14 เม.ย. 2020 เวลา 03:35 • ประวัติศาสตร์
สงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงได้อย่างไร? (ตอนที่2)
สิ่งหนึ่งที่เป็นที่รับรู้กันดี ก็คือระบบเศรษฐกิจของแต่ละประเทศที่กล่าวได้ว่ายิ่งอยู่ในสภาวะสงครามนานเท่าไร ก็ยิ่งเสียหายยับเยินเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม ซึ่งบทเรียนดังกล่าวก็ได้เห็นกันมาแล้วในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ทำให้จักรวรรดิรัสเซีย ออสเตรียฮังการี และจักรวรรดิออตโตมันต้องล่มสลายกันเลยทีเดียว เยอรมันต้องพบกับปัญหาด้านทรัพยากรในแนวรบด้านตะวันตก เมื่อพวกเขาไม่สามารถข้ามช่องแคบอังกฤษได้ ฮิตเลอร์จึงตัดสินเปลี่ยนแนวรบไปทางทิศตะวันออกแทน โดยการฉีกสัญญาสันติภาพและรุกรานสหภาพโซเวียตแบบสายฟ้าแลบ ที่ภายหลังถูกเรียกว่าปฏิบัติการบาบารอสซ่า โดยนาซีเยอรมันตั้งใจว่าจะทำสงครามแบบรวดเดียวจบแบบที่เคยทำกับฝรั่งเศส โดยมีรางวัลสูงสุดก็คือทรัพยากรน้ำมันอันมหาศาลของสหภาพโซเวียตนั่นเอง
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
นาซีเยอรมันสามารถบุกลึกเข้าไปในแผ่นดินของรัสเซียจนเข้าไปใกล้กรุงมอสโคว ทว่าพวกเขาต้องมาสะดุดกับฤดูหนาวที่แสนหฤโหด จนต้องถอนกำลังออกมา แน่นอนว่าฤดูหนาวของรัสเซียคือปราการธรรมชาติที่เคยเอาชนะกองทัพฝรั่งเศสของนโปเลียนมาแล้ว ในตอนนั้น นโปเลียนต้องสูญเสียกำลังทหารไปถึง 5 แสนคนจากทั้งหมด 6 แสนคน จากการกระทำเช่นนี้ ก็เหมือนทำให้นาซีเยอรมันเปิดศึกสองด้าน โดยนาซีเยอรมันสูญเสียทหารไปถึง 3 ล้านคน ส่วนสหภาพโซเวียตสูญเสียทหารไปถึง 8 ล้านคน และถ้าหากรวมพลเรือนเข้าไป จำนวนผู้เสียชีวิตอาจสูงถึง 27 ล้านคนเลยทีเดียว
ขณะเดียวกัน สหรัฐอเมริกาได้ประกาศเข้าร่วมสงครามในเดือนธันวาคม 1941 หลังจากกองทัพญี่ปุ่นโจมตีฐานทัพเรือที่เพิร์ลฮาเบอร์ เนื่องจากญี่ปุ่นมองว่ายังไงก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงสงครามกับอเมริกาในฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกได้ จึงตัดสินใจโจมตีแบบสายฟ้าแลบชนิดที่อเมริกายังไม่ทันได้ตั้งตัว พออเมริกาประกาศสงครามกับญี่ปุ่น นาซีเยอรมันก็เลยประกาศสงครามกับอเมริกาด้วย เพราะก่อนหน้านั้น อเมริกาเองก็ช่วยเหลืออังกฤษด้วยการส่งเสบียงไปให้ จนเยอรมันต้องส่งเรือดำน้ำไปสกัดกั้น ก่อนถูกฝ่ายสัมพันธมิตรถอดรหัสและโต้กลับมาได้ในที่สุด
ทีนี้เราจะมาพูดถึงอิตาลีที่เป็นหนึ่งในฝ่ายอักษะกันบ้าง หลังจากอิตาลีเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 ประชาชนก็เริ่มเบื่อหน่ายท่านผู้นำมุสโซลินีของตัวเอง นอกจากนี้ฝ่ายที่เคยสนับสนุนท่านผู้นำก็เริ่มตีตัวออกห่าง เนื่องจากเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ และความเบื่อหน่ายสงคราม อิตาลีพ่ายแพ้สงครามอย่างรวดเร็วจนต้องถอนกำลังออกมาจากแอฟริกาเหนือ ก่อนที่มุสโซลินีจะถูกทำรัฐประหารโดยลูกน้องของตัวเอง และโดนจับกุมตัวประหารชีวิต
ในขณะที่ญี่ปุ่นเองก็ไม่ได้มีทรัพยากรมากมายอะไร กับการที่ประกาศสงครามกับอเมริกา ก็ยิ่งทำให้ญี่ปุ่นสูญเสียกำลังพลและทรัพยากรไปมาก เพราะก่อนหน้านั้นญี่ปุ่นได้ทำการรุกรานจีนแผ่นดินใหญ่ของนายพลเจียงไคเชค พอเจอกับสงครามยืดเยื้อของฝ่ายจีนเข้าไป บวกกับการไปเปิดศึกกับอเมริกา ก็เลยทำให้ญี่ปุ่นต้องรับศึกหนักหลายด้าน
ตัดมาที่สหรัฐอเมริกา หลังจากเข้าร่วมสงครามเต็มตัว ก็ได้ยกพลขึ้นบกที่ยุโรปเพื่อปลดปล่อยฝรั่งเศสในวันที่ 6 มิถุนายน 1944 ในรหัสที่ถูกเรียกว่า ‘ดีเดย์’ กองทัพสหรัฐอเมริกาใช้เวลาเพียง 2เดือนในการปลดปล่อยฝรั่งเศสในขณะที่นาซีเยอรมันกำลังรบกับสหภาพโซเวียตอยู่ ก่อนที่นาซีเยอรมันจะถอนกำลังออกมาและถูกตีขนาบจากทั้งสองด้านจนในที่สุดกรุงเบอร์ลินของเยอรมันก็โดนกองทัพโซเวียตตีแตกในเดือนพฤษภาคม 1945
เหลือเพียงแค่ญี่ปุ่น ที่ยังคงสู้รบอยู่ อเมริกาได้ตัดสินใจใช้ระเบิดปรมาณูที่เมืองฮิโรชิม่าและนางาซากิ เพื่อบีบให้ญี่ปุ่นยอมจำนน ซึ่งกล่าวได้ว่านี่เป็นเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ที่มีการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ในสงครามจนทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตถึงสองแสนคน ยังไม่รวมถึงเหยื่อที่ได้รับผลกระทบจากกัมมันตภาพรังสีอีกนับไม่ถ้วน ก่อนที่ญี่ปุ่นจะยอมแพ้ในวันที่ 2 กันยายน 1945 เป็นอันยุติสงครามโลกครั้งที่ 2
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
สงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงได้อย่างไร? (ตอนที่2)
โฆษณา