บทความตามใจฉัน “Game Boy: Nintendo New Kingdom” Part 1
หลังจากที่ FC ประสบความสำเร็จในปี 1983 และ NES(Famicom USA Ver) ในปี1985 แล้ว
Nintendo จึงเริ่มมองหาช่องทางขยายตลาดเครื่องเล่นเกมของตนเองออกไปอีก
และด้วยเหตุใดก็ไม่มีใครทราบ แต่ Nintendo ได้เกิดไอเดียที่ว่า
ทำไมไม่ทำเครื่องเล่นเกมที่พกพาไปเล่นที่ไหนก็ได้ด้วยละ
นี่กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอุตสาหกรรมเครื่องเล่นเกม
ทำให้เกิดตลาดใหม่ที่ชื่อว่าเครื่องเล่นเกมพกพาขึ้น
เรื่องราวการกำเนิดเครื่องเล่นเกมพกพาที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักทั่วโลก
จนเป็นตำนานและกลายเป็นอาณาจักรที่สำคัญที่สุดของ Nintendo
ในอนาคต
จุดเริ่มต้นที่ Nintendo คิดจะสร้าง Game Boy นั้นไม่มีข้อมูลว่าเพราะเหตุใดและถึงมีข้อมูลก็ค่อนข้างคลุมเครือ
บ้างก็ว่า Nintendo ต้องการอะไรบางอย่างมาอุดช่องว่างระหว่างที่กำลังพัฒนา SNES อยู่
บ้างก็ว่า Nintendo ต้องการต่อยอดเครื่องเล่นเกมมือถือ Game & Watch ของตน
บ้างก็ว่า Nintendo เห็นข้อจำกัดที่จะเล่นเกมได้ก็ต่อเมื่ออยู่ที่บ้านหรือร้านเกมเท่านั้นจึงต้องการสร้างเครื่องเกมคอนโซลที่พกพาไปเล่นนอกบ้านได้เพื่อขยายตลาดออกไปอีก
สิ่งที่แหล่งข้อมูลพูดตรงกันคือโครงการ Game Boy นั้น เกิดจากการที่ กุนเป โยโคย (ผลงานเด่นคือการสร้าง D-pad )
ต้องการที่จะต่อยอด Game & Watch ให้เป็นเครื่องเกมคอนโซลแบบพกพาได้ จึงนำเสนอโครงการนี้แก่ Nintendo
โครงการได้รับการอนุมัติโดยให้ กุนเป โยโคย รับหน้าที่ออกแบบ Hardware
ในขั้นตอนการพัฒนานั้น Game Boy ได้รับโค้ดเนมว่า “Dot Matrix Game” ซึ่งต่อมาถูกย่อเหลือ DMG และรหัสนี้ถูกนำไปใช้เป็นรหัสรุ่นอย่างเป็นทางการในภายหลัง โดยช่วงเริ่มโปรเจคนั้นการตอบรับต่อโครงการ Game Boy ภายใน Nintendo เองอยู่ในระดับย่ำแย่มาก ไม่มีใครที่เชื่อว่ามันจะสำเร็จได้เลย ทำให้รหัส “DMG” ถูกเหล่าพนักงานเรียกด้วยชื่อเล่นว่า “DaMeGame” ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า “เกมไม่ได้เรื่อง” หรือ “เกมนี้ไม่ไหวหรอก”
จุดเด่นด้านการออกแบบของ Game boy นั้นมีอยู่ 2 จุด
1. การจัดวางหน้าจอและปุ่มบังคับให้ผู้เลยจับเครื่องเกมในแนวตั้ง ผิดกับที่ Game & Watch และเครื่องเกมพกพาของคู่แข่งที่ออกตามมาทีหลัง แต่การจับแบบนี้กลับช่วยในการประคองน้ำหนักของตัวเครื่องได้ดีกว่าแนวนอน อีกทั้งยังช่วยให้นิ้วที่ควบคุมปุ่มต่าง ๆ อยู่พ้นจากสายตาที่กำลังมองจอได้ดีกว่า ผู้อ่านสามารถเปรียบเทียบได้ด้วยตัวเองกับ Smart Phone ของตนระหว่างการจับแบบแนวนอนกับแนวตั้งด้วยสองมือ
2. การจัดวางปุ่มบังคับซึ่งเล่นมุกง่ายแต่ได้ผลอย่างยิ่ง โดยกุนเปได้ยกเอาจอยของ NES ที่ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมอย่างมากมาผนวกเข้าไปกับตัวเครื่องโดยลดระยะห่างในแนวกว้างของปุ่มลงเพื่อให้พอดีกับความกว้างของเครื่องและปรับตำแหน่งของปุ่มให้ปุ่ม select และ start เลื่อนลงมาข้างล่างส่วนปุ่ม A เลื่อนขึ้นข้างบนให้สูงกว่าปุ่ม B ครึ่งช่วงปุ่มเพื่อให้ผู้เล่นเลือกปุ่มที่จะกดได้โดยการหมุนของโคนนิ้วโป้ง ไม่ต้องยืดนิ้วโป้งไปกดปุ่ม
วิธีการนี้ช่วยให้ผู้เล่นที่คุ้นเคยกับ NES อยู่แล้วสามารถเข้าใจวิธีการควบคุมของ Game Boy ได้ในทันทีโดยแทบไม่ต้องเรียนรู้เพิ่ม
Game Boy พัฒนาเสร็จสิ้นและออกวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน
1989 ที่ญี่ปุ่นและเริ่มวางจำหน่ายในอเมริกาเมื่อเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน ราคาขายที่อเมริกาอยู่ที่ 89.95 USD
แต่ดูเหมือนว่าแนวคิดเรื่องเครื่องเกมคอนโซลแบบพกพาได้นั้น ไม่ใช่แค่ฝั่ง Nintendo เท่านั้นที่คิดได้
Atari ได้ออกวางจำหน่ายเครื่องเล่นเกมแบบพกพาได้ของตนเองชื่อ Atari Lynx ในเดือนพฤศจิกายน 1989
ต่อมา Sega เองก็ได้ออกเครื่องเล่นเกมแบบพกพาได้ของตนมาช่วงชิงตลาดเช่นกัน โดยในเดือนตุลาคม 1990 Sega Game Gear ก็ออกสู่ตลาดที่ญี่ปุ่นและเดือนเมษายน 1991 ก็วางจำหน่ายในอเมริกา
สภาพของ Game Boy ตอนนี้เหมือนกระต่ายที่ถูกขนาบด้วยเสือ 2 ตัว
Game Boy เป็นแค่เครื่องเกม 8 bit ขณะที่คู่แข่งที่กล่าวมาเป็นเครื่อง 16 bit
Game Boy มีจอ Monochrome แสดงผลได้แค่สีเขียว, เทา, ดำ ขณะที่คู่แข่งมีจอสี
ถ้าเทียบสเปกกันแล้ว Game Boy แทบไม่มีอะไรไปสู้คู่แข่งได้เลย
to be continued in Part 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
