16 เม.ย. 2020 เวลา 09:45
เนื่องจากเมื่อวันที่ 14/04/63 ได้มีสื่อบางที่ เสนอข้อมูลว่า “เว็บไซต์ AirVisual รายงานสถานการณ์ฝุ่นรอบโลกฉบับเรียลไทม์ ช่วงเวลา 07.00 น. พบว่าผลการจัดอันดับค่าฝุ่นรอบโลก เฉพาะเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีปริมาณฝุ่นแบบภาพรวมที่ 160 US AQI ส่วนปริมาณฝุ่น PM2.5 มีค่าเฉลี่ยที่ 72 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร นับเป็นพื้นที่ที่พบค่าฝุ่นสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ส่วนอันดับ 1 เป็นเมืองเสิ่นหยาง ประเทศจีนพบค่าฝุ่นที่ 181 US AQI”
ข้อมูลที่ได้จาก App air4thai ของกรมควบคุมมลพิษที่มีสถานีตรวจวัดอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งก็ยังมีไม่มากเท่าไรยังไม่ครอบคุมทุกพื้นที่ แต่เครื่องมือในการตรวจวัดและวิธีการตรวจวัด Followตามวิธีวิเคราะห์มาตรฐานสากล(us epa mercury standards) ซึ่งจะมีระบบการกำจัดความชื้นก่อน ซึ่งเป็น Factor ที่สำคัญที่ทำให้ค่าเพี้ยนได้
และข้อมูลของจาก App AirVisual มาจากเครื่องวัดคุณภาพอากาศที่ขายโดย AirVisual นั้นเองเองและภายในเครื่องก็จะมีระบบส่งสัญญาณที่สามารถส่งข้อมูลมูลผลการตรวจวัดให้แก่ผู้ขายได้ และเครื่องนี้ใช้ระบบการตรวจวัดอากาศด้วยการกระเจิงของแสงเลเซอร์ (Low-cost portable sensors)(เป็นวิธีการตรวจวัดเดียวกับเครื่องวัดฝุ่นเล็กๆที่ซื้อมาใช้กัน) ระบบไม่มีระบบกำจัดความชื้นอีกด้วย และในบางพื้นที่ที่ไม่มีเครื่องตรวจวัดหรือไม่มีข้อมูลเขาก็จะใช้วิธีการคาดการณ์ปริมาณการกระจายตัวของสารมลพิษ (air dispersion model)
ซึ่งวันก่อนหน้านั้น(13/04/63)พื้นที่ กทม มีฝนตกลงมาทำให้วันรุ่งขึ้นจึงทำให้มีความชื้นสะสมในบรรยากาศอยู่ และพอช่วงสายๆแดดเริ่มมาความชื้นเหล่านี้ก็หายไป
ดังนั้น1 ที่เห็นเป็นสีขาวๆในบรรยากาศเป็นไอน้ำที่อยู่ในบรรยากาศ ไม่ใช่ฝุ่น!!
ดังนั้น2 ในการเสพข้อมูลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจากที่อื่นแล้วก็ลองเอามาเปรียบเทียบกับ App air4thai ด้วยน่าจะดี(แต่air4thai ก็ยังมีข้อจำกัด ที่ไม่ใช่ผลreal time เนื่องจากเป็นกการเก็บตัวอย่าง24 hr. )
โฆษณา