต้องเป็นการะดมความรู้ ความคิด และและปัญหาที่ตรงจุดกับปัญหา การจะเปลี่ยนวิธีชีวิตของชาวบ้านถ้ารัฐไม่ทำตัวเป็นชาวบ้านก็ไม่มีทางแก้ไขปัญหานี้ได้และจะเกิดวิกฤตการณ์ผ่าไ
โฆษณา