21 เม.ย. 2020 เวลา 05:15 • ประวัติศาสตร์
ปริศนาการหายไปอย่างลึกลับของเรือ 'แมรี่เซเลสเต้'
การหายไปอย่างไร้ร่องรอยในท้องทะเลนั้นนับได้ว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่มักจะเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน (ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีการรายงานกันอย่างเป็นกิจจะลักษณะก็ตาม) ซึ่งการหายไปในแต่ละครั้งนั้นมันก็มักจะเกี่ยวพันกับกรณีต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น การถูกโจรสลัดดักปล้น, การขาดแคลนอาหารระหว่างกำลังเดินเรือ (ซึ่งพบได้ค่อนข้างยากถ้าไม่ถึงคราวเคราะห์จริง) และกรณีสุดท้ายนั่นก็คือการหายไปอย่างลึกลับดังเช่น ‘แมรี่เซเลสเต้’ เรือสัญชาติอเมริกัน กับเรื่องราวที่ยังคงเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้
การหายของเรือแมรี่เซเลสเต้
สำหรับเรือแมรี่เซเลสเต้ (Mary Celeste) นั้นมันเป็นเรือสัญชาติอเมริกันที่มีขนาดความใหญ่ถึง 103 ฟุต น้ำหนักรวม 282 ตัน มีกำหนดการสร้างให้แล้วเสร็จราวๆ ปี 1861 แต่ถูกดำเนินการแก้ไขปรับปรุงช่วงปี 1896 ก่อนจะได้รับการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการในภายหลัง
.
อย่างไรก็ตามในวันที่ 7 พฤศจิกายน ปี 1872 เรือแมรี่เซเลสเต้ได้รับมอบหมายให้นำเอทิลแอลกอฮอล์ขนาดบรรจุ 1,701 บาร์เรลออกเดินทางจากนิวยอร์คประเทศสหรัฐอเมริกาไปยังเมืองเจนัวในประเทศอิตาลีโดยมีกัปตัน เบนจามิน บริกก์ (Benjamin Briggs) เป็นผู้ควบคุมเรือพร้อมด้วยผู้โดยสารอีกจำนวนหนึ่ง (อันประกอบไปด้วยโซเฟียผู้เป็นภรรยา ลูกสาววัย 2 ขวบ และลูกเรืออีก 7 คน)และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่มีคนเห็นพวกเขา
เรือที่ถูกค้นพบ
บ่ายของวันที่ 5 ธันวาคมปีเดียวกันบรรดาลูกเรือสัญชาติอังกฤษที่แล่นผ่านมายังหมู่เกาะอะโซร์สก็บังเอิญไปพบเรือลำนี้เข้าในสภาพที่เปียกทั้งลำ (แต่ยังคงสภาพใช้งานได้) ด้วยความสงสัยพวกเขาจึงได้แจ้งไปยังกัปตัน ก่อนจะเข้าไปทำการสำรวจเรือดังกล่าวด้วยความสงสัยว่ามันอาจต้องการความช่วยเหลืออยู่ก็ได้ แต่สิ่งที่พวกเขาต้องประหลาดใจคือเรือลำดังกล่าวกลับไม่มีใครอาศัยอยู่เลยแม้แต่คนเดียว
.
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงจัดการพากันมาสำรวจภายในตัวเรือและต้องพบกับเรื่องอันน่าประหลาดใจเช่น นาฬิกาซึ่งหยุดการทำงานไปแล้วและเข็มทิศอันแปลกประหลาด แต่นั่นยังไม่ทำให้เหล่านักสำรวจรู้สึกพิศวงเท่ากับสภาพข้าวของเครื่องใช้บนเรือซึ่งดูราวกับว่าพึ่งผ่านการใช้งานมาไม่นานนัก บนโต๊ะอาหารยังคงมีขนมปังวางไว้อยู่ ซุปในถ้วยก็ยังร้อน
.
พวกเขาจึงได้ทำการสืบค้นต่อไปจนเข้าถึงตัวห้องของกัปตันที่มีดาบเปื้อนเลือดอยู่ใต้เตียงและบันทึกการเดินเรือซึ่งบางหน้านั้นก็หายสาบสูญไปโดยไม่อาจรู้ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว
จากการสันนิษฐานของผู้ของผู้คนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรือแมรี่เซเลสเต้นั้นหลักๆ แล้วอาจแบ่งได้ 3 ข้อใหญ่ๆ ครับนั่นก็คือ
2
ประการแรก : เอทิลแอลกอฮอล์ที่พวกเขาขนมานั้นมันได้ทำปฏิกริยาบางอย่างจนทำให้สารเคมีชนิดนี้รั่วไหลและทำให้ผู้ซุ่งอยู่บนเรือเกิดอาการประสาทหลอนและหันมาจับอาวุธเพื่อฆ่ากันเอง
.
แต่ข้อสันนิษฐานนี้ก็ยังมีจุดสังเกตอยู่ตรงที่ว่าบนเรือลำนี้ไม่ได้ปรากฏร่องรอยการต่อสู้อยู่แต่อย่างใด
ประการที่สอง: พวกเขาถูกอสูรร้ายจากใต้ท้องทะเลจู่โจม มีบางส่วนนั้นเชื่อว่าเรือของพวกเขาถูกโจมตีโดยสัตว์ร้ายจากใต้ท้องทะเลจนทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่บนเรือต้องถึงแก่ชีวิต
.
แต่ข้อสันนิษฐานนี้ก็ถูกโต้แย้งด้วยเหตุผลว่าตัวเรือไม่ได้มีความเสียหายซึ่งเกิดจากร่องรอยของสัตว์ร้ายประเด็นดังกล่าวจึงเป็นอันตกไป
ประการสุดท้าย: พวกเขาถูกโจรสลัดลักพาตัวเพื่อไปเรียกค่าไถ่จากทางการ โดยหลักฐานที่เห็นได้อย่างเด่นชัดเจนก็คือร่องรอยของเลือดซึ่งปรากฏอยู่บนดาบและพวกเขาทั้งหมดนั้นอาจถูกฆ่าพร้อมกับโยนทิ้งลงทะเลไปเรียบร้อย
.
แต่สิ่งที่น่าประหลาดก็คือทรัพย์สินต่างๆ ของพวกเขายังคงอยู่บนเรือราวกับไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น
จากเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นจึงทำให้ชื่อของเรือแมรี่เซเลสเต้กลายเป็นหนึ่งในตำนานของอาถรรพ์ไม่ต่างอะไรจาก ฟลายอิ้ง ดัทช์แมน และส่งผลให้เรื่องดังกล่าวยังคงเป็นหนึ่งในปริศนาที่ดำมืดมาจนถึงทุกวันนี้

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา