20 เม.ย. 2020 เวลา 10:29 • การศึกษา
ความเชื่อ
ในสมัยอดีตย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้วผมมีโอกาสได้พูดคุยแรกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ
มัคคนายกท่านหนึ่ง (คุณตาผมเองครับ)ซึ่งผ่านการอุปสมบทมาหลายพรรษาแล้วลาสิกขาออกมาช่วยพ่อแม่ทำมาหากิน
เราสองคนนั่งพูดคุยกันที่หน้าบ้านของมัคคนายกซึ่งอยู่ตรงข้ามกับร้านขายของชำ
ผมนั่งมองไปที่ร้านขายของชำเห็นคนมาจับจ่ายซื้อของมากมายในทันใดนั้นก็เกิดคำถามขึ้นมาในหัวของผม
ผมจึงถามมัคคนายกว่าคนเราเกิดมาทำไหมไม่เหมือนกัน
ท่านมัคคนายกฟังแล้วเงียบไปพักหนึ่ง
ก่อนที่ท่านจะตอบว่า
คนเราที่เกิดมาแล้วไม่เหมือนกันก็เพราะในอดีตชาติแต่ละคนรักษาศีลห้าแต่ละข้อไม่เสมอกัน
ยกตัวอย่างเช่น คนที่สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรงป่วยหลายโรครุมเร้าก็เพราะว่าคนพวกนี้ในอดีตชาติผิดศีลของที่หนึ่งคือห้ามฆ่าสัตว์หรือเอาชีวิตของสัตว์อื่น พวกเขาได้พากันฆ่าสัตว์หรือเอาชีวิตของสัตว์อื่นเป็นว่าเล่น
คนที่ทรัพย์สินหายบ่อย เพราะชอบผิดศีลข้อที่สองคืนห้ามลักขโมยทรัพย์สินของคนอื่น คนพวกนี้ในอดีตชาติชอบลักเล็กขโมยน้อยเป็นอาจิณ
คนที่สามีภรรยาชอบมีชู้ไม่รักเดียวใจเดียว คนพวกนี้ในอดีตชาติชอบผิดศีลข้อที่สามคือห้ามผิดลูกผิดสามีภรรยาคนอื่นแต่พวกเขาก็ทำ ผลการกระทำนั้นจึงมาส่งผลในชาตินี้
คนที่โดนหลอกบ่อย เพราะในอดีตชาติชอบผิดศีลข้อที่สี่คือห้ามพูดโกหกหลอกลวงคนอื่น
คนพวกนี้ชอบพูดโกหกหลอกลวงคนอื่นเป็นอาจิณจึงมาส่งผลในชาตินี้
คนที่เกิดมาสติไม่ดี//สติไม่สมประกอบ คือคนพวกนี้ในอดีตชาติชอบผิดศีลข้อที่ห้าคือชอบดื่มสุราเมรัย (ดื่มน้ำเมา) ผลของกรรม (การกระทำ) จึงมาส่งผลในชาตินี้นั่นเอง
ท่านยังสรุปว่าคนเราเกิดมาได้เพราะผลของกรรม(กรรมดี//กรรมไม่ดี) จะส่งผลให้แต่ละคนไม่เหมือนกันเพราะแต่ละคนมีศีลห้าเท่ากันแต่รักษาได้ไม่เท่ากันนั่นเอง
คนสมัยก่อนชอบพูดเสมอว่า " บุญกรรมนำแต่ง "
ชอบกดไลน์//กดติดตามด้วยนะครับ//ขอบพระคุณมากๆ ครับ
นานาจิตตัง
โฆษณา