11 เม.ย. 2020 เวลา 15:15 • ข่าว
Oil update : สถานการณ์น้ำมันล่าสุดส่อแววตึงเครียด ทำน้ำมันดิ่งอีกครั้ง หลังยังหาข้อสรุปไม่ได้
Bloomberg รายงานว่าทรัมป์กำลังผลักดันข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์นี้อย่างต่อเนื่อง โดยขณะที่มีการเจรจาต่อรองกันระหว่างซาอุฯ และเม็กซิโก โดยมีสหรัฐฯ หนุนหลังอยู่
ซาอุฯ ยืนยันว่าเม็กซิโกต้องลดกำลังการผลิตเท่ากับประเทศอื่น ๆ ส่วนเม็กซิโกยืนยันว่าจะลดแค่ 100,000 บาร์เรล/วัน เท่านั้น !!
ส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัสเซียดูเหมือนจะมีจุดยืนอย่างชัดเจนแล้วว่าจะลดกำลังการผลิตให้เหลือประมาณ 8.5 ล้านบาร์เรล/วัน โดยล่าสุดปูตินกล่าวว่าจะโทรสายตรงหาทรัมป์และ MBS เพื่อถกกันในประเด็นนี้
ในขณะนี้จะเป็นการประชุมกันเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันสำหรับกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันทั่วโลก โดยในการประชุมของกลุ่ม G20 เมื่อวานนี้ สหรัฐฯ ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมด้วย แต่ทรัมป์ได้ออกมากล่าวว่าสหรัฐฯ มีมาตรการที่จะช่วยลดกำลังการผลิตในนามของเม็กซิโกอีก 250,000 บาร์เรล/วัน
รวมกันแล้วทำให้ในนามของเม็กซิโกลดการผลิตได้ 350,000 บาร์เรล/วัน
ส่วนรายละเอียดในความร่วมมืออื่น ๆ เท่าที่ทราบมีดังนี้
1. สหรัฐฯ จะช่วยลดกำลังการผลิตลงตลาดกลไกของตลาด แต่จะไม่กำหนดโควต้าอย่างชัดเจน ตามคำเรียกร้องของรัสเซียและ OPEC+
2. สหรัฐฯ อาจช่วยเหลือโดยการเก็บน้ำมันเข้าคลังสำรอง แทนที่จะนำออกมาขาย ซึ่งจะส่งผลคล้าย ๆ กับการลดกำลังการผลิตลง
ดังนั้นแล้วตอนนี้จุด Focus จึงเบนเข็มกลับมาอยู่ที่การประชุมในวันนี้ของกลุ่ม OPEC+ และรัสเซีย ว่าจะมีผลการประชุมออกมาอย่างไร
ความเคลื่อนไหวล่าสุดที่ Bloomberg รายงานค่อนข้างเป็นในเชิงลบคือ ยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะบรรลุข้อตกลงนี้ได้ ขณะที่เม็กซิโกพยายามที่จะยื่นข้อเสนอเพื่อที่จะลดกำลังการผลิตลงน้อยกว่า 100,000 บาร์เรล/วัน
ขณะที่ความกังวลของนักลงทุนเริ่มจะเลยเถิดไปกว่าผลการประชุมในครั้งนี้ เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มเห็นแล้วว่า ต่อให้ OPEC+ รัสเซีย รวมถึงประเทศอื่น ๆ บรรลุกข้อตกลงที่จะลดกำลังการผลิตลง 10-15 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งคิดเป็น 10-15% ของ Supply น้ำมันทั่วโลก แต่ก็ไม่อาจเพียงพอที่จะชดเชยกับ Demand ที่คาดว่าจะลดลงกว่า 30% เมื่อเทียบกับ Supply
ภาพด้านล่างแสดงให้เห็นถึงราคาของน้ำมันดิบ Brent ที่ลดลงกว่า 50% ซึ่งมันสอดคล้องโดยตรงกับ Demand ที่ลดลงครับ
ถ้าไม่บรรลุข้อตกลงจะเป็นอย่างไร ?
แน่นอนครับว่าสิ่งแรกเลยคือราคาน้ำมันร่วงหนักอีกรอบ ! และจริง ๆ แล้วคงต้องบอกว่าได้รับผลกระทบกันทุกฝ่ายครับ แต่ที่เห็นเด่นชัดที่แล้วก็คือกลุ่มอุตสาหกรรม Shale Oil ของสหรัฐฯ
ซึ่งปัจจุบันนี้กำลังการผลิตของสหรัฐฯ ลดลงแล้วกว่า 600,000 บาร์เรล/วัน เนื่องจากการปิดใช้งานแท่นขุดเจาะบางส่วนใน Texas เนื่องจากอุตสาหกรรม shale Oil ยังเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างถือว่าใหม่ และยังใช้ต้นทุนในการผลิตสูงที่ประมาณ 40 ดอลลาร์/บาร์เรล
และราคาในปัจจุบันของน้ำมันดิบ WTI ที่ระดับใกล้ 20 ดอลลาร์/บาร์เรล เช่นนี้ แน่นอนว่าสหรัฐฯ กำลังขาดทุนอย่างมหาศาลครับ
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทรัมป์ขู่ซาอุฯ ก่อนหน้านี้ว่าหากไม่บรรลุข้อตกลงน้ำมัน จะขึ้นภาษีน้ำมันนำเข้าจากซาอุฯ อย่างมหาศาล
และไม่ใช่เพียงแค่น้ำมันดิบ WTI นะครับ เพราะน้ำมันดิบ Brent เองก็ราคาตกลงอย่างมากในปัจจุบัน โดยล่วงลงไปถึงระดับต่ำสุดในรอบ 18 ปี
นี่คือคำตอบว่าทำไมผู้ผลิตในประเทศอื่น ๆ นอกจากสหรัฐฯ ก็จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบได้ในระยะยาว
ดังนั้นแน่นอนว่าหากสงครามน้ำมันยังยืดเยื้อละก็ หลาย ๆ ประเทศคงต้องควักเงินทุนสำรองมาใช้กันแทบไม่ทันเลยล่ะครับ
การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และการติชมในเชิงสร้างสรรค์ของคุณ เป็นกำลังใจให้เราและเหล่าอาชีพนักเขียนทุกคนในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างสังคมการเรียนรู้ที่ดีด้วยกันกับเรา
World Maker
สามารถติดตาม World Maker ผ่านทาง Facebook ได้แล้ววันนี้ที่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา