แต่ทว่าตั้งแต่ช่วงประมาณวันที่ 11 เมษายน ก็เริ่มมีปัญหาเกิดขึ้นโดยผู้ลงทะเบียนหลายคนร้องเรียนว่าได้รับผลการตรวจไม่มีสิทธิเนื่องจากคุณสมบัติไม่ครบถ้วน โดยจุดที่เป็นปัญหาส่วนใหญ่มาจากการที่ระบบ AI มองว่าผู้ลงทะเบียนมีอาชีพที่ไม่อยู่ในเกณฑ์การได้รับเงินช่วยเหลือซึ่งผู้ร้องเรียนไม่ตรงกับความจริง บ้างก็ถูกมองว่าเป็นนักเรียนนักศึกษาซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาด บ้างก็ถูกมองเป็นเกษตรกรซึ่งไม่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือดังกล่าว
ประเด็นนี้ทำให้เกิดกระแสพูดคุยกันมากมายถึงระบบ AI ที่ใช้ในการตรวจสอบคุณสมบัติว่ามีประสิทธิภาพแค่ไหน ใช้ AI จริงหรือ
บทความตามใจฉันในคราวนี้จะยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยกันว่ามันเป็นอย่างไร ใช้ AI จริงรึ
มากันที่คำถามแรกซึ่งทุกคนคงข้องใจกันมากว่า “มีการใช้ AI ตรวจสอบคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนจริงรึ ?”
ผู้เขียนเชื่อว่า “จริง”
จริง ๆ แล้ว AI ถูกแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ
1. Machine Learning based ซึ่งก็คือ AI ที่เรียนรู้ได้ พัฒนาตัวเองได้ ทำงานและตัดสินใจด้วยตนเองได้ เป็น AI ที่เมื่อพูดคำว่า AI ออกมาทุกคนจะคิดไปในทางนี้
2. Rules-based หรือก็คือ AI แบบที่เรียนรู้ไม่ได้ ถูกสอนถูกโปรแกรมมาแค่ไหนก็ทำได้แค่นั้น เหมือนเป็นแค่ระบบอัตโนมัติที่ทำงานตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ล่วงหน้าเพียงเท่านั้น
ซึ่ง AI แบบแรกนั้นนอกจากจะสร้างยากกว่าแบบที่ 2 แล้วยังจำเป็นต้องมีข้อมูลเพื่อให้ระบบฝึกฝนและเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการทำงานโดยยังไม่รวมถึงเวลาที่ใช้ฝึกรวมถึงผู้ที่จะมาตรวจคำตอบจากระบบว่าข้อไหนถูกข้อไหนผิดซึ่งสำคัญมากเพราะไม่เช่นนั้นระบบจะสร้างผลลัพธ์ที่ไม่ตรงตามความต้องการออกมา
ดังนั้นจึงคาดว่าทีมงานหลังบ้านของระบบน่าจะใช้ AI แบบที่ 2 ที่สร้างได้ง่ายกว่า, ควบคุมเงื่อนไขง่ายกว่า, ให้คำตอบตรงตามความต้องการมากกว่าและที่สำคัญคืออธิบายกับผู้ใหญ่ในหน่วยงานให้เข้าใจได้ง่ายกว่าในการตรวจสอบคุณสมบัติ
ซึ่ง AI ประเภทที่ 2 นี้นั้นในพื้นฐานแล้วแทบไม่ต่างอะไรจากระบบคอมพิวเตอร์ที่ตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้โดยอัตโนมัติเลย