[Motivator - Kru Bub Yogaholic (ครู บั๊บ โยคะฮอลิค)] เงินทองไม่ใช่ทุกสิ่ง ... มันแค่อำนวยความสะดวกในชีวิต เพื่อนๆที่กินเงินเดือน ไม่มีใครอยากถูกลดหรอก

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

Motivator - Kru Bub Yogaholic (ครู บั๊บ โยคะฮอลิค)

•

21 เม.ย. 2020 เวลา 02:19 • ธุรกิจ

เงินทองไม่ใช่ทุกสิ่ง ... มันแค่อำนวยความสะดวกในชีวิต

เพื่อนๆที่กินเงินเดือน ไม่มีใครอยากถูกลดหรอก

จากมุมมองของนายจ้าง - ลองอ่านดูนะครับ

ปัญหามีไว้ให้แก้ - ทุกปัญหาย่อมมีทางออก - ปัญหายิ่งยากยิ่งมันส์ ครับ

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา ผมซึ่งดำรงตำแหน่ง VP, Finance and Operations (อยู่เชียงใหม่) และพี่สาวผมซึ่งดำรงตำแหน่ง Managing Director (อยู่ USA) ได้เรียกประชุมบริษัทผ่าน googleMeet

เรื่องประกาศลดเงินเดือน และ ขอความร่วมมือพนักงานเซ็นใบยินยอม

เมื่อวาน (20 เมษายน) ทางผมและพี่สาวเรียกประชุมใหญ่อีกรอบ แจ้งพนักงานว่าเดือนนี้จะยังไม่มีการลดเงินเดือน ... อุ่นใจได้ แต่อย่าเพิ่งฟุ่มเฟือย เพราะเดือนหน้ายังไม่รู้ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร

งง ใช่ไหมครับ ... ทำไมแจ้งแล้ว เซ็นกันแล้ว ลดได้แล้ว ... แต่ไม่ลด

"ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวของเราครับ และขอบคุณที่มอบโอกาสให้ บริษัท เป็นส่วนนึงของชีวิตคุณครับ" คือคำพูดที่ผมจะบอกพี่ๆน้องๆ (พนักงาน) ทุกคนเสมอ

เมื่อมองว่าทุกคนคือพี่น้องของเรา เราจะต้อง fair (ยุติธรรม) กับเค้าครับ

บริษัทผม (สืบทอดจากพ่อแม่) นำเข้าเครื่องมือแพทย์จาก USA, Germany, Korea, Malaysia, Austria, ... ของดีมีคุณภาพ ผ่าน อย หมด ... ไม่ใช่มีดผ่าตัด หรือ รถเข็น ... แต่เป็นพวกเครื่อง และ น้ำยาวิเคราะห์ตรวจหาสารในเลือด ที่ใช้ในห้อง lab เป็นส่วนใหญ่ครับ

อาจเพราะเหตุผลนี้ ผมจึงสนใจเรื่องสุขภาพมากครับ

ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ยอดขายบริษัท ตก

ยอดการเก็บเงิน ตก

ผมเครียดแบบไม่สบาย ทานยา หลับตั้งแต่ 1 ทุ่มตื่น 8 โมงเช้าเลยครับ

การลดเงินเดือนทุกคน 20% ช่วยบริษัทได้อย่างแน่นอน

ตามหลักบัญชี เงินเดือน คือ expense/รายจ่าย ที่แทบจะสูงที่สุดในทุกบริษัท

ถ้าเล่นหุ้น สังเกตุดู การลดพนักงานมักจะทำให้หุ้นพุ่งทยาน โดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม Dow Jones ของเมกา

ผมและพี่สาว agreed

1) ว่าพี่ๆน้องๆที่เงินเดือนน้อย จะลำบากที่สุด

2) พนักงานหลายคนน่าจะเข้าใจ แต่คงไม่พอใจ

3) เราต้อง fair กับทุกคน

และนี่คือคำตอบ ทางออกสำหรับ บริษัท และ พี่ๆน้องๆที่ให้ บริษัท เป็นส่วนนึงของชีวิตเค้าครับ

1) บริษัท จะดูยอดเก็บเงิน ระหว่างวันที่ 21 มีนาคม ถึง 20 เมษายน ว่าถึง 90% ของ x.xxล้าน หรือไม่

2) x.xxล้าน มาจาก average ยอดการเก็บเงิน 6 เดือนย้อนหลัง

3) ถ้าไม่ถึง 90%

- เงินเดือน น้อยกว่า 20,000 จะลด 10%

- 20,001 - 40,000 จะลด 15%

- 40,001 ขึ้นไป จะลด 20%

4) ในกรณีที่เกิดการลด ... เดือนถัดๆไป ถ้าเก็บได้ มากกว่า x.xxล้าน × 1.10 (เพิ่ม 10% จาก avarage) ทาง บริษัท จะไม่ตัดเงินเดือนและจะคืนเงินเดือนที่เคยหักไว้

พนักงานทุกคนรู้ว่า

1) บริษัทมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ดอกเบี้ยธนาคาร, ออกของ, ค่าขนส่ง, ค่าสินค้า, ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ

2) ทุกคนรู้ว่าไม่ได้ถูกเอาเปรียบ

3) ทุกคนเชื่อมั้นใจศักยภาพของทีมและเพื่อนร่วมงาน และมั้นใจว่าถึงจะถูกหัก แต่วันนึงก็จะได้คืน .... ถ้าทุกคนช่วยกันทำงาน

นี่คือวิธีที่ผมและพี่สาวผมรับมือวิกฤตินี้นะครับ

บริษัทอื่นๆคงเผชิญปัญหาเช่นเดียวกัน วิธีรับมือก็คงต่างกันออกไป

บางบริษัทอาจเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส ในการลดพนักงาน หรือ หักค่าจ้างเพื่อไปลดดอกเบี้ย ... มองจากด้านธุรกิจก็มีเหตุมีผล ... แต่ถ้า manage ได้ ...ก็ไม่ควรเอาความเป็นอยู่ของพนักงานมากินประโยชน์ตรงนี้

บริษัท ผมเป็นบริษัทเล็ก ความใกล้ชิด เห็นอกเห็นใจ รู้จักกันไปถึงพ่อ แม่ ลูก สามี ภรรยา เจ็บไข้ได้ป่วย ... เข้าถึงกันได้หมด ซึ่งเป็นดาบสองคม ... แต่มันก็คือ culture

และเมื่อวันที่ 10 มีนาคม (ขนาดการเงินอ่อนแอ) ทางผมและพี่สาว ได้อนุมัติให้ซื้อประกัน covid19 ให้พนักงานทุกคนรวมถึงลูกๆ ด้วย ---- ตรวจเจอรับ 100,000 เสียชีวิต 1,000,000

สุดท้ายนี้ :

นี่คือความเห็นส่วนบุคคล ที่ลองลงมือใช้ และได้เสียงตอบรับที่ไม่ขี้เหร่ และ ไปในทิศทางบวก

เงินทอง คือของนอกกาย มันแค่อำนวยความสะดวกให้แก่ชีวิต

เราจ้างพนักงานมาทำงาน ไม่ใช่ทำงาน"หนัก"

จะ back office หรือ front office ทุกฝ่ายคือแขนซ้ายและขวาของ บริษัท จะขาดข้างใดข้างหนึ่งไม่ได้

เราต้อง fair ครับ และ ถ้ารักลูกน้องจริง เรายิ่งต้อง fair ครับ

Namaste นมัสเตย์ ครับ

-- -- -- -- -- -- -- -- -- -- ⠀⠀⠀⠀⠀⠀

Follow me on socia media:

Instagram : Kru.Bub.Yogaholic

(http://www.instagram.com/kru.bub.yogaholic)

Facebook : Kru Bub Yogaholic (http://www.facebook.com/KruBubble)