Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
On the Pitch - ออน เดอะ พิช
•
ติดตาม
15 เม.ย. 2020 เวลา 03:50 • กีฬา
รอย คีน ตำนานกับการจากลา (Part 1/2)
- จุดเริ่มต้นตำนาน -
เดือนสิงหาคม 1971 ณ เมืองคอร์ก (Cork) ทางตอนใต้ของไอร์แลนด์ ครอบครัวคีน ครอบครัวชนชั้นแรงงานได้ให้กำเนิดลูกชายและตั้งชื่อเขาว่า เด็กชายรอย พ่อของเขาในฐานะผู้นำครอบครัวทำงานทุกอย่างที่สามารถหาได้ แม้ชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวจะไม่สุขสบายนัก แต่ครอบครัวของรอยถือเป็นครอบครัวคลั่งไคล้กีฬาเป็นอย่างมากโดยเฉพาะฟุตบอล
กลาสโกลว์ เซลติก และทีมไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เป็นสองทีมที่ด.ช.รอย ตามเชียร์ตั้งแต่วัยเด็ก และเขามีเกล็น ฮ็อดเดิ้ล กับไบรอัน ร็อบสัน สองมิดฟิลด์รุ่นพี่เป็นไอดอล และนอกจากฟุตบอลแล้ว คีโน่ในวัยเด็กเริ่มหัดชกมวยตั้งแต่อายุ 9 ขวบ จนถึงช่วงวัยรุ่น เขาไม่หัดเล่น ๆ นะครับ รอยขึ้นชกในลีคสำหรับเด็ก พร้อมคว้าชัยชนะสี่ไฟท์รวด
ด้วยความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยม เขาไม่ใช่เด็กชายที่สนุกกับการเล่นบอลโกลรูหนูเท่านั้น เขาและญาติ ๆ หลายคนจริงจังกับการเล่นฟุตบอล จนสามารถติดทีมเยาวชนของเมือง ด้วยฝีเท้าที่จัดจ้านตั้งแต่เด็ก รอย คีน ได้รับการโหวตให้คว้ารางวัลผู้เล่นแห่งปีตั้งแต่ปีแรกที่เขาลงสนาม
อย่างไรก็ตามรางวัลที่เขาได้กลับไม่ช่วยอะไรเขามากนัก เขาไม่ได้รับข้อเสนอให้ไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสรในอังกฤษ แต่เพื่อนร่วมทีมของเขาหลายคนต่างถูกเชิญให้ไปร่วมทดสอบฝีเท้ากันทั้งนั้น แม้จะผิดหวังแต่เขาก็ก้มหน้าก้มตาเตะฟุตบอลต่อไป
รอย คีน เริ่มต้นการเล่นฟุตบอลอย่างจริงจัง ในตอนอายุ 18 ปี กับทีมโค รัมเบลอส์ (Cobh Ramblers) สโมสรฟุตบอลกึ่งอาชีพในบ้านเกิด ในช่วงเริ่มแรกรอย เล่นกับทีมเยาวชนของสโมสร แต่เขาสามารถพัฒนาฝีเท้าได้อย่างรวดเร็ว จนก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ในเวลาอันสั้น และด้วยความเก่งกาจของเขา สโมสรตัดสินใจให้เขาเล่นทั้งทีมเยาวชนและทีมชุดใหญ่ไปพร้อม ๆ กัน
จนกระทั่งในการแข่งขันรายการ เอฟเอไอ ยูธ คัพ (FAI Youth Cup) เปรียบเสมือน เอฟเอ ยูธ คัพ (FA Youth Cup) ของอังกฤษ ทีมของเขาพบกับทีมเบลวาเดียร์ (Belvedere) ในเกมส์นั้นประวัติศาสตร์ได้เริ่มถูกขีดเขียนขึ้น
คีนโชว์ผลงานได้อย่างน่าประทับใจและเข้าตาแมวมองของทีมน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ หลังเกมส์นั้นคีโน่ได้รับเทียบเชิญไปทดสอบฝีเท้าที่เกาะอังกฤษและทุกอย่างผ่านฉลุย น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ควักกระเป๋าจ่าย 10,000 ปอนด์ ดึงตัวรอยให้เก็บกระเป๋าย้ายออกนอกประเทศเป็นครั้งแรกในฤดูร้อนปี 1990
