11 เม.ย. 2020 เวลา 11:07 • สุขภาพ
กรณีศึกษาเวียดนามไม่มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสcovid-19
แม้แต่คนเดียว
ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายงานเมื่อวันที่10มีนาคม
ผู้ติดเชื้อในเวียดนาม257คน รักษาหายแล้ว144คน ไม่มีผู้เสียชีวิต
โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อในเวียดนามอยู่อันดับที่5ในอาเซียน
ไม่มีตัวเลขผู้เสียชีวิตเหมือนประเทศลาวแต่ลาวติดเชื้อแค่16คนไม่มีรายงานผู้เสียชวิตจากไวรัส เหลือแค่2ชาติ
ในอาเซียนที่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
เวียดนามมีผู้ป่วยรายแรกเมื่อ 23มกราคม63
เป็นผู้ป่วยชาวจีน2พ่อลูก โดยพ่อเดินทางมาจากอูฮั่นมายังเวียดนาม ทันใดนั้นเวียดนามประการยกเลิกเที่ยวบินพลเรือนจากเวียดนามไปยังอูฮั่นพร้อมส่งคนจีนกลับไปยังอูฮั่น
และห้ามไม่ให้ผู้โดยสารกลับยังเวียดนาม
พอมาลองมองย้อนที่ไทย ที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อมาจากอูฮั่นแต่ก็ไม่มีการงดเที่ยวบินจากสุวรรณภูมิไปอูฮั่นแต่มีการลดเที่ยวบิน
ควบคุมสถานการณ์ไว้ไม่ได้จึงจำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดในภายหลังแทน
รัฐบาลสั่งห้ามพลเมืองไปเที่ยวในที่ระบาดของคนจีน
พร้อมมีมาตราการกักตัวคนที่ไปทำงานที่จีนอย่างเคร่งครัด
ก่อนจะสั่งห้ามเที่ยวบินและรถไฟที่กลับจากจีนระงับออกวีซ่าให้ชาวจีนและชาวต่างชาติที่เคยไปประเทศจีน
ให้มีการปิดสถานศึกษาปิดการเรียนทุกชั้นเรียน
และมีการกักตัวผู้ต้องสงสัยกลับจากจีน950คน ทั้งที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในตอนนั้นยังไม่ถึง20คน แต่มีอาการตื่นตัวและพร้อมรับมือเสมอ
9กุมภาพันธ์2563
รัฐมนตรีการคลังของเวียดนาม ลงนามยกเว้นภาษีการนำเข้าหน้ากากอนามัย สบู่เหลวล้างมือ
และวัสดุผลิตอุปกรณ์ป้องกันไวรัส
หลังเริ่มเจอปัญหาหน้ากากอนามัยแพงและหาซื้อไม่ได้
และได้สูญเสียรายได้
จากการยกเลิกวีซ่าจีนกว่า2,000ล้านดอลลาร์
ประมาณ65,000ล้านบาท สูญเสียรายได้จากส่วนนี้เยอะมาก
12 ก.พ.สั่งกักพื้นที่ในเมืองเซินโลยนับหมื่นรายเป็นเวลา20วัน
หลังพบผู้ติดเชื้อจากเมืองเซินโลย 6คน เป็น16คนจากยอดทั้งหมด
ปฏิเสธให้เรือสำราญ2ลำ เทียบท่าในประเทศ ซึ่งในเรื่อมีผู้ติดเชื้อ จอดที่อ่าวฉาลอง จ.กว่างนึง
13 ก.พ. เวียดนามไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มและยังรักษาหายทั้งหมด
จนสามารถเปิดพรมแดนระหว่างเวียดนามกับจีนได้
เพื่อนำเข้าและส่งออกสินค้า เพื่อบรรเทาเศรษฐกิจซบเซา
แต่รัฐบาลก็ไม่ได้ละเลยยังคงเข้มงวดอย่างมาก
ตั้งคณะทำงานเพื่อป้องกันโรคโดยเฉพาะในการประกาศแจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับไวรัส
ต่อมาสั่งระงับวีซ่าจากประเทศสุ่มเสี่ยง3ประเทศ
ได้แก่ เกาหลีใต้ อิหร่าน อิตาลี
3 มี.ค. นายกรัฐมนตรีของเวียดนาม เหงียน ซวย ฟุก
ได้ให้กระทรวงแรงงานงดให้ใบอนุญาตทำงานจากประเทศที่สุ่มเสี่ยง
