19 เม.ย. 2020 เวลา 05:37 • ธุรกิจ
ลงทุนข้ามวิกฤต ผ่านแนวคิด "ฮง VI"
-ตลาดหุ้น financial sector
ต่างกับ real sector แตกต่างกัน ตลาดหุ้นเป็นตัวนำเศรษฐกิจ
การหาว่า GDP ลบเท่าไรไม่มีความหมายอะไรในการนั้งอ่านสิ่งนั้น
จากงานวิจัยตัวเลขเฉลี่ยที่อเมริกาถ้าเรารอgpdกลับมาหุ้นขึ้นมาแล้ว25%
คุณฮงบอกว่าไม่มีประโยชน์ที่จะทำ
จากการวิจับของอเมริกาถ้ารอตัวเลขการว่างงานถึงจดสูงสุดค่อยมีสัญญาณกลับตัว หุ้นจะขึ้นมา30%
อย่างปีsubprime crisis
GDPเราเริ่มติดลบไตรมาส 4 ปี 2008
ดัชนีของเราก็ติดลบมากสุดในไตรมาสนั้น
GDP ไตรมาส1ปี 2009ติบลยปีต่อปี7% แต่หุ้นในไตรมาส1นั้นเป็นขาขึ้น
ทั้งปี2009 ลบ2% กว่า แต่ดัชนีหุ้นขึ้น+60%
GDP2009พึ่งจะเป็นบวกในไตรมาสที่4
คุณฮงไม่ได้สนใจติดตามส่งเหล่านี้เพราะมองว่ามันทำให้มีค่าเสียโอกาส
ในการลงทุนเยอะมาก
คุณฮงให้น้ำหนักกับเรื่องอะไร
1.ความถูกแพงของตลาดP/Eตลาด
2.เงินปันผล
3.มูลค่าทางบัญชีตลาด
ไตรมาส 2 คุณฮงก็มองว่าเศรษฐกิจน่าจะติดลบ
มองว่าถ้าไม่มีอะไรเลวร้ายกว่านี้มากๆหุ้นอาจจะถึงจุดต่ำสุดแล้ว
บนสมมุติฐานว่าไม่มีอะไรเลวร้ายกว่านี้เข้ามา
ถ้ามองว่า P/E ตลาดตอนนี้แพง ปีนี้ฐานกำไรมันต่ำผิดปกติ
ถ้ามองผ่านจากตรงนี้ไปแล้วมองกำไรในภาวะหลังจากนี้ น่าจะเหมาะสมกว่า
ถ้าดูจาก P/BV ของตลาดไม่ได้ถูกมากในระยะสั้น
แต่ถ้ามองจากปันผล 4% กว่าไม่ได้เห็นมาหลายปีมากแล้ว
นี่คือ จังหวะลงทุนไหม??
ใช่ แต่ผมไม่รู้นะมันถึงจุดต่ำสุดไหม แค่มองว่าระดับราคาตรงนี้มันถูก
มันลงมาเยอะแล้ว อยู่ตลาดตรงนี้ มันมีความน่าจะเป็นความได้เปรียบที่ดีกว่า
ตอนตลาดติดลบเยอะ
ถ้าหาการลงทุนที่น่าสนใจได้จะเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตได้
ถ้าไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤต คุณอยากมีโอกาสแบบเขา
แต่พออยู่ในวิกฤตจริงๆ คุณดันไม่มีกำลังใจที่จะลงทุน
อาจจะถอดใจผิดจังหวะรึเปล่า
อะไรทำให้คนกลุ่มนึงกล้าลงทุนในช่วงที่คุณอื่นกลัว??
คนที่มั่นใจมาจากการที่เขามีความรู้เยอะ ถ้าเรารู้ว่างบดุลแบบนี้ กระแสเงินสดแบบนี้ กำไรแบบนี้ จากปันผลแบบนี้ บริษัทไม่เจ๊งมันก็เป็นโอกาส
แต่ถ้าเราไม่รู้เราจะเหมือนลูกบอลโดนปั่นให้หัวหมุนจากข่าว
เราต้องเริ่มจากมีความรู้ แล้วศึกษาประวัติศาสตร์ให้มากพอ
ต้องรู้ว่ากลุ่มที่เราจะลงทุนมีโครงสร้างรายได้เป็นอย่างไรบ้าง
ข้อแนะนำของผมคือมองอะไรให้ยาวอย่ามองสั้นๆ
การลงทุนเป็นอะไรที่รอนานคนส่วนใหญ่ไม่ได้อยากจะรออย่างนั้น
ทำให้คนส่วนใหญ่ทำอะไรที่เสี่ยงและมองระยะสั้นมากเกินไป
ต้องมองว่าลงทุนวันนี้เราจะเกษียณได้ในอีกกี่ปีข้างหน้า
หุ้นกลุ่มไหนรอด??
ไม่ควรจะคิดว่าอุตสาหกรรมไหนรอดไม่รอด ใน sector นึงจะมีคนทำธุรกิจ
do or die ตั้งสมมุติฐานในแง่ดีว่าจะขายให้ลูกค้าแบบนั้นแบบนี้ แต่พอวิกฤตจริงๆ บางบริษัทอาจจะไม่มีเงินจ่ายดอกเบี้ยด้วยซ้ำ แต่ในsectorเดียวกันมี
จ่ายปันผลเพิ่มด้วยซ้ำ
ไปดูว่าebitเพียงพอต่อการจ่ายหนี้ไหม และไปดูd/eสูงไหม
บางบริษัทถ้าจะรอดต้องเพิ่มทุน
คุณฮงมองว่าดูที่ตัวผู้บริหารมากกว่า
อย่าไปเหมาดีกว่าต้องเจาะเป็นรายตัวหาตัวที่เก่งและบริหารจัดการเงินอย่างมีสภาพคล่อง อย่างบางบริษัทผู้บริหารผ่านวิกฤตมาแล้ว
เห็นสัญญาไม่ดีก็ขยายงานน้อยลง
สิ่งที่ VIทำช่วงวิกฤต??
ช่วงนี้ก็กลับมาอ่านค่อนข้างเยอะ
ช่วงปีที่แล้วไม่ได้อ่านเรื่องหุ้นแล้ว เดี๋ยวนี้ทำการบ้านหุ้นวันละ 4-5ชั่วโมง
ไม่เท่าแต่ก่อนที่8-9ชั่วโมง
เดี๋ยวนี้อาจจะอ่านมีประสิทธิภาพมากขึ้นเนื่องจากอยู่ในตลาดมานาน
หาหุ้นที่ดูแล้วเก่งกว่าคู่แข่งชัดเจน และroe สูงกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรม
เดียวกันค่อนข้างต่อเนื่อง
วิกฤตsubprime ธุรกิจที่ roeสูงจะกลับมาได้ไว
ต้องไปดูต่อว่าราคาประกอบด้วย
สามารถติดตามได้ที่
โฆษณา