อินโดนีเซียประเทศที่รับมือกับโควิด 19ได้แย่ที่สุดในอาเซียน
สื่อหลายสำนักมีการคาดการณ์ออกมาว่า ประเทศที่รับมือกับโควิด 19แย่มากที่สุดคือประเทศอินโดนีเซีย
อาสาสมัครสวมชุดซุปเปอร์ฮีโร่เดินถือป้ายรณรงค์ต่อต้านการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บนท้องถนนในเมืองมากัสซาร์ จังหวัดสุลาเวสีใต้ ประเทศอินโดนีเซีย
ตอนนี้อินโดนีเซียถือว่าเป็นประเทศที่บอบช้ำ
จากโควิด19มากที่สุดเพราะว่าอัตราการเสียชีวิตจากโควิด 19
สูงที่สุดในอาเซียนและสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก2 เท่าสะท้อนปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์
และชุดตรวจโควิด 19
ตัวเลขผู้ติดเชื้อล่าสุดของอินโดนีเซียแซงหน้าฟิลิปปินส์เเต่ยังเป็นรองสิงคโปร์ที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใกล้เคียงกันห่างกันแค่หลักสิบเท่านั้น
อินโดนีเซียเปิดเผยว่ามีคนติดเชื้อโควิด19เคสแรกคือวันที่2มีนาคมที่ผ่านมา เป็นเคสของแม่ลูก เป็นการเปิดเผยมาไม่นานนี้เอง
แต่ว่าหลังจากนั้น1 เดือน ตอนนี้อินโดนีเซียมียอดผู้ติดเชื้อมากถึง6575 คนแล้ว เสียชีวิต582คน ทำให้ตอนนี้อินโดนีเซียมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในอาเซียนและมีอัตราการเสียชีวิตมากที่สุดในภูมิภาคอีกด้วย ขณะนี้อินโดนีเซียมีเปอร์เซนต์การเสียชีวิตจากโควิด19อยู่ที่9 เปอร์เซนต์น้อยกว่าอิตาลีแค่นิดเดียว
ไปดูเรื่องการรับมือของอินโดนีเซีย ดูเหมือนว่าการรับมือของอินโดนีเซียจะทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ในโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพที่บุคลากรทางแพทย์ต้องใส่ชุดกันฝนที่ราคาถูกต้องนำมาใส่แทนชุดPPEเพื่อป้องกันตัวเองจากโควิด19
อีวาวันกิ แพทย์ประจำโรงพยาบาลรัฐในจาการ์ตาได้มีการพูดถึงปัญหาในการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ของอินโดนีเซีย เพราะในขณะนี้สถานการณ์ในอินโดนีเซียน่าเป็นห่วงมากๆเพราะว่าจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นทำให้อุปกรณ์ไม่เพียงพอที่จะรองรับ
โดยเขาก็เปิดเผยกับสำนักข่าวnikkei asian review บอกว่าหน้ากากN95 หน้ากากอนามัยทางการแพทย์และชุดป้องกันต่างๆที่เก็บไว้ใช้สามารถนำออกมาใช้ได้สำหรับหน่วยฉุกเฉินเท่านั้นเพราะมีจำนวนจำกัด ปัจจุบันโรงพยาบาลที่เขาทำงานอยู่มีอุปกรณืทางการแพทย์อยู่ราวๆ40-60ชุดแต่ว่าความต้องการใช้จริงๆมีมากกว่าเป็นเท่าตัว
ตอนนี้ทางสมาคมการแพทย์ของอินโดนีเซียออกมาเรียกร้องรัฐบาลให้ออกมาคุ้มครองคนที่ต้องทำงานอยู่หน้าด่านทั้งแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ต้องดูแลผู้ติดเชื้อโควิด19อย่างใกล้ชิดโดยที่พวกเขาไม่มีอุปกรณืที่จะป้องกันตัวเอง เพราะว่าขณะนี้มีสมาชิกในสมาคมเสียชีวิตแล้วจากการติดเชื้ออย่างน้อย20 คน ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์อีกเกือบ150 คนในจาการ์ตาก็ติดเชื้อแล้ว
ถึงแม้ว่ารัฐบาลอินโดนีเซียจะบอกว่าตอนนี้มีการแจกจ่ายอุปกรณ์ป้องกันและอุปกรณ์ทางการแพทย์ทั่วประเทศแต่มันยังไม่เพียวพอ หลายๆโรงพยาบาลตอนนี้ในอินโดนีเซียต้องออกมาขอรับบริจาคเองแม้แต่อุปกรณ์ป้องกันพื้นฐานอย่างถุงมือหรือเจลล้างมือยังไม่พอเลย
โรงพยาบาลแห่งหนึ่งมีการโพสต์เปรียบเปรยลงในtwitterว่า made this a war that we can win not a suicide mission หรือแปลว่าทำสงครามให้เราชนะไม่ใช่ให้เราฆ่าตัวตายซะเอง
เดือนรอมฎร การถือศีลอดของมุสลิม
ในอีกทางหนึ่งตอนนี้อินโดนีเซียต้องเผชิญกับแรงงานที่ไปทำงานที่อินโดนีเซียตอนนี้ทยอยกลับบ้านกันต่อเนื่องแล้วก็เดือนที่กำลังจะถึงนี้คือเดือนรอมฎร เป็นเดือนแห่งการถือศีลอดของมุสลิมกำลังจะมาถึงแล้วในเดือนเมษายนนี้
ปกติพอเข้าเดือนรอมฎรชาวมุสลิมก็จะเดินทางกลับบ้านเกิดกันซึ่งแน่นอนว่าจากการคาดการณีปกติจะมีคนเดินทางมาถึง1ล้านคนเลยทีเดียว
มีการคาดการณ์สิ่งทำให้อินโดนีเซียมีจำนวนผู้เสียชีวิตมากขึ้นมาจากการรับมือทางการแพทย์ที่มีความล่าช้าซึ่งถ้าดูการคำนวณทางคณิตศาสตร์ อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อจริงมากถึง1ล้านคนเรียบร้อยแล้วแต่ว่ามีเพียง2 เปอร์เซนต์เท่านั้นที่ตรวจพบ
ซึ่งถ้าหากเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆอินโดนีเซียมีค่าใช้จ่ายเรื่องการลงทุนด้านสาธารณสุขต่ำมากๆ อัตราส่วนของแพทย์ต่อประชาชน 3คนต่อ1หมื่นคน คือประชาชน1 หมื่นคน
มีแพทย์ที่คอยดูแลอยู่3 คนเท่านั้น แต่ถ้าดูตัวเลขที่ไทยเองก็ไม่ได้ต่างกันมาก เพราะไทยมีจำนวนแพทย์8คนต่อ2หมื่นคน (ข้อมูลมาจากWHOหรือองค์การอนามัยโลก)
ตอนนี้อินโดนีเซียมีการปิดการเดินทางจากต่างประเทศเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วเรียบร้อย ส่วนที่ทำงาน ห้างสรรพสินค้าและพื้นที่สาธารณะต่างๆก็ถูกปิดแล้ว
ประธานาธิบดี โจโก วิ โดโด
ด้านของประธานาธิบดีของอินโดนีเซียโจโก วิโดโด ก็ออกมายอมรับผ่านสื่อว่ารัฐบาลไม่ได้เปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวกับอินโดนีเซีย ทั้งหมดต่อสาธารณะเพราะกลัวว่าประชาชนจะตื่นตระหนกเกินเหตุและเขาก็ยังบอกว่าเราจะไปเลียนแบบ
ประเทศอื่นๆก็ไม่ได้เพราะแต่ละประเทศก็มีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกัน
ก่อนหน้านี้อินโดนีเซีย มีมาตรการที่จะหาเกาะล้านคือภูมิประเทศมีหมู่เกาะค่อนข้างเยอะ เขาก็เลยจะปิดเกาะล้านเพื่อที่จะป้องกันโควิด19
ภาพจากกรุงเทพธุรกิจ
ตัวเลขผู้ติดเชื้อในอินโดเนียเซีย
ผู้ติดเชื้อในอินเดียยอดรวมอยู่ที่ 6575คน
เป็นอันดับ2ในอาเซียนในปัจจุบันนี้ แต่ตัวเลขไม่ได้ห่างจากสิงคโปร์ที่เป็นอันดับ1 มากเท่าไหร่ ห่างกันแค่หลัก10 เท่านั้น
ยอดเสียชีวิตมากถึง 582คน
แต่จุดที่น่าสนใจคือ ตัวเลขผู้ติดเชื้อของอินโดนีเซียกับสิงคโปร์ใกล้เคียงกัน แต่ตัวเลขผู้เสียชีวิตของสิงคโปร์แค่11คนเท่านั้น แสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านการแพทย์ของสิงคโปร์อย่างมาก หรือจะแสดงถึงการรับมือที่ประมาทของอินโดนีเซียกันแน่
สาระอัปเดตตลอดเวลา
การกดไลค์ ติดตาม กดแชร์ คอมเมนท์ติชมในเชิงสร้างสรรค์จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เขียนให้มีกำลังใจต่อไปครับ
ทางเพจ อะไรดี มีเพจFacebook สามารถเข้าไปกดติดตามให้กำลังใจกันได้นะครับ
- 14
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
