15 เม.ย. 2020 เวลา 08:23 • การศึกษา
เชื่อว่าหลายๆคนคงรู้จัก concorde กันอยู่แล้ว
หลายท่านคงเห็นตรงกันว่าเธอคือความงามที่สาบสูญของในท้องฟ้าของเราครับ เธอเป็นเครื่องบินที่ล้ำยุคที่สุดในสมัยนั้นเลยก็ว่าได้ วันนี้ผมเลยจะมาเล่า Concorde fun fact ให้ฟังกันครับ
1. Concord(e) = harmony – uninon ความเป็นมิตรภาพกัน, ความกลมเกลียว ความสอดคล้องกัน
2. Concorde มียอดการสั่งซื้อทั้งหมด 74 ลำ แต่ก่อนจะได้ผลิตตามออเดอร์ ดันเกิดอุบัติเหตุกับ Tupolev 144 concorde ของรัสเซียในงาน paris airshow 1973 ซะก่อน ทำให้ concorde ถูกถอนคำสั่งซื้อไปเหลือเพียง 20 ลำเท่านั้นที่ได้ผลิตออกมา และมีแค่ 14 ลำที่ได้บิน airline จริงๆ
คลิปวันที่เกิดอุบุติเหตุ
TU-144
Concorde livery that never flew
3. ยังเป็นเรื่องที่ยังไม่ชัดเจนในขณะนี้ว่า จริงๆแล้ว british airway จ่ายเงินค่าตัวของ concorde หรือไม่บางคนบอกว่า ที่คนเคยพูดว่า concorde นั้นขาดทุนจริงๆแล้ว concorde ทำกำไรตั้งแต่วันแรกที่บิน เพราะ BA (british airway) จ่ายค่า concorde เพียงแค่ 1 ปอนด์ ต่อลำ ส่วนค่าเครื่องนั้น รัฐบาลอังกฤษเป็นคนจ่าย อีกทางนึงบอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นจริงแต่อย่างใดและยังบอกอีกว่า BA (british airway) ลงทุนมหาศาล ในการซื้อ concorde
The last Concorde was retired in 2003. Photo: British Airways
4. ในปี 2003 sir Richard branson เสนอซื้อ concorde ต่อจาก BA หลังจากที่คเรื่อง retire ในราคา 5 ล้านปอนด์
5. Concorde สร้างสถิติบินรอบโลกด้วยเวลาเพียง 31 ชั่วโมง 27 นาที 49 วินาที https://youtu.be/_7vfZl1qy3E
6. รู้หรือไม่ว่า เจ้าจมูกด้านหน้าของ Concorde สามารถที่จะเลื่อนขึ้นลงได้ มีชื่อเรียกว่า “droop snoot” ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่มีไว้พื่อให้นักบินสามารถมองเห็นด้านหน้าได้นั่นเป็นเพราะ concorde นั้น take off กับ landing ด้วยมุมปะทะที่สูง (high angle of attack) ทำให้นักบินไม่สามารถมองเห็นข้างหน้าได้ถ้าไม่ปรับให้หัวเครื่องบิน (nose) ทิ่มลงมาเพื่อ visual ที่ดีขึ้นครับจะได้รู้ว่าบินไปไหนด้วย
by Pool DE MALGLAIVE/LAFARGUE/Gamma-Rapho via Getty Images
7. engine ของ concorde คือ Rolls-Royce/SNECMA Olympus 593 Mrk610 turbojet ซึ่งสามารถ สร้างแรง thrust ได้ถึง 122,000 Lbf และยังสามารถสร้างเพิ่มได้อีก 30,000 Lbf โดยการใข้ ระบบให้ความร้อนซ้ำ (reheat system) หรือ ที่เรารู้จักกันคือ อุปกรณ์สันดาปตอนท้าย (after burner) ซึ่งถ้าเทียบกับ เครื่องยนต์ของ a320neo อย่าง LEAP-1A ซึ่งสร้างแรงขับไปข้างหน้าได้ใกล้เคียงเลยที่ 24,500–35,000 Lbf
Rolls-Royce/SNECMA Olympus 593 Mrk610 turbojet
8. อย่างที่หลายคนทราบอยู่แล้วว่า concorde เป็นปีกแบบ delta wing แต่มีอีกชื่อนึง เรียกว่า ogival delta หรือ ogee delta ซึ่งหมายถึง ส่วนโค้งของปีกนั่นเอง
9. concorde cruising level อยู่ที่ FL 500-600 เลยครับ ซึ่งเป็นความสูงในระดับที่เราสามารถที่จะเห็น ส่วนโค้งของโลกได้เลย
10. เนื่องจากความเร็วของ concorde นั้นบินเร็วกว่าความเร็วเสียงได้ถึงสองเท่าทำให้อุณหภูมิพื้นผิวของ concorde สามารถสูงถึง 127 องศาเซลเซียสที่ปีก และ 91 องศาเซลเซียส ที่ หัวเครื่องบิน (nose) โดยปกติเวลาเราเอามือแตะกระจกเครื่องบินมันจะเย็นใช่มั้ยครับ แต่ concorde นั้นจะอุ่นครับ ด้วยเหตุนี้สีขาวที่อยู่บน concorde นั้นเป็นสีพิเศษที่สามารถ สะท้อนความร้อนได้สองเท่าของ สีขาว บนเครื่องบินทั่วไป และอีกอย่างนึงคือเมื่อ concorde เจอความร้อนสูงขนาดนี้ทำให้เครื่องบินนั้นยืดหรือขยายได้ 7-9 นิ้ว หรือ 23 เซนติเมตร เลยทีเดียวโดยจะมีการยึดชิ้นส่วนต่างๆไว้ด้วย รอยต่อเผื่อขยายหรือชุดขยายข้อต่อ (expansion joint) ครับ
ความร้อนที่เกิดกับตัวเครื่องเมื่อบินที่ mach 2 cr.aerospaceweb.org
11. Concorde ใช้ระยะประมาณ 110-120 nm เพื่อลดความเร็วจาก supersonic ไป subsonic
12. ไม่ใช่ทุกประเทศจะต้อนรับ concorde มีหลายๆประเทศ แบน concorde ไม่ให้บินผ่าน เช่น Sweden, Norway, the Netherlands, West Germany, Switzerland, Ireland, Canada แต่ที่แปลกสุดคงเป็น Saudi arabia ที่ห้าม concorde บินผ่านประเทศเพราะเสียงจาก sonic boom ไปรบกวนการสืบพันธ์ของอูฐ ครับ
13. Concorde เป็นเครื่องบินแบบแรกๆ ที่ใช้ fly by wire system ครับ และ ก็ยังเป็นเครื่องบินรุ่นแรกที่มี brake fan ติดตั้งไว้เนื่องจาก landing speed ที่สูงถึง 170 miles per hour (274 km/h) และ เวลา taxi นั้นเครื่องยนต์ของ concorde มีกำลังที่แรงเกินไปนั่นเองครับเบรคเลยทำงานหนัก อาจจะกินน้ำมันถึง 2ตัน เลยทีเดียว
14. Concorde มีอุปกรณ์ที่ไม่เหมือนกับเครื่องบินทั่วๆไปนั่นคือ mach meter หรือ มาตรวัดความเร็วเสียงนั่นเอง
15. Concorde มีลายข้างลำตัว (Livery) ถึงสองสายการบินในลำเดียว concorde Airframe G-BOAD /G-N94AD มีลายของ singapore airline อยู่ข้างนึง ส่วนอีกข้างยังเป็นลายของ british airway เพราะ สองสายการบินนี้มีการใช้รหัสร่วมกันแบบเที่ยวบินร่วมลงทุน (Joint services)
16. เราอาจจะคุ้นตากับ concorde สีขาวใช่มั้ยครับ แต่ concorde เคยทาสีอื่นด้วยนะครับใน “Project Blue” ถือว่าเป็นการทำ marketing ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งนึงในยุค 90 เลยครับ เพราะ Pepsi ในเวลานั้นได้ตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบของแบรนด์ที่มีสีแดงมากเกินไปจนไปคล้ายๆกับคู่แข่งอย่าง Coke นั่นเอง Pepsi จึงตัดสินใจเปลี่ยนมาเป็นกระป๋องสีน้ำเงินเข้ม(Dark Blue)อย่างที่เราเห็นในทุกวันนี้มีรายงานว่า Pepsi ลงทุน 5 million us dollar ในการทาสี concorde ใหม่เป็นสีน้ำเงินเพื่อทำลายข้างตัวเป็น logo pepsi การโฆษณาการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของ Pepsi โครงการนี้ใช้เงินไปทั้งหมด 500 million us dollar โดยประมาณ
17. special plane need special treatment เวลาที่สภาพอากาศไม่ดี แล้วมีเครื่องรอคิวอยู่เยอะนั้นถ้า concorde คือ 1 ในนั้น atc จะติดต่อหานักบินเพื่อไปคุยกันอีกคลื่นความถี่ (frequency) นึง เพื่อคุยกันแบบ private เพราะ atc รู้ว่า concorde ไม่สามารถรอนานขนาดนั้นได้ไม่อย่างนั้นอาจจะ บินไปลงสนามบินอื่น (divert) atc จึงให้ priority กับ concorde เป็นลำแรกๆนั่นเอง
18. หลายๆคนคงรู้จักกับ Tail Skid เป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายคานยัน เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องบินเสียหายจากการสัมผัสกับพื้น concorde ก็มีเหมือนกันครับ คือ tail bumper wheel โดยเวลาที่นักบินขาน “Gear Down” จะมีการพูดว่า “Four Green” หมายถึง Landing Gear ทั่งสี่อันลงมาแล้วเครื่องบินทั่วไปจะเป็นแค่ “ Three Green ” นั่นเป็นเพราะ concorde ทำการ take off กับ landing ด้วยมุมที่สูงมากนั่นเอง
tail bumper wheel
19. นักบินของ concorde หลายๆคนให้นิยามของ concorde ว่าเหมือนกับ time traveling machine อย่างเช่น flight BA003 LHR-JFK ซึ่งออกตอนช่วงเย็นๆนักบินและผู้โดยสารจะเห็นตะวันตกดินช่วง take off พอไปถึง JFK ก็จะเป็นช่วงบ่ายแก่ๆแล้วก็จะเห็นทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตกอีกครั้งนึง
20. Concorde เองก็มีปัญหาในเรื่อง aerodynamic เหมือนกันนะครับ คล้ายๆกับปัญหาเรื่อง swept-wing ที่ผมเขียนไว้ในบทความเรื่อง X-29 ของ NASA ใครไม่ทันไปตามอ่านได้นะครับ555 ง่ายๆก็คือ จุดศูนย์กลางของความดัน (center of pressure) ไปอยู่หลัง จุดศูนย์ถ่วง (center of gravity) คือจุดเฉพาะที่มวลหรือน้ำหนักของเครื่องบินตกอยู่ ทำให้หัวเครื่องทิ่มลง เค้าเลยแก้ปัญหาโดยการที่ flight engineer ปั๊ม น้ำมันไปที่แท็งค์หมายเลข 11 ด้านหลังเพื่อ balance เครื่องบิน น้ำมันส่วนนี้เรียกว่า ballast fuel
21. “ looking at concorde as an example of outdated technology , it still at the cutting edge losing it has been one giant leap backward for mankind “ – Jeremy Clarkson การ retire ของ concorde นั้นปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นการเดินถอยหลังครั้งใหญ่ที่สุดครั้งนึงในประวัติศาสตร์การบินเลยก็ว่าได้ แต่ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นเครื่องบินที่บินได้เร็วเท่าหรือเร็วกว่า concorde ก็ได้ครับ
ช่องทางการติดตามพวกเรานะครับ
❣️ twitter : @AviationLab
โฆษณา