14 เม.ย. 2020 เวลา 17:48 • ธุรกิจ
ด่วน🔥!! ราคาน้ำมันดิ่งอย่างรุนแรงอีกครั้ง (-9.42%) ลงแตะจุดต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี อีกครั้ง โดยมีหลายประเด็นที่กดดันราคาน้ำมันยังคงดิ่งอยู่ (ช่วงท้ายพีค)
จากผลสรุปการประชุมด่วนล่าสุดในคืนวันอาทิตย์ ของกลุ่ม OPEC+ โดยช่วยกันลดการผลิตมากถึง 23.5% กัน โดยรวมกันแล้วจะได้ 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน โดยจะเริ่มลดตั้งแต่ เดือนหน้า คือ เดือนพฤษภาคม เป็นต้นไป
โดยการลดการผลิตครั้งนี้ ได้แบ่งเป็น 3 ช่วงคือ
- ลดการผลิตลง 10 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน พ.ค. 2563 - มิ.ย. 2563
- ลดการผลิตลง 8 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน ก.ค. 2563 - ธ.ค. 2563
- ลดการผลิตลง 6 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน ม.ค. 2564 - เม.ย. 2565
ซึ่งการลดการผลิตครั้งนี้มีประเทศเดียวที่มีข้อขัดแย้งนั้นคือ เม็กซิโก ที่ไม่ทำข้อระเบียบบังคับในกลุ่ม OPEC ที่ลดการผลิตน้อยกว่าประเทศอื่นอยู่เพียงแค่ 100,000 บาร์เรล/วัน ทั้งๆควรจะเป็น 400,000 บาร์เรล/วัน
โดยผลสรุปการลดน้ำมันครั้งนี้ ทางนักลงทุนน้ำมันไม่ประทับใจตัวเลขนี้เลย เนื่องจาก Demand ใน ณ ตอนนี้ของทั่วโลกไปหายไปเป็นจำนวนมาก ทั้งการบิน รถยนต์ เรือ โดยได้มีการคำนวณออกมา ที่ควรจะลดคือ 25-30 ล้านบาร์เรล/วัน
และหลังจากประกาศตัวเลข 9.7 ล้านบาร์เรลจึงส่งผลให้ราคาน้ำมันตกลงหลังจากวันประกาศ
ล่าสุดจากรายงานประชุม ของคณะกรรมาธิการ ของรัฐ Texas ที่เป็นรัฐที่มีกำลังผลิตน้ำมันที่สูงที่สุดในสหรัฐอยู่ที่ 5.39 ล้านบาร์เรล/วัน กำลังเจอวิกฤตที่พื้นที่กักเก็บน้ำมันกำลังเข้าใกล้ถึงขีดจำกัด !! อาจจะส่งผลให้มีการสั่งปิดการผลิตน้ำมันของรัฐ Texas ในสหรัฐ
เนื่องจากที่ผ่านมา 1 เดือนกว่า โควิด-19 ทำให้ทุกอุตสาหกรรมในสหรัฐ ต้องหยุดชะงักลง จึงทำให้น้ำมันเริ่มล้นตลาดสหรัฐ มากขึ้น
โดยคณะกรรมธิการของรัฐ Texas ได้กล่าวลงท้ายด้วยว่า “stave off a total oil industry meltdown.” แปลได้ว่า "ป้องกันการล่มสลายของอุตสาหกรรมน้ำมันโดยรวม" นั้นเป็นที่มาว่า ทำไมวันนี้ ทรัมป์ ได้ออกว่าทวิตว่า "จะมีการลดกำลังผลิตน้ำมัน มากถึง 20 ล้านบาร์เรล/วัน ไม่ใช่แค่ 10 ล้านบาร์เรล/วัน อย่างที่เราได้เห็น"
ทรัมป์โดยได้ทวิตว่า "Having been involved in the negotiations, to put it mildly, the number that OPEC+ is looking to cut is 20 Million Barrels a day, not the 10 Million that is generally being reported. If anything near this happens, and the World gets back to business from the Covid 19 disaster, the Energy Industry will be strong again, far faster than currently anticipated. Thank you to all of those who worked with me on getting this very big business back on track, in particular Russia and Saudi Arabia." เพื่ออยากที่จะดันราคาขึ้น บนสูงกว่าต้นทุนที่ $23.6/บาร์เรล
และล่าสุด ซาอุดิอาระเบีย โดย Saudi Aramco ปรับลดราคาน้ำมันกับทวีปเอเชีย มากที่สุดในรอบ 20 ปี ถือว่าเป็นการประกาศสงครามราคาน้ำมันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
โดยเปิดฉากแย่ง Supply ทางฝั่งเอเชีย ต้อนรับแผนการตลาดเชิงรุกของ Saudi Aramco โดยข้อได้เปรียบของซาอุ คือ ต้นทุนที่ต่ำ มากๆ
โดยจากข้อมูลแล้ว เห็นๆได้เลยว่า ต้นทุน ของทาง ซาอุ น้อยที่สุดในบรรดายักษ์ใหญ่ของโลก โดยขณะที่ราคาน้ำมัน ณ ตอนนี้คือ $20.88 โดยจะมีเพียงแค่ อินโดนีเซีย รัสเซีย อิหร่าน อิรัก และซาอุ ที่ยังสามารถสู้กับราคานี้ได้อยู่
แต่ทางฝั่งอังกฤษ สหรัฐ ต้องเจ็บตัวไปอีก ที่ต้นทุนการผลิตสูงกว่า ส่งผลให้บริษัทหลายๆตัวในกลุ่มน้ำมัน ต้องขาดทุน อย่างหนักต่อเนื่อง เช่น บริษัท Shale Oil ของสหรัฐ ได้ยื่นล้มละลาย ในเมื่อ 2 เมษายน จนต้องทำให้ทรัมป์ ออกมาแสดงอยากให้สงครามจบเร็วไว และอยากดันราคาขึ้น เพื่ออุ้มบริษัทไว้
โดยเกม สงครามน้ำมันเหมือนจะจบดี แต่ก็ยังไม่จบ ทั้งๆที่ Supply กำลังล้นที่กักเก็บน้ำมัน ของแต่ละประเทศ และราคาน้ำมันที่ต่ำสุดในรอบ 20 ปี และกำลังผลิตที่สูงเป็นอันดับ 3 อย่าง ซาอุ กำลังเล่นเกม ที่จะทำให้ประเทศอย่างสหรัฐเจ็บตัวได้ และประเทศอื่นๆ ที่ต้นทุน มากกว่า $21
ซึ่งประเทศไทยเราก็เจ็บตัวเช่นกัน ไทยเราเองก็มีต้นทุน ประมาณ $29-30 เลยนะ
แต่!! ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เคยขู่นะว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าน้ำมัน กับ ซาอุ ซึ่งจะส่งผลให้การ import น้ำมันเข้าสหรัฐน้อยลงแน่นอน แต่!! ซาอุ พลิกเกม โดยเล่นเกมส่งออกน้ำมันที่ฝั่ง เอเชีย แทน !!
สุดยอดจริงๆ สงครามน้ำมัน !! ที่เราทุกคนกำลังจับตากันอยู่ ทุกครั้งจะมีคนที่ชนะ และคนที่แพ้ ต้องดูกันผลคือใคร
จากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ที่ยืดเยื้อ ประมาณ 2 ปีกว่า จบลงที่ จีนแพ้ เจ็บตัวไป แต่ครั้งนี้ต้องรอดูกันว่าใครเจ็บ !!
โฆษณา