13 เม.ย. 2020 เวลา 03:36 • ไลฟ์สไตล์
13 เมษายน "วันสังขานต์ล่อง" (สังขารล่อง)
มีตำนานเล่าว่าคนโบราณได้สมมุติตัวสังขานต์เป็นคนแก่สองคน คือปู่สังขานต์และย่าสังขานต์ถ่อแพไหลมาตามแม่น้ำ บ้างก็ว่าปู่สังขานต์และย่าสังขานต์หาบกระบุงตะกร้า เดินมาตามถนน เพื่อมารอรับเอาเสนียดจัญไรทั้งหลาย ไปขว้างทิ้ง บ้างก็ว่าปู่สังขานต์ย่าสังขานต์ ห่มผ่าสีแดงล่องแพมาตามแม่น้ำ นำพาสิ่งไม่ดีเป็นอัปมงคลมาด้วย จึงต้องขับไล่ด้วยเสียงดังของสะโป๊ก ประทัด ปืน
เชื่อว่าเป็นการยิงไล่ตัวสังขานต์ให้นำสิ่งชั่วร้ายผ่านไปโดยเร็ว แต่ผู้ใหญ่บางท่านที่ผมเคารพนับถือก็จะบอกว่าต้องใช้คำว่า "สังขาร" ถูกต้องแล้วเพราะไม่ต้องแปล ก็คืออายุแก่ไปอีกปี ที่จริงแล้วตั้งแต่ผมเป็นเด็กนักเรียน พวกเราถือว่าวันที่ 13 เมษายน เป็นวันปี๋ใหม่ เพิ่งมาได้รับรู้ว่าวันที่ 1 มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่สากลทีหลังนะครับ ยังพูดกันเลยว่ามีวันปีใหม่มีสองครั้ง โรงเรียนปิดสองครั้ง
และวันนี้ 13 เมษายน ผู้ใหญ่จะบอกเด็กๆ ลูกหลาน ว่าถ้าอยากเห็นปู่และย่าสังขานต์ ให้ตื่นแต่เช้า และช่วยกันเก็บกวาด ทำความสะอาดบ้านเรือน ซักผ้า เผาเศษขยะใบไม้สิ่งหมักหมมทั้งหลายส่งไปพร้อมๆกับปู่และย่าสังขานต์ ที่ล่องไปวันนี้ และหลังจากปฏิบัติงานเสร็จให้ทุกคนอาบน้ำ สระผม หลังจากชำระร่างกายเรียบร้อยแล้วให้สวมเสื้อผ้าใหม่เป็นการต้อนรับวันปี๋ใหม่ หรือเริ่มต้อนรับสังขานต์(สังขาร)ใหม่
เมื่อเสร็จกิจกรรมช่วงเช้าแล้ว แต่ละครอบครัวก็จะไปซื้อของตลาดสดหรือถ้าใครมีแล้วก็เริ่มทำอาหารและขนม เพื่อนำไปทำบุญถวายทาน อุทิศบุญกุศลให้พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย และบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วในวันที่ 15 เมษายน ซึ่ง
เป็นวัน "พญาวัน"
ในช่วงวันที่ 13 เมษายนนี้ ครอบครัวที่มีลูกหลานอยู่ต่างจังหวัดก็จะกลับบ้านมาเยี่ยมครอบครัว ประกอบกับหลายปีต่อมา รัฐบาลประกาศให้เป็นวันครอบครัว สงกรานต์เริ่มมีความหมายมากขึ้น สมาชิกในครอบครัวมีโอกาสที่จะได้พบปะเพื่อนฝูงที่เรียนด้วยกันมา มีจัดงานเลี้ยง งานคืนสู่เหย้าในสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ทำให้หนุ่มสาวก็มีโอกาสได้รู้จักกัน คบกัน
และสนิทสนมกัน บางทีก็ไปเรียนหรืออยู่ต่างจังหวัดพอกลับบ้านมาเจอกัน คุยกัน เล่นสาดน้ำกัน เกิดปิ๊งกันเกิดเป็นความรักขึ้นมาก็หลายคู่ ในประเพณีนี้ถือว่ามีกิจกรรมให้ผู้คนได้พบปะกันแทบจะทุกวัน หนุ่มๆจะถือโอกาสไปรู้จักบ้านสาวๆ ไปดำหัว พ่อแม่ ไปทานข้าวที่บ้าน บางคนก็ร่ำสุรา ถือโอกาสเมาหรือแกล้งเมานอนบ้านสาวก็มี
ที่จริงแล้วผมเคยเทียบกับประเพณีของจีน ก็มีส่วนคล้ายๆกันหลายๆอย่างเป็นไปได้ที่อาจจะมีต้นแบบของประเพณีอยู่ที่ทั้งสองประเทศ เดี๋ยวว่างๆจากงานนี้ผมจะเอารูปและเรื่องราวที่ไปร่วมงานประเพณีสงกรานต์ที่ มหาวิทยาลัย YUXI NORMAL UNIVERSITY เมืองนี้อยู่ในมณฑล YUNNAN ห่างจาก KUNMING ประมาณ 1.30 ชม. ผมเคยร่วมเป็น Staff นำนักเรียน รร.นารีรัตน์ จังหวัดแพร่ไปเรียนภาษาจีนภาคฤดูร้อนที่โน่นประมาณ 15 วัน หลายปีติดต่อกัน
ขอบคุณในกำลังใจจากทุกท่านครับ ผมมือใหม่ซิงๆๆครับ จะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ เราจะพบกันทุกวันในเรื่องราวประเพณีปี๋ใหม่เมืองที่ท่านอาจจะไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน จนสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์ของประเทศไทย หลังจากนั้นคงจะมีเรื่องราวของเมืองแพร่ เกร็ดเล็กน้อยอีกหลายเรื่องครับ เมืองแพร่เป็นเมืองเล็กๆมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชาติพันธุ์ มีเสน่ห์น่าอยู่อาศัย
โดยมี Infrastructure อำนวยความสะดวกครบถ้วน ยกเว้นการคมนาคมทางน้ำครับ
เจอกันกับเรื่องราว วันที่ 14 เมษายน "วันเนา" "วันเนาว์""วันเน่า" ครับ
(บัวผัน แสงงาม. ชาวบ้านหมู่ 6 ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่, สัมภาษณ์, ๑๘ มกราคม ๒๕๕๒)
(น้อย ปราใจประเสริฐ. ชาวบ้านแม่อีด ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่, สัมภาษณ์, ๑๘ มกราคม ๒๕๕๒)
สงกรานต์ป๊๋ใหม่เมืองแพร่:สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแพร่:ISBN 974-9681-49-5
โฆษณา