15 เม.ย. 2020 เวลา 11:47 • ท่องเที่ยว
EP1: เชียงใหม่
ปฐมบทการเดินทางที่ไม่มีแผนอะไรเลย.!! แม้แต่ข้อมูลการเดินทางก็ไม่มี งบประมาณก็จำกัด มีแค่ตั๋วเครื่องบินที่จองเอาไว้แบบไม่ทันตั้งตัว😂
:Day1 สวัสดีครับ🙏 นี่คือการเดินทางไกลคนเดียวครั้งแรกในชีวิตของตัวเรา ซึ่งการไปแบบงงๆในครั้งนี้เกิดจากการโดนเพื่อนเทไม่ไปกับเรา พีคสุดเลยคือมันมาบอกกับเราในคืนก่อนจะบิน ตอนแรกก็ลังเลว่าจะไปดีมั้ย กล้าๆกลัวๆอยู่นานสุดท้ายตัดสินใจ
"เอาวะ!! กูแม่งไม่เคยเปิดโลกใหม่ๆเลย" จริงๆในใจเราคือกลัวเหมือนเดิม(อ่อ พอดีนี่คือการนั่่งเครื่องบินครั้งแรกในชีวิต)
มา!!! เรามาเริ่มผจญภัยกันเถอะ(เราจะรวมค่าใช้จ่ายไปด้วยนะ) ....ตื่นเช้าด้วยตวามตื่นเต้นและความกังวลของเรา อาบน้ำ แต่งตัว เรียกTaxi ไปสนามบินดอนเมือง #190บาท เอาล่ะถึงขั้นตอนสำคัญคือการเช็คอินขึ้นเครื่อง เชี่ยยยยกูจะทำยังไงวะ!! ความหวังที่จะให้เพื่อนทำให้ก็สลายไปแล้วเพราะมันเทเรา🤬😠 เรานั่งดูวี่แววอยู่สักพัก เอาวะ ที่นี่ประเทศเรา ภาษาที่ใช้ก็ของเรา จังหวะนี้สกิลปากต้องมาแล้ว เลยตัดสินใจเดินไปถามพนักงานจนกระทั่งเช็คอินเสร็จ ก็เดินเข้าไปใน Gateด้วยความตื่นตาและตื่นเต้นเพราะนี่คือครั้งแรกจริงๆ เอาล่ะ!ทิ้งความตื่นเต้นเอาไว้เพราะต้องมานั่งวางแพลนว่าจะไปไหน เอายังไงกับชีวิตต่อเพราะยังไม่มีที่พัก ยังไม่มีแพลนอะไรเลย แต่โชคเข้าข้างตรงที่เราไปช่วงที่ไม่ใช่เทศกาลก็เลยโล่งใจขึ้นเยอะ นั่งสักพักใหญ่เลยได้ข้อสรุปว่า "ไปถึงกูต้องมีมอเตอร์ไซค์ก่อน" แค่นี้เลย(ถุย!!!นั่งคิดตั้งนาน) ป่ะ!ถึงเวลาบิน โห้ววว ได้ขึ้นเครื่องแล้วโว้ย (อ่อ ลืมไปค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ #1,750บาท ) บอกเลยว่าตื่นเต้นขึ้นไปอีก ในใจนั่งลุ้นเครื่องจะตกมั้ย แต่ก็คิดขึ้นมาว่า กูต้องซวยขนาดไหนวะ เที่ยวบินพันๆรอบไม่เคยมีปัญหา ถ้ามามีปัญหาที่รอบของเรานี่ก็ไม่ใช่แล้ว 😂 สุดท้ายเครื่องกำลังจะขึ้นภาพก็ตัดไป จนกระทั่งตื่นมาสายตาก็สังเกตุเห็นภูเขา เห้ย!!นั่นดอยสุเทพ..โอเคครับ ตอนนี้เราถึงเชียงใหม่แล้ว พอลงจากเครื่องบิน คำถามที่ดังขึ้นมาก็คือ "กูเอาไงต่อวะ" ใช่ครับเพราะผมไม่มีแพลน ผมไม่รู้อะไรเลย แต่พอดีว่ามีสกิลปาก ก็เลยไปถามลุงที่ขับรถแดง แกก็บอกว่าให้ผมนั่งรถเมล์ไปลงประตูท่าแพหรือไม่ก็กาดสวนแก้วแล้วก็เช่ามอเตอร์ไซค์ ครับบบลุง!! เราตัดสินใจที่จะนั่งรถเมล์เพื่อไปลงประตูท่าแพ(#20บาท) ....หารู้ไม่ความลำบากครั้งใหญ่กำลังมาเยือน ครับพอผมลงที่ประตูท่าแพ ร้านเช่ารถที่ตรงนั้นมันแพงมาก(แพงตรงที่วางมัดจำเนี่ยแหละ) เอายังไงล่ะทีนี้ ร้านลวงก็ยังไม่เปิดเพราะเราถึงเชียงใหม่ 07.30น. เราตัดสินใจเดินไปเรื่อยๆ จนเราได้แวะเซเว่นเพื่อจะซื้อถ่านใส่กล้องฟิล์ม(ใช่ เรามีความตั้งใจคือการไปถ่ายฟิล์มเท่ๆ) มีผู้ชายคนหนึ่งทักเราว่าถ่ายฟิล์มด้วยหรอ หลังจากนั้นเราคุยกันยาวเลยครับ สุดท้ายได้ความว่าคุณคนนี้คือเจ้าของโรงแรมเล็กๆสำหรับพวกนักเดินทางคนเดียว อ้าวววว เข้าทางผมเลย ผมยังไม่มีที่นอน
ฮ้าฮ้า~~ โอเคครับ มันเหมือนละครเหลือเกิน สุดท้ายผมได้ที่นอนแล้วครับ ผมเลยจัดไป 2 คืน (คืนละ750*2=1,500บาท) เราได้เช็คอินตอน 14.00น. อ่อแล้วเราก็ได้คำแนะนำมาจากเจ้าของที่พักว่าให้ไปเช่าร้าน Bikky ดูสิ่ ไม่ต้องเสียค่ามัดจำใดๆ โอเคผมดีใจแล้วรีบเดินออกมาเพื่อจะไปเช่ารถโดยไม่ได้ถามข้อมูลใดๆเพิ่ม จนได้!!! งานมาจนได้!!!
ร้านอยู่ไหนวะ นี่คือคำถามที่ดังขึ้นอีกรอบ จะเดินกลับไปถามก็ไกลเหลือเกิน หยิบgpsขึ้นมาดู โอเค bikkyกาดสวนแก้ว ห่างจากเรา 12 กิโล คำถามต่อไปคือจะไปยังไง รถแดงก็ไม่กล้าเพราะข่าวโกงราคามันเยอะเหลือเกิน เอาวะ!! เดินก็ได้วะ😁 ไอ้เชี้ยยยย เตือนทุกคนเลยว่าอย่า(คงไม่มีใครโง่เหมือนผมหรอก) ตัดภาพเลยแล้วกัน... พอได้รถมา(คันละ350/วัน) เราก็มาวางแพลนจริงๆแล้วว่าควรไปไหนดี อ่ะ!! ที่แรกคือพระธาตุดอยสุเทพ แล้วไปจิบกาแฟที่ดอยปุย เริ่ม!! พอขับขึ้นไปถึงพระธาตุ โอ้โห้!คนเยอะเหลือเกิน เยอะไปด้วยทัวร์จีน เราตัดสินใจเลยไปดีกว่าเราอยากเจอที่เงียบๆ สุดท้ายไปบ้านม้งดอยปุย จิบกาแฟแบบฮิปเตอร์ ถุย!!! โคตรเหนื่อยเลยครับกว่าจะเดินถึงร้านกาแฟ สุดท้ายกลับที่พักกว่าจะทำอะไรเสร็จปาไป 21.30 น. ทั้งเดินทาง ทั้งเหนื่อย และความเหงาก็เข้ามาจนได้ สุดท้ายหลับไปโดยไม่รู้ตัวเลย...
:Day2 สวัสดีตอนเช้าครับ วันที่สองแล้วแต่ในหัวยังไม่รู้จะไปไหน ตอนนี้คือเวลา 07.30 น. ตัดสินใจเอาความขี้เกลียดไปอาบน้ำ แล้วก็คิดว่า"นี่กูมาเที่ยวนะ มึงยังขี้เกลียดอีกหรอ" ฮ้าฮ้าฮ้า ใช่ครับผมแม่งขี้เกลียดกับทุกๆเรื่อง(ด่าตัวเองด้วย) โอเคมาตั้งเข็มทิศให้ชีวิตนักเดินทางดีกว่า "ไปดอยไหนดีวะ" นี่คือความคิดที่ดีที่สุดตอนนั้น เราวางแผนว่าเอาอยากไปแม่กำปอง เราอยากไปดอยอินทนนด์ โอเคได้เวลาออกแล้ว แต่ก่อนจะเดินทางไกลเราอยากกินข้าวก่อน เราไปแวะกินข้าวขาหมู ข้าวหมูแดง หลัง มช. เชื่อมั้ยว่าความล้มเหลวเกิดขึ้นแล้ว อยู่ๆทุกอย่างมันก็เปลี่ยน ใจเราไม่กล้าพอที่จะบิดคันเร่งออกไป เอาวะไอ้กระจอกถ้ามึงไม่ไปแล้วมึงจะไปไหน!! นี่คือคำถามที่เอ่ยถามตัวเองเป็นครั้งที่หนึ่งพัน ...อ๋อ..กูนึกออกแล้ว เรามาเพื่อถ่ายกล้องฟิล์ม อยากได้รูปcoolๆ เพื่อสนองตัวเองนี่หว่านี่คือการที่เราตัดสินใจมาที่นี่ โอเคครับหลังจากนั้นต่อมความฮิปเตอร์แม่งเกิดขึ้นมาเฉยๆเลย แล้วด้วยความอินดี้ไม่สนโลกไม่คิดอะไรก่อนของผม ก็ตัดสินใจเอามอไซค์ไปคืน หลังจากนั้นก็เดินไปทั่วทุกมุมของเชียงใหม่ เดินครับ!!เดินจริงๆ เดินจังๆ เดินจนรองเท้าขาด เดินจากประตูท่าแพถ่ายรูปจนตะวันตกดิน พอตกกลางคืนไปเดินไนค์มาเก็ต เรียนรู้วัฒธรรมการใช้ชีวิตไม่ว่าจะเป็นของนักท่องเที่ยว หรือคนพื้นเมืองก็ตาม สี่ทุ่มเศษๆ กลับถึงห้อง อาบน้ำ แล้วความเหนื่อยล้าก็พาผมหลับไปอีกครั้ง
 
:Day3. วันที่สามแล้วครับ😁 วันนี้ต้องกลับแล้ว ตอนนี้เวลา 09.30 น. ผมมีเที่ยวบินกลับตอน 20.30น. ผมเริ่มจากการหาข้าวกิน เริ่มเดินไปหาที่ถ่ายรูปเท่ๆ จนช่วงบ่ายกว่าๆผมจึงตัดสินใจเช็คเอ้าค์ ออกจากที่พักแล้วเลือกที่จะไปปักหลักที่คาเฟ่แถวๆนิมมารนั่งรอเวลาเพื่อจะกลับ โอเคครับเรานั่งรถมานิมมารนั่งดูรูปจนเพลิน ตอนนี้เวลา 18.00 น. ผมกำลังจะเข้าไปสนามบิน. เหี้ยยยยยย!!!! ตรงนี้มันเข้าไม่ได้ คนในร้านบอกว่าตรงนี้คือค่ายทหารไม่สามารถเดินตัดไปได้ ถ้าพี่จะไปสนามบินต้องรอรถแดงครับ แต่พี่ทำใจเลยรถแดงเข้าสนามบินต่ำๆก็ 70-80 บาทครับ เฮ้อ~~ ตัดสินใจหยิบมือถือ แล้วเปิดgps จากตรงร้านไปถึงสนามบิน 15 kg. เอาวะวิญญาณแบล็คแพ็คเข้าสิง ตัดสินใจเดินยาวๆเลย ....
..........
.......... ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะ เอาจริงๆแล้วทริปนี้ทุกคนอาจมองว่าเราไปแล้วไม่ได้อะไร ไปแบบนี้ไม่ต้องไปหรอก!! แต่เดี๋ยวนะ.. เราว่าเราได้อะไรหลายๆอย่างเลยนะ คุณเคยสู้กับความเหงา กับความไร้ตัวตน ที่อยู่ในตัวคุณเองมั้ย คุณเคยไปเที่ยวกะบตัวคุณเอง กับรอยยิ้มของคุณเองครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ทริปนี้มันไม่สมบูรณ์แบบเลย แต่ผมกลับมองว่านี่แหละความสุขของผม สุขที่จะยิ้ม สุขที่จะใช้ชีวิต ขอให้ทุกคนที่รักการเดินทางจงมีรอยยิ้มให้ตัวเองด้วยนะครับ 😁🙏...
ติดตามรูปถ่ายได้ที่ #ig Autoboy_35
โฆษณา