พร้อมวางแผนใช้งบประมาณราว27ล้านล้านด่ง
ช่วยธุรกิจต่างๆทั้งลดหย่อนภาษีและชะลอการจ่ายภาษี
ลดค่าทำเนียมเช่าที่ดิน
เวียดนามไร้ผู้ป่วยเป็นเวลา22วัน
จนกระทั่ง7มี.ค. พบผู้ป่วย2รายเป็นชาวต่างประเทศทั้งคู่
และประชาชนได้แห่ไปกักตุนซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค
15มี.ค. เวียดนามสั่งให้ทุกคนที่เดินทางออกจากบ้านไปที่สาธารณะต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกคน
สถานบริการต่างๆถูกปิดตัวลง โรงแรม สถานบันเทิง
กระทรวงสาธาสุขของเวียดนามได้ออกมาเรียกร้องให้ทุกคน
เห็นความสำคัญ และขอให้ความร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์ ร่วมต่อสู้กับโรคระบาด
22มี.ค. รัฐบาลสั่งlockdowns ประเทศระงับชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ
พร้อมขอความร่วมมือประชาชนอยู่ห่างกัน2เมตรและงดจัดพิธีกรรมทางศาสนา ลดเที่ยวบินภายในประเทศ
และการขนส่งสาธารณะ
โดยรัฐบาลตั้งเป้าไว้ไม่ให้ผู้ติดเชื้อเกิน1,000คน
มีการนำงบมาช่วยเหลือธุรกิจอุตสาหกรรมมากวว่า
80ล้านล้านด่ง เพื่อบรรเทาเศรษฐกิจหยุดชะงัก
ทั้งด้านเกษตร อุตสาหกรรมขนส่ง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
มีการสั่งเร่งให้ผลิตหน้ากากอนามัยเพิ่ม5ล้านชิ้นต่อวัน
31มี.ค. ได้มีการให้ทุกคนเว้นระยะห่างทางสังคม
ระงับการบริการขนส่งสาธารณะ ให้ข้าราชการทุกคนอยู่บ้าน
และให้ประชาชนทุกคนอยู่ภายในบ้าน
มีมาตราการช่วยเหลือคนตกงานและคนจน
นอกจากนี้เวียดนามยังมีการแจกหน้ากากให้หลายประเทศอย่าง ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมันนี สเปน อังกฤษ รวมๆ500,000แสนชิ้น ประเทศตัวเองมีเพียงพอและสามารถนำไปแจกยังหลายประเทศได้ แสดงให้เห็นว่าเวียดนามแก้ปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัยได้เป็นอย่างดี
และยังส่งชุดป้องกันโควิด-19แจกไปยังอเมริกาถึง4.5แสนชุด
กลยุทธ์ที่ทำให้เวียดนามสามารถควบคุมไวรัสได้ก็คือ
กากกักตัวผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย
การติดตามผู้ที่มีอาการใกล้ชิดกับผู้ป่วย
ถอดบทเรียนเวียดนาม
1.มีความพร้อมรับมือและป้องกัน
เห็นได้จากความตื่นตัวในการป้องกันผู้คนที่มาจากประเทศจีนเป็นอย่างมากและมีการปิดพรมแดน
2.มองการ์ณไกล
ตั้งแต่มีผู้ติดเชื้อ2ราย สามารถที่จะกล้าตัดสินใจ
งดเที่ยวบินจากอูฮั่นกับเวียดนามทันที เพื่อลดปัญหาผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และหน้ากากอนามัยว่าจะมีแนวโน้มขาดตลาดจริงๆ
จนสามารถผลิตใช้ในประเทศและแจกจ่ายไปยังประเทศอื่นๆ
3.นายกรัฐมนตรีกล้าตัดสินใจในหลายๆเรื่อง
4.มีมาตราการที่รัดกุม
5.มีการจัดตั้งหน่วยงานป้องกันโรคระบาด
6.ประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
7.มีมาตราการเยียวยาและรองรับผู้ที่ได้รับผลกระทบ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา