EP1: เชียงใหม่
ปฐมบทการเดินทางที่ไม่มีแผนอะไรเลย.!! แม้แต่ข้อมูลการเดินทางก็ไม่มี งบประมาณก็จำกัด มีแค่ตั๋วเครื่องบินที่จองเอาไว้แบบไม่ทันตั้งตัว😂
:Day1 สวัสดีครับ🙏 นี่คือการเดินทางไกลคนเดียวครั้งแรกในชีวิตของตัวเรา ซึ่งการไปแบบงงๆในครั้งนี้เกิดจากการโดนเพื่อนเทไม่ไปกับเรา พีคสุดเลยคือมันมาบอกกับเราในคืนก่อนจะบิน ตอนแรกก็ลังเลว่าจะไปดีมั้ย กล้าๆกลัวๆอยู่นานสุดท้ายตัดสินใจ
"เอาวะ!! กูแม่งไม่เคยเปิดโลกใหม่ๆเลย" จริงๆในใจเราคือกลัวเหมือนเดิม(อ่อ พอดีนี่คือการนั่่งเครื่องบินครั้งแรกในชีวิต)
มา!!! เรามาเริ่มผจญภัยกันเถอะ(เราจะรวมค่าใช้จ่ายไปด้วยนะ) ....ตื่นเช้าด้วยตวามตื่นเต้นและความกังวลของเรา อาบน้ำ แต่งตัว เรียกTaxi ไปสนามบินดอนเมือง #190บาท เอาล่ะถึงขั้นตอนสำคัญคือการเช็คอินขึ้นเครื่อง เชี่ยยยยกูจะทำยังไงวะ!! ความหวังที่จะให้เพื่อนทำให้ก็สลายไปแล้วเพราะมันเทเรา🤬😠 เรานั่งดูวี่แววอยู่สักพัก เอาวะ ที่นี่ประเทศเรา ภาษาที่ใช้ก็ของเรา จังหวะนี้สกิลปากต้องมาแล้ว เลยตัดสินใจเดินไปถามพนักงานจนกระทั่งเช็คอินเสร็จ ก็เดินเข้าไปใน Gateด้วยความตื่นตาและตื่นเต้นเพราะนี่คือครั้งแรกจริงๆ เอาล่ะ!ทิ้งความตื่นเต้นเอาไว้เพราะต้องมานั่งวางแพลนว่าจะไปไหน เอายังไงกับชีวิตต่อเพราะยังไม่มีที่พัก ยังไม่มีแพลนอะไรเลย แต่โชคเข้าข้างตรงที่เราไปช่วงที่ไม่ใช่เทศกาลก็เลยโล่งใจขึ้นเยอะ นั่งสักพักใหญ่เลยได้ข้อสรุปว่า "ไปถึงกูต้องมีมอเตอร์ไซค์ก่อน" แค่นี้เลย(ถุย!!!นั่งคิดตั้งนาน) ป่ะ!ถึงเวลาบิน โห้ววว ได้ขึ้นเครื่องแล้วโว้ย (อ่อ ลืมไปค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ #1,750บาท ) บอกเลยว่าตื่นเต้นขึ้นไปอีก ในใจนั่งลุ้นเครื่องจะตกมั้ย แต่ก็คิดขึ้นมาว่า กูต้องซวยขนาดไหนวะ เที่ยวบินพันๆรอบไม่เคยมีปัญหา ถ้ามามีปัญหาที่รอบของเรานี่ก็ไม่ใช่แล้ว 😂 สุดท้ายเครื่องกำลังจะขึ้นภาพก็ตัดไป จนกระทั่งตื่นมาสายตาก็สังเกตุเห็นภูเขา เห้ย!!นั่นดอยสุเทพ..โอเคครับ ตอนนี้เราถึงเชียงใหม่แล้ว พอลงจากเครื่องบิน คำถามที่ดังขึ้นมาก็คือ "กูเอาไงต่อวะ" ใช่ครับเพราะผมไม่มีแพลน ผมไม่รู้อะไรเลย แต่พอดีว่ามีสกิลปาก ก็เลยไปถามลุงที่ขับรถแดง แกก็บอกว่าให้ผมนั่งรถเมล์ไปลงประตูท่าแพหรือไม่ก็กาดสวนแก้วแล้วก็เช่ามอเตอร์ไซค์ ครับบบลุง!! เราตัดสินใจที่จะนั่งรถเมล์เพื่อไปลงประตูท่าแพ(#20บาท) ....หารู้ไม่ความลำบากครั้งใหญ่กำลังมาเยือน ครับพอผมลงที่ประตูท่าแพ ร้านเช่ารถที่ตรงนั้นมันแพงมาก(แพงตรงที่วางมัดจำเนี่ยแหละ) เอายังไงล่ะทีนี้ ร้านลวงก็ยังไม่เปิดเพราะเราถึงเชียงใหม่ 07.30น. เราตัดสินใจเดินไปเรื่อยๆ จนเราได้แวะเซเว่นเพื่อจะซื้อถ่านใส่กล้องฟิล์ม(ใช่ เรามีความตั้งใจคือการไปถ่ายฟิล์มเท่ๆ) มีผู้ชายคนหนึ่งทักเราว่าถ่ายฟิล์มด้วยหรอ หลังจากนั้นเราคุยกันยาวเลยครับ สุดท้ายได้ความว่าคุณคนนี้คือเจ้าของโรงแรมเล็กๆสำหรับพวกนักเดินทางคนเดียว อ้าวววว เข้าทางผมเลย ผมยังไม่มีที่นอน
ฮ้าฮ้า~~ โอเคครับ มันเหมือนละครเหลือเกิน สุดท้ายผมได้ที่นอนแล้วครับ ผมเลยจัดไป 2 คืน (คืนละ750*2=1,500บาท) เราได้เช็คอินตอน 14.00น. อ่อแล้วเราก็ได้คำแนะนำมาจากเจ้าของที่พักว่าให้ไปเช่าร้าน Bikky ดูสิ่ ไม่ต้องเสียค่ามัดจำใดๆ โอเคผมดีใจแล้วรีบเดินออกมาเพื่อจะไปเช่ารถโดยไม่ได้ถามข้อมูลใดๆเพิ่ม จนได้!!! งานมาจนได้!!!
ร้านอยู่ไหนวะ นี่คือคำถามที่ดังขึ้นอีกรอบ จะเดินกลับไปถามก็ไกลเหลือเกิน หยิบgpsขึ้นมาดู โอเค bikkyกาดสวนแก้ว ห่างจากเรา 12 กิโล คำถามต่อไปคือจะไปยังไง รถแดงก็ไม่กล้าเพราะข่าวโกงราคามันเยอะเหลือเกิน เอาวะ!! เดินก็ได้วะ😁 ไอ้เชี้ยยยย เตือนทุกคนเลยว่าอย่า(คงไม่มีใครโง่เหมือนผมหรอก) ตัดภาพเลยแล้วกัน... พอได้รถมา(คันละ350/วัน) เราก็มาวางแพลนจริงๆแล้วว่าควรไปไหนดี อ่ะ!! ที่แรกคือพระธาตุดอยสุเทพ แล้วไปจิบกาแฟที่ดอยปุย เริ่ม!! พอขับขึ้นไปถึงพระธาตุ โอ้โห้!คนเยอะเหลือเกิน เยอะไปด้วยทัวร์จีน เราตัดสินใจเลยไปดีกว่าเราอยากเจอที่เงียบๆ สุดท้ายไปบ้านม้งดอยปุย จิบกาแฟแบบฮิปเตอร์ ถุย!!! โคตรเหนื่อยเลยครับกว่าจะเดินถึงร้านกาแฟ สุดท้ายกลับที่พักกว่าจะทำอะไรเสร็จปาไป 21.30 น. ทั้งเดินทาง ทั้งเหนื่อย และความเหงาก็เข้ามาจนได้ สุดท้ายหลับไปโดยไม่รู้ตัวเลย...