- ถึงเวลาเฉิดฉาย -
ด้วยวัยเพียง 19 ปี การย้ายข้ามฝากมาอยู่เกาะอังกฤษเพียงคนเดียวดูจะเป็นเรื่องยากพอสมควร ในช่วงแรกเขาได้ขอให้สโมสรปล่อยตัวเขากลับบ้านที่ไอร์แลนด์ เพื่อกลับไปหาครอบครัวและสภาพแวดล้อมที่เขาคุ้นเคย
หลังจากผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้ คีนกลับมามีสมาธิกับฟุตบอลอีกครั้ง เขาเริ่มเป็นตัวหลักให้กับทีมสำรองของสโมสรอย่างต่อเนื่องในช่วงพรีซีซั่น จนกระทั่งโอกาสครั้งแรกในทีมชุดใหญ่ก็มาถึง
คืนวันเสาร์ในเกมส์เปิดสนามของฤดูกาล 1990-1991 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เปิดบ้านรับการมาเยือนของควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ในเกมส์แรกของเขาเริ่มต้นบนม้านั่งสำรองและจบ 90 นาที บนม้านั่งสำรอง
หลังจากไม่ได้รับโอกาสในเกมส์แรกของซีซั่น รอยกลับไปประจำการกับทีมสำรองในเกมส์วันจันทร์ แต่เขาก็ต้องนั่งบนม้านั่งสำรองอีกครั้ง คืนนั้นหลังจบเกมส์เขาและเพื่อนทีมสำรองไปดื่มฉลองหลังจบเกมส์ตามปกติ คีโน่ในวัยกำลังห้าวจัดไป 3 ขวด
ในขณะที่เช้าวันต่อมาเขาต้องมารายงานตัวเพื่อติดทีมชุดใหญ่เดินทางไปเยือนลิเวอร์พูล สถานการณ์เหมือนจะซ้ำรอยกับสองเกมส์ก่อนหน้า เขานั่งอยู่บนม้านั่งสำรอง จนกระทั่ง 10 นาทีสุดท้ายของเกมส์ ไบรอัน คลัฟ ผู้จัดการทีม จัดการเปลี่ยนตัวเขาลงสนาม แต่สุดท้ายเกมส์นั้นฟอเรสต์ แพ้ ลิเวอร์พูล ไป 0-2
ไบรอัน คลัฟ (Brian Clough) ผู้จัดการทีมระดับตำนานของประเทศอังกฤษ นำน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพ 2 สมัยติด (ปี 1979 และ 1980) สร้างสถิติไม่แพ้ใคร 42 นัดรวดในลีค ก่อนจะถูกอาเซน่อลทำลายในอีก 26 ปีถัดมา และพาฟอเรสต์ คว้าแชมป์ลีคสูงสุดมาครองได้ในปีแรกทั้งที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาจากลีครอง
นอกจากไบรอันจะเป็นผู้จัดการทีมที่ยอดเยี่ยมแล้ว เขายังถือเป็นบุคคลเปิดโอกาสและเป็นผู้ปลุกปั้นคีโน่อย่างแท้จริง เขามักจะให้โอกาสรอย คีน ได้ลงสนามสะสมประสบการณ์ในเกมส์ระดับสูงอย่างสม่ำเสมอทั้งในฐานะตั้งจริงและสำรอง
เมื่อไม่นานมานี้ รอย คีน ให้สัมพาษณ์กับน็อตติ้งแฮมโพสต์ ถึงเหตุผลที่ไบรอัน คลัฟ เลือกเขาเข้าสู่ทีมชุดใหญ่
“ไบรอัน บอกผมว่า ในช่วงพรีซีซั่นฉัน (ไบรอัน) ได้ดูเกมส์ที่แก (รอย คีน) ลงเล่น แกสามารถควบคุมบอล ผ่านบอล และเคลื่อนที่ได้” “แกคงคิดว่านักบอลอาชีพคนไหนก็ทำได้ แต่เชื่อฉันเถอะ มีอีกหลายคนทำไม่ได้” จากคำบอกเล่านั้นแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่ไบรอัน มีต่อดาวรุ่งของทีมรายนี้ได้เป็นอย่างดี
คีน กลายมาเป็นฟันเฟืองสำคัญที่คอยขับเคลื่อนเกมส์แดนกลางของสโมสร จนมาถึงในฤดูกาล 1992-1993 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ผลงานไม่ค่อยสู้ดีนัก ออกสตาร์ด 10 นักแรก ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ไปถึง 6 หลังจากนั้นผลงานก็ยังกระท่อนกระแท่นจนสุ่มเสี่ยงจะตกชั้น
ขณะเดียวกันการคุยเรื่องสัญญาฉบับใหม่ของคีนก็ดูจะไม่คืบหน้า คีนต้องการให้ในสัญญาใหม่ระบุให้เขาสามารถฉีกสัญญาได้หากทีมตกชั้น (Relegation Escape Clause) แต่ฟอเรสต์ดูจะไม่ถูกใจนักกับเงื่อนไขนี้
แม้สัญญาฉบับใหม่จะยังไม่คืบ แต่ผลงานของคีนคืบหน้าไม่รอสัญญา เขาได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นแห่งปีของสโมสร แต่ก็ยังไม่เพียงพอจะช่วยให้น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ รอดจากการตกชั้น
คีนกลายเป็นนักเตะเนื้อหอมทันที เคนนี ดัลกลิช (Kenny Dalglish) ผู้จัดการทีมแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เริ่มเดินเครื่องยื่นข้อเสนอที่จะถือเป็นสถิตินักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดบนเกาะอังกฤษ ณ เวลานั้น มูลค่า 4 ล้านปอนด์ ให้ทีมป่าไม้แห่งเมืองน็อตติ้งแฮมพิจารณา พร้อมทุ่มค่าเหนื่อย 400,000 ปอนด์ต่อปี ให้มิดฟิลด์พลังไดนาโม
แน่นอนว่าทั้งสโมสรและเจ้าตัวตอบรับข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธนั้น แต่โชคไม่ดีนักที่การเจรจาพูดคุยเสร็จสิ้นในเย็นวันศุกร์ ผู้คนเลิกงานกันหมดและออฟฟิศของสโมสรปิดเรียบร้อย การเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการจึงยังไม่เกิดขึ้น ทั้งสองฝ่ายตกลงจะมาสะบัดน้ำหมึกลงนามในสัญญาในเช้าวันจันทร์
สุดสัปดาห์นั้นปฏิบัติการฉกตัวได้เริ่มขึ้น ทันทีที่อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ข่าวว่าคีนยังไม่ได้เซ็นสัญญากับแบล็คเบิร์น เขาโทรไปหารอย คีน ด้วยตัวเอง การพูดคุยเป็นไปอย่างราบรื่น เมื่อสิ้นสุดการพูดคุยรอย คีน ตัดสินใจขายวิญญาณให้ผีแดง ด้วยมูลค่าที่สูงเป็นสถิติของเกาะอังกฤษในเวลานั้น 3.75 ล้านปอนด์
บทสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งของคีน เกี่ยวกับดีลในวันนั้น
“ตอนนั้นผมรับค่าเหนื่อย 250,000 ปอนด์ต่อปี ที่ฟอเรสต์”
“แบล็คเบิร์น เสนอให้ผม 400,000 ปอนด์ต่อปี”
“ผมได้รับข้อเสนอแรกจากยูไนเต็ดที่ 300,000 ปอนด์ต่อปี แต่ผมคิดว่ามันเพิ่มขึ้นเพียงนิดหน่อย เมื่อเทียบกับค่าตัวผมที่เป็นสถิติใหม่” “สุดท้ายผมกับยูไนเต็ดตกลงกันที่ 350,000 ปอนด์ต่อปี”
- สวม Uniform ปีศาจแดง -
รอย คีน ตอบรับข้อเสนอของยูไนเต็ด เข้ามาร่วมทีมกับไบรอัน ร็อบสัน ฮีโร่ในวัยเด็กของเขา
เพียงแค่เกมส์ที่สองในสีเสื้อของทีมผีแดง (เกมส์แรกในรั้ว Old trafford) แมนยู พบกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
ในเกมส์นั้น รอย คีน ประจำการในแดนกลางร่วมกับพอล อินส์ และไบรอัน ร็อบสัน มีอันเดรย์ คันเชลสคิส และไรอัน กิกส์ คอยทะลุทะลวงจากปีกทั้งสองข้าง โดยมีมาร์ค ฮิวจ์ส รอสับไกในแดนหน้า
เพียงแค่ 16 นาทีแรก รอย คีน ก็ซัดให้ทีมขึ้นนำก่อน และบวกลูกที่สองในนาทีที่ 43 จบครึ่งแรกแมนยูนำ 2-0
ผีแดงมาได้ลูกที่สามในนาทีที่ 85 จากมาร์ค ฮิวจ์ส ก่อนจบเกมส์ในนาทีที่ 89 รอย คีน คว้าใบเหลืองส่งท้ายเกมส์ และถือเป็นใบเหลืองใบแรกในฐานะพลพรรคปีศาจแดง จบเกมส์แมนยูฯ เอาชนะไปได้ 3-0
ในฤดูกาลนั้น ไบรอัน ร็อบสัน มิดฟิลด์กัปตันทีมกำลังอยู่ในช่วงสุดท้ายของอาชีพการค้าแข้ง รอย คีน เข้ามารับไม้ต่อได้อย่างไม่เคอะเขิน คีน ได้ลงเป็นตัวจริง 37 จาก 42 นัด ในลีค ยิงได้ 5 ประตู เป็นกำลังสำคัญพาแมนยูฯ คว้าแชมป์พรีเมียร์ชิพมาได้ตั้งแต่ฤดูการแรกที่ย้ายเข้าร่วมทีม จากนั้นเขาก็กลายมาเป็นตัวเลือกแรกในแผงมิดฟิลด์เสมอ
ด้วยความมุ่งมั่นเต็มร้อยทุกครั้งที่ลงสนามและพลังในการกระตุ้นเพื่อนร่วมทีม ทำให้เขาได้รับมอบปลอกแขนกัปตันทีมต่อจากเดอะ คิง เอริค คันโตน่า ในปี 1997 แต่ฤดูกาลนี้เขาโชคไม่ค่อยดีนัก เขาได้รับบาดเจ็บในเกมส์นัดที่ 9 ของฤดูกาลที่แมนยูฯ ออกไปเยือนลีดส์ ยูไนเต็ด และพ่ายไป 1-0
คีน ได้รับบาดเจ็บที่เอ็นไขว้หน้าฉีก ต้องพักตลอดฤดูกาล เขาทำได้เพียงนั่งมองดูเพื่อนแข่งจากขอบสนาม น่าเสียดายที่ฤดูกาลนั้นแมนยูฯ ทำได้เพียงรองแชมป์ โดยมีคะแนนตามหลังทีมอาร์เซน่อลเพียง 1 คะแนน นักวิเคราะห์หลายคนให้ความเห็นว่าแมนยูฯ น่าจะทำได้ดีกว่านี้หากมีรอย คีน อยู่ในสนาม
ฤดูกาลถัดมา 1998-1999 รอย คีน กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้สร้างตำนานที่ยังคงกล่าวขานมาถึงทุกวันนี้ ผีแดงความทริปเปิ้ลแชมป์ (แชมป์ลีค เอฟเอคัพ และยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีค) ได้อย่างยิ่งใหญ่
โดยหนึ่งในเกมส์ที่รอย คีน เล่นได้โดดเด่นที่สุดในฤดูกาลนั้น คือ เกมส์ที่ตูริน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกกลับมาชนะยูเวนตุส 2-3 ทั้งที่โดนนำไปก่อน 2-0 และรอย คีน ไปคนโหม่งทำประตูจุดประกายให้ทีมตามมา 1-2
เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เขียนบรรยายความประทับในฟอร์มการเล่นของคีนในเกมส์นั้นว่า “คีนรับบทบาทมิดฟิลด์ตัวกลางได้โดดเด่นที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นในสนาม” “เขาต่อสู้บนทุกอณูบนสนาม” “เขาแสดงให้เห็นว่าเขายอมเหนื่อยตายดีกว่าเป็นผู้แพ้ในการแข่งขันและเขาเป็นแรงยังเป็นคนปลุกใจให้ผู้เล่นคนอื่นในสนาม” “ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับเขา”
- To be continued -
- ถ้าชอบ กด Like + Share + Comment เป็นกำลังใจสำหรับเรื่องเล่าเรื่องต่อไปด้วยนะครับ
- FB: OnthePitchTH >>>
https://www.facebook.com/OnthePitchTH/
- หวังว่าจะมีความสุขกับการอ่านนะครับ -
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย