15 เม.ย. 2020 เวลา 11:41
ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเผชิญการแพร่ระบาดของ Covid-19 ทั่วประเทศ อีกทั้งในภาคเหนือก็ยังเจอปัญหาวิกฤตหมอกควันร่วมด้วย ในเวลาเดียวกันนี้ก็ยังมีภัยเงียบที่กำลังคืบคลานเข้ามาทีละนิดแบบไม่รู้ตัวและไม่ได้ตระหนักถึงหรือตระหนักน้อยมากนั้นก็คือ “ภัยแล้ง” ซึ่งผลกระทบการของภัยแล้งนั้นไม่ได้ส่งผลกระต่อเฉพาะภาคการเกษตรเท่านั้น ยังส่งอันมหาศาลแก่ภาคอุตสาหกรรม และภาคครัวเรือน
ซึ่งแน่นอนว่าในส่วนของภาคอุตสาหกรรมถ้ามีปริมาณน้ำไม่เพียงพอหรือประเมินแล้วมีปริมาณน้ำอยู่ในระดับต่ำมาก ๆ ก็ต้องมีการปรับแผนเพื่อลดการผลิตลง เนื่องจากหลายโรงงานเมื่อรับน้ำมาแล้วจะต้องมีการปรับปรุงคุณภาพน้ำก่อนนำไปใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อไม่ให้ส่งผลต่อคุณภาพของกระบวนการผลิต ในเขตอุตสาหกรรมภาคตะวันออกของประเทศไทยรู้สึกว่าในปีนี้ก็อาจจะเป็นอีกปีที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบอย่างมากจากภัยแล้งนี้ เพราะสถานการณ์ปริมาณน้ำตามอ่างเก็บน้ำสำคัญในจังหวัดระยอง ไม่ว่าจะเป็นอ่างดอกกราย อ่างหนองปลาไหล อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ รวมไปจนถึงอ่างเก็บน้ำประแสร์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำต้นทุนที่นำมาใช้ในจังหวัดระยองและพื้นที่ใกล้เคียง อยู่ในสภาวะวิกฤติต่ำกว่าปี 2548 และโครงการชลประทานจังหวัดระยอง ได้มีการรายงานการคาดการปริมาณน้ำคาดว่าจะมีน้ำใช้ได้ไม่เกิน 70 หรือ 80 วันเท่านั้น ทำให้หลายโรงงานเริ่มมีการเรียกร้องให้มีมาตรการรองรับปัญหาภัยแล้วที่อาจจะเกิดขึ้นภายในไม่กี่วันกี่เดือนข้างหน้านี้
สำหรับภาคการเกษตรนั้นเริ่มเห็นสภาวะแม่น้ำหลายสายเริ่มแห้งขอด ส่งผลให้ภัยแรงเริ่มทวีความรุนแรงและแผ่ขยายออกไปเป็นวงกว้างมากขึ้น ชาวเกษตรกรเริ่มขาดแคลนน้ำที่จะนำไปต่อชีวิตพืชพรรณหรือต้นไม้ที่คอยประคบประหงมนับวันนับเดือนรอวันที่จะเก็บเกี่ยวไปขายและสร้างรายได้ แต่หนทางนั้นก็ไม่ได้รวยไปด้วยกรีบกุหลาบ หลายพื้นที่ก็ต้องปล่อยให้นาข้าวขืนต้นตายต่อหน้าต่อตา จึงทำให้เกษตรกรเรียกร้องให้ภาครัฐมีมาตรการรองรับกับภัยแล้งที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้าอีกเช่นกัน
ที่มา: กรมชลประทาน
และในส่วนของภาคครัวเรือนก็จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนต่อการไม่มีน้ำกินน้ำใช้ จะมีบางพื้นที่จำกัดปริมาณการใช้น้ำโดยอนุญาตให้ใช้น้ำเป็นเวลา และบางพื้นที่คุณภาพน้ำที่ส่งไปยังบ้านเรือนต่างๆก็ไม่ได้มาตรฐานเช่นมีสีขุ่นแดงอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะพื้นที่ชนบท ซึ่งถ้าคุณภาพน้ำที่ส่งมาให้ชาวบ้านได้ใช้ไม่ได้มาตรฐานก็ไม่สามารถที่จะนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้มากมาย เช่น ซักผ้าก็ไม่ได้ นำไปประกอบอาหารก็ไม่ได้ สุดท้ายก็ใช้อะไรก็ไม่ได้
อย่างไรก็ตามการบริหารจัดการน้ำมีความสำคัญมากต่อการแก้ปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นในทุกๆปี และอาจจะทวีความรุนแรงขึ้นในอนาคต และอีกอย่างถ้าใครติดตามการเกิไฟป่าทางภาคเหนือจะเห็นว่าป่าต้นน้ำถูกทำลายกินพื้นที่เป็นวงกว้าง(ก็อาจจะพูดได้ว่าภายแล้งส่วนหนึ่งก็เกิดจากมนุษย์อย่างเรานี่แหละ เผาป่าจนทำให้ไม่มีต้นน้ำ..เฮ้อ) แต่เหนือสิ่งอื่นใดประชาชนตาดำๆอย่างเราๆ ก็สามารถที่จะช่วยชาติในการประหยัดน้ำได้เน้อครับเน้อ คนละไม้คนละมือ น้ำสำคัญต่อชีวิตถ้าไม่มีน้ำมนุษย์อย่างเราก็อยู่ไม่ได้เป็นแน่แท้ แต่อนาคตอันไกลโพ้นนอาจจะมีเครื่องผลิตน้ำจากความชื้นจากอากาศ ก็เป็นไปได้
โฆษณา