ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ การล้างแค้นของ แจ็คดอร์สัน
ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ หนุ่มอิตาเลี่ยนผู้มีพรสวรรค์ทางการแสดงอยู่เต็มเปี่ยมเขาเกิดวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1974
เมื่อปีค.ศ. 1990 เขาได้เรียนภาพยนตร์ที่ Mickey’s safety club ด้วยพรสวรรค์การแสดงอันโดดเด่นเขาได้ทาบทามให้เข้าเล่นละครเวทีหลายเรื่อง รวมถึงละครซิตคอม
แต่ภาพยนตร์เรื่องแรกที่ทำให้คนรู้จักเขาคือภาพยนตร์อัตชีวประวัติของ วุล์ฟ ด้วยเขารับบทเป็น โทเบียส วุล์ฟ ในเรื่อง the boy’s life 👦 ร่วมกับนักแสดงแถวหน้าอย่าง โรเบิร์ต เดอ นีโร
ภาพยนตร์เรื่องแรกที่เค้าแสดงและเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์คือเรื่อง what’s eating Gilbert Grape(1993) ด้วยเขาแสดงเป็น อาร์นี เกรป เด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา (บทโหดใช้ได้ตั้งแต่ยังเด็ก) ประกบคู่กับนักแสดงที่เรารู้จักกันดี จอร์นนี เดปป์ (Johny Depp)ที่แสดงนำในบทโจรสลัดนักรักแสนอาภัพเพราะโดนหักหลังจากลูกเรือตัวเองในเรื่อง 🏴☠️ pirates of the Caribbean โดย เดปป์ แสดงเป็น กิลเบอร์ เกรป ซึ่งตอนนั้นลีโออายุเพียง 19 ปีเท่านั้นเอง แต่เขาก็พลาดรางวัลออสก้าสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมไปอย่างน่าเสียดาย
ต่อมาก็พบหนังที่อาจจะนำพาเข้าไปให้เข้ารับรางวัลออสการ์อีกครั้งหนึ่งคือหนังดัดแปลงบทประพันธ์สุดอมตะของ วิลเลียม เช็คสเปียร์ Romeo+Juliet(1998) ในเรื่องเขารับบทนำคู่กับสาวแสนสวยพราวเสน่ห์อย่าง แคลร์ เคนซ์ ที่สวมบท จูเลียตเนื้อเรื่องยังคงต้นฉบับเดิมแต่ปรับให้มาอยู่ในยุคสมัยใหม่เท่านั้นเองกำกับโดย แบร เลอร์แบนน์ ภาพยนตร์นี้ได้รับรางวัลมากมายแต่ลีโอก็ยังชวดเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์อยู่ดี
ในปีค.ศ. 1997 หนังที่ส่งให้เขาดังจนเป็นพลุแตก ไม่มีใครไม่รู้จักชู้รักเรือล่ม ไททานิก เขารับบทเป็นแจ็ค ดอร์สัน หนุ่มรูปหล่อผู้แบกความฝันว่าจะไปขุดทองที่อเมริกาแต่ดันมาหลงรักสาวสูงศักดิ์นามว่าโรส รับบทโดย เคต วินสเล็ต(kate winslet) คู่ขวัญที่ตอนนั้นเคยใครก็อยากเป็นเธอขึ้นเรือคลองแสนแสบยังอยากยืนรับลมที่หัวเรือถึงไม่ใช่ก็ใกล้เคียง แฟนๆลีโอก็เชียร์ใหญ่ว่าบทนี้ดีแน่ๆได้ออสการ์ชัวร์ เรื่องนี้ได้รางวัลออสการ์ไปถึง 11 รางวัลแต่บทดารานำชายยอดเยี่ยมไม่ได้ตกถึงมือลีโอเลย
ลีโอนาร์โด ในบท แจ็ค ใน ไททานิก
บทกินใจแม่ยกขนาดนั้นยังไม่ได้ลีโอนาร์โดจึงหันไปรับบทหิน แสดงถึงสองบทบาทในเรื่องเดียวใน The man in the iron mask เรียกได้ว่าทุ่มสุดตัวแต่ก็ยังโบ๋เบ๋ เลยหนีมาไทยแต่ไม่ได้มาอยู่แต่มาแสดงเรื่องเดอะบีช หนังอื้อฉาวในไทยแนวทิลเลอร์ เรื่องราวกล่าวถึงนักท่องเที่ยวหนุ่มชาวอเมริกามาเสาะหาเกาะสวรรค์ในไทย 🇹🇭 (สงสัยมาเที่ยวฟูมูนปาร์ตี้) แต่หาดสวรรค์กลายเป็นหาดนรกเมื่อผู้คนเริ่มเข่นฆ่ากันเอง...ยังไงทั้งสองเรื่องก็ไม่ได้อะไรเลย
หลังจากนั้นก็แสดงหนังอีกเรื่องสองเรื่องแต่ก็ไม่โด่งดังอะไร จนมาแสดงเรื่อง Catch me if you can(2002) เรื่องที่มีต้นแบบมาจากเรื่องจริงของแล้วนักต้มตุ๋นระดับเซียน แฟรงก์ อบาเนล(Franhk abagnale) ผู้สวมรอยเป็น ทนายความ หมอ นักบิน อีกทั้งปลอมเช็ค โดยประกบคู่กับ ทอม แฮงค์ ในบทนักสืบ FBI ที่ต้องตามจับเขามาเข้าคุกให้ได้ เรื่องนี้มีลุ้นกันทั้งเรื่องจะพอจะได้ๆก็หลุดมือทุกที นักสืบหนุ่มก็ใจดีเหลือเกิน เรื่องนี้ได้ผู้กำกับมือโปรอย่าง สตีเว่น สปิลเบิร์ก แต่ลีโอก็ไม่ได้รางวัลออสการ์กับเขา
The Aviator (2004) ลีโอนาร์โดรับบทเป็น ฮาว เวิร์ด ฮิวล์ มหาเศรษฐีพันล้านและนักบินผาดโผน ผู้มีความฝันและความทะเยอทะยาน ประกบดาราสาว อย่าง เคต บลังเซตต์( cate blanchett)และ เคท เบคคินเซล(kate breckinsale) เรื่องนี้เค้าถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม แต่ก็คว้าน้ำเหลว
หลังจากนั้นก็แสดงอีกหลายเรื่อง เช่น Blood Diamond (2006),The departed(2007),The 11th Hour(2007),Body of Lies(2008),Revolutionary Road(2008),Shutter Island(2010)
ตัดมาเรื่องที่ผมชอบดีกว่า Inception (2010) ผลงานกำกับของ คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) เป็นหนังไซไฟในดวงใจของผมเลยดูแล้วสนุกมากหนังเรื่องนี้นอกจาก CG จะเจ๋งแล้ว เนื้อเรื่องชวนให้ติดตามลีโอนาร์โดเล่นเป็น คอม คอบบ์ หัวหน้าหน่วยจารกรรมข้อมูลจากจิตใต้สำนึกของคนอื่นในช่วงครึ่งหลับครึ่งตื่น ซึ่งเค้าเองก็ต้องหลับเช่นกันเพื่อเข้าไปในความฝันของคนอื่นเมื่อเข้าไปในความฝันต้องแยกให้ออกว่าเรื่องไหนเป็นความฝันเรื่องไหนเป็นเรื่องจริง ทำให้ผมได้รู้จัก”โทเทม”วัตถุที่สามารถแยกว่าอันไหนคือความฝัน อันไหนคือความจริง แต่หนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้เขาได้ออสการ์แต่อย่างใด
ต่อมา2013 เขามาเล่นหนังอีกครั้ง ครั้งนี้รับบทร้ายจอมเจ้าเล่ห์ The wolf of wall street 🎥หนังชีวประวัติอันจัดจ้านของ โบรกเกอร์ จอน์แดน เบลฟอร์ท รับบทโดย ลีโอคนเดิม ผลงานการกำกับของ มาร์ติน สกอร์เซซี(Martin Scorsese)
จอร์แดน เบลฟอร์ท เป็นโบรกเกอร์ผู้ประสบความสำเร็จทางการเงินอย่างสูงในปีค.ศ. 1980 และใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ฟู่ฟ่า จากการโกงเงินในตลาดหุ้น ลีโอนาร์โด ทำได้ดีกับบทนี้มากๆจนทุกคนลุ้นว่าตัองได้รางวัลออสการ์แน่ๆ แต่ก็คว้าน้ำเหลว (สำหรับออสการ์อะนะ) แต่ได้รางวัลจากสถาบันอื่นมาแทน
The wolf of wall street(2013)
และสุดท้าย The Revenant(2015) หนังสุดโหดที่โหดนอกจากจะเป็นบทที่เค้นอารมณ์แล้ว ยังมีการถ่ายทำที่โหดอีกด้วย เพราะนีกแสดงและผู้กำกับต้องไปถ่ายทำในสถานที่จริง คือบนภูเขา และเป็นภูเขาหิมะเสียด้วย สำหรับเรื่องนี้พระเอกของเราโดนหมีตะบบ แล้วเพื่อนก็ปล่อยให้ตายอยู่บนเขา แถมเพื่อนยังฆ่าลูกชายเพียงคนเดียวอีก แค้นนี้ต้องชำระ จากบทเด่นยังกะแสดงเองทั้งเรื่อง แถมทุ่มเทเต็มที่แสดงออกมาได้ดีเยี่ยม คุณได้ไปต่อ รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จาก ออสการ์ไปเลย รางวัลออสการ์ถือว่าเป็นรางวัลสูงสุดของนักแสดงโดยแท้ทรู แต่เราเชื่อว่า น้าลีโอ จะต้องสร้างสรรค์ผลงานดีๆออกมาอีกแน่นอน ไม่แน่นะรางวัลออสการ์ตัวที่2 เราอาจจะได้เห็นเร็วๆนี้ก็เป็นได้
ลีโอ และผู้กำกับต้องทนหนาวตลอดการถ่ายทำ
ติดตามอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
