อย่างที่สาม การสื่อสาร จากการส่งเสียงที่ฟังไม่ได้ความนำไปสู่ภาษามือ การทำสัญลักษณ์ จนกระทั่ง "การพูด" ด้วยทักษะการสื่อสาร จึงทำให้มนุษย์ทำงานกันเป็นทีมมากขึ้น อยู่รวมกันเป็น กลุ่ม 1-150 คน(ถ้าเกินนี้จะทำให้ไม่สามารถรวมกลุ่มให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ เพราะจำนวนที่มากเกินไป)
จากที่เล่ามาข้างต้น อาจจะสงสัยว่าเกี่ยวอะไรกับการเปลี่ยนแปลงตนเอง?
คำตอบคือ ความกระหายที่จะไปให้ถึงเป้าหมาย
อย่างแรก ถ้าคุณอยากเปลี่ยนตัวเอง
ให้เริ่มโฟกัสทีละอย่าง
เช่น อยากลดความอ้วน
(พูดกันเยอะมากเรื่องนี้แต่น้อยคนนักจะทำได้ )
เริ่มจากตั้งเป้าหมายง่ายๆก่อน อย่างคุณ น้ำหนัก 70 กิโลกรัม อยากลดเหลือ 49 กิโลกรัม
เริ่มจากสิ่งที่เป็นพื้นฐานที่สุดก่อน(ใช้ได้กับทุกๆเป้าหมายที่คุณจะทำ)
1.เริ่มลงมือทำ (get start) ง่ายเท่าๆนั้นเลย ไม่ว่าจะ ไม่อยากทำ ขี้เกียจ สิ่งสำคัญคือ การลงมือทำครับ
2. ความสม่ำเสมอ (consistency) สิ่งนี้เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ไปถึงเป้าหมาย ไม่ว่าจะเริ่มดีแค่ไหน หรือทำมาเยอะ แต่ถ้าไม่ทำอย่างสม่ำเสมอก็ไร้ความหมาย
3. ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต( change your life style)
การเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ นั่นถือเป็นการเปลี่ยน วิถีชีวิตคุณ ถ้าไม่มีการปรับเปลี่ยนกระบวนการไปสู่แบบใหม่ แล้วคุณจะคาดหวังผลลัพธ์แบบใหม่ได้อย่างไร?ในเมื่อคุณยังทำแต่สิ่งเดิมๆ?
4.สังคม( social) คุณไม่มีทางที่จะบรรลุเป้าหมายแน่นอนถ้าคนรอบข้างคุณ เป็นบุคคลประเภทคนละอุดมการณ์ อย่างคุณอยากเลิกเหล้า แต่เพื่อนคุณชวนทุกวัน คุณก็จะเกิดการลังเลใจ กลัวเพื่อนไม่คบ ไม่ยากครับ ลองอธิบายให้เขาฟังถึงเป้าหมายของคุณดู เขาจะเห็นด้วยหรือไม่ ย่อมไม่เกี่ยวกับคุณ เพราะนี่คือ เป้าหมายส่วนตน ไม่ใช่ส่วนรวม (จำไว้นะครับ คุณคือค่าเฉลี่ยของคน5คนที่คุณ อยู่ใกล้ชิดด้วย คนรอบตัวคุณมีลักษณะแบบไหน คุณก็คล้ายกับเขาแหละครับ)
5. สมองแบบเดิม ผลลัพธ์เดิม สมองแบบใหม่ ผลลัพธ์ใหม่
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมส่งผลต่อเส้นใยประสาทในสมองให้มีการยิงกันมากยิ่งขึ้น นั่นหมายความว่า สมองคุณจะพัฒนาต่อเมื่อคุณทำสิ่งใหม่ๆ การทำแบบเดิมคือการที่สมองได้สร้างเสนใยประสาทแล้วซึ่งทำให้เราทำสิ่งต่างๆได้ง่าย
"ความเคยชิน"นั่นแหละครับ
สุดท้ายนี้ผมขอจบบทความการเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วย