21 เม.ย. 2020 เวลา 04:06 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
จากปรากฎการณ์ (ไม่ใช่ราคา WTI ร่วงนะ เดี๋ยวไว้มาคุยกันครับ)
คำบ่นปรสงสัยเรื่องค่าไฟฟ้า จนเมื่อวานเจ้ากระทรวงพลังงานมาออกมาตรการด้านไฟฟ้า
ซึ่งเป็นเฉพาะบ้านอยู่อาศัย จากการแบ่งประเภทผู็ใช้ไฟทั้งหมด 8ประเภท (ตามรูป)
ภาพ. กฟน.
แถลงการณ์ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เมื่อเย็นวันที่ 20 เม.ย. 2563 นี้ สรุปได้ดังนี้ครับ
1. บ้านพักอาศัย ผู้ใช้ไฟประเภท 1.1 (มิเตอร์ 5 แอมป์) ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเดือนละ 150 หน่วย ปรับจำนวนไฟฟ้าฟรีเพิ่มขึ้นจากมาตรการเดิมที่ฟรี 90 หน่วย เป็นฟรีถึง 150 หน่วย
2. บ้านพักอาศัย ผู้ใช้ไฟประเภท 1.2 ให้ส่วนลดค่าไฟในเดือน มี.ค.-พ.ค. โดยเทียบกