อาถรรพ์ภาพวาดเด็กร้องไห้ที่ทำให้คุณต้องขนหัวลุก
จิตรกรรมภาพวาด…ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนนิยมนำเอามาตกแต่งบ้านจนกลายเป็นสิ่งสามัญทั่วไป แต่ผู้อ่านเชื่อหรือไม่ว่าภาพวาดเหล่านี้ ก็มักจะมีเรื่องลึกลับที่หาคำตอบไม่ได้เกิดขึ้นกับมันอยู่เสมอ โดยหนึ่งในผลงานเหล่านั้นก็คือภาพวาดของเด็กตัวน้อยที่มีสีหน้าโศกเศร้าและกำลังอยู่ในอาการร้องไห้กันอยู่ ซึ่งผู้ที่นำภาพเหล่านี้ไปประดับบ้านก็มักจะต้องประสบเหตุเจอดีกันแทบทุกราย
ตำนานเด็กร้องไห้
ภาพวาดเด็กร้องไห้ (The Crying Boy) ถือเป็นตำนานเมืองที่ค่อนข้างเก่าแก่และยังคงเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมอยู่ในบริเวณประเทศทางแถบยุโรป โดยหลักๆ แล้วอาจแบ่งความเชื่อที่ว่านี้ออกเป็นสองส่วนด้วยกันนั่นคือ
ความเชื่อแรกว่ากันว่า ในอดีตมีผู้พบเห็นเด็กน้อยหน้าตาโศกเศร้าคนหนึ่งกำลังเดินอยู่บนท้องถนนกลางกรุงแมดริด ซึ่งจะด้วยเหตุผลกลใดก็มิอาจทราบได้ เจ้าหนูคนนี้ดันไปหยุดอยู่หน้าบ้านของจิตรกรท่านหนึ่งผู้มีนามว่า จีโอวานนี่ บราโกลิน (Giovanni Bragolin)
.
ด้วยความสงสารจิตรกรจึงได้รับเลี้ยงเด็กคนนี้เอาไว้ โดยที่เพื่อนบ้านของเขาทุกคนต่างก็ทัดทานไม่ให้ จีโอวานนี่ นำเด็กมาเลี้ยง ด้วยเหตุผลที่ว่าเจ้าหนูนี่เคยเห็นพ่อและแม่ของตัวเองตายในกองไฟและทุกๆ ครั้งเวลามีเพลิงไหม้ก็มักจะมีผู้พบเห็นเด็กน้อนคนนี้อยู่ในเหตุการณ์ตลอด
จิตรกรไม่เชื่อคำพูดของเพื่อนบ้านด้วยความคิดว่ามันเป็นเพียงแค่เรื่องไร้สาระ และจัดการรับอุปการะเด็กคนนี้เอาไว้
.
จีโอวานนี่ นำเด็กมาเลี้ยงดูปูเสื่อเป็นอย่างดีและด้วยความที่เจ้าหนูคนนี้มีรูปร่างหน้าตาน่ารัก จิตรกรจึงนิยมวาดรูปของเด็กน้อยคนนี้อยู่เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่งเรื่องราวที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อบ้านของ จีโอวานนี่ ดันเกิดไฟไหม้ขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
.
แต่ที่น่ากลัวก็คือภาพวาดของเด็กคนนี้และตัวเด็กเองกลับไม่ได้รับอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งๆ ที่เด็กคนนี้อยู่ตามลำพังภายในบ้าน ด้วยความโกรธแค้นผสมกับความกลัวว่าตัวเด็กจะเกี่ยวข้องกับซาตาน จิตกรจึงได้ไล่เด็กคนนี้ไป ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีใครได้พบเจอกับเด็กคนนี้อีกเลย
ความเชื่อต่อมานั้นเกิดขึ้นจากกระแสข่าวลือครับว่าตัวจิตกรมักจะใช้วิธีต่างๆ ทำให้เด็กผู้เป็นแบบร้องไห้ ไม่ว่าจะเป็นการตี, หยิก, ทำให้ตกใจ หรือแม้กะทั่งทารุณกรรม
.
ด้วยเหตุนี้เองจึงมีผู้ที่เชื่อว่าเด็กๆ ซึ่งเป็นแบบให้กับภาพต่างพากันสาปแช่งผู้ที่ทำให้พวกเขาต้องเจ็บปวด จนกลายเป็นแรงอาฆาตอย่างรุนแรงและเมื่อใดก็ตามที่มีผู้นำภาพไปแขวนไว้ในบ้านมันก็มักจะเกิดเรื่องขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล
อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ทำให้ทั้งสองความเชื่อเชื่อมโยงเข้าหากันก็คือประเด็นในเรื่องที่ว่า มันมักจะเกิดเพลิงปริศนาขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ได้เสมอ
พอผ่านไปนานวันเข้าจากเสียงเล่าลือมันก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นปรากฏการณ์ที่สร้างความตื่นกลัวให้กลับผู้คนซึ่งครอบครองภาพเหล่านี้
โดยในปี 1985 หนังสือพิมพ์เดอะซันสื่อขนาดยักษ์ของประเทศอังกฤษ ได้ลงบทความพร้อมพาดหัวเอาไว้ว่า “คำสาปเพลิงไหม้ของเด็กร้องไห้”
.
เนื้อหาในข่าวนั้นมีอยู่ว่า รอน และ เมย์ ฮอลล์ ต่างพากันกล่าวโทษภาพพิมพ์รูปเด็กร้องไห้ที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้บ้านซึ่งพวกเขาอาศัยอยู่
.
ทั้งนี้ถึงแม้จะเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นอย่างรุนแรงแต่น่าแปลกครับที่ภาพวาดเด็กร้องไห้กลับไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด
ภายหลังจากที่หนังสือพิมพ์เดอะซันลงพาดหัวข่าวนี้ไปได้เพียงไม่นานก็เริ่มมีผู้คนทยอยส่งเรื่องราวเกี่ยวกับภาพวาดประหลาดนี้มาจากทั่วยุโรป
.
จนมันสร้างความตื่นกลัวให้กับผู้ที่ครอบครองภาพนี้ไม่ใช่น้อย บางคนก็ส่งเรื่องเล่าเข้ามาว่าพวกเขาพยายามที่จะเผารูปภาพเหล่านี้ทิ้งแต่น่าแปลกรูปภาพเหล่านี้กลับไม่เสียหายเลยแม้แต่เล็กน้อย จนเรื่องนี้ค่อยๆ กลายมาเป็นตำนานเล่าอ้างกันอย่างรวดเร็ว
ข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับตำนานดังกล่าว
ตำนานสยองเรื่องนี้จริงแท้แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ประเด็นดังกล่าวยังคงสร้างความสงสัยให้กับผู้คนอย่างกว้างขวาง โดยมีข้อสันนิษฐานซึ่งดูแล้วเป็นไปได้มากที่สุดดังนี้
.
สันนิษฐานที่หนึ่ง: รูปต่างๆ เหล่านี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตำนานต่างๆเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ต้องเผชิญหน้ากับความสยดสยองอย่างหาคำตอบไม่ได้
.
สันนิษฐานที่สอง: แท้จริงแล้วนั้นคำสาปสยองไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าแค่ความประมาทของผู้ที่ต้องเผชิญหน้ากับเคราะห์กรรมดังกล่าวยกตัวอย่างเช่น รอน และ เม ฮอลแลนด์ ที่บริเวณต้นเพลิงนั้นมาจากเตาบาบีคิวของพวกเขา
.
อย่างไรก็ตามเรื่องราวและตำนานเหล่านี้ยังคงเป็นหนึ่งในเรื่องสยองชวนขนหัวลุกสำหรับผู้ที่มีภาพเด็กร้องไห้ต้องสาปเหล่านี้ไว้ในครอบครองและถือเป็นหนึ่งในตำนานเมืองที่ยังคงมีผู้เล่าขานกันมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้
- 10
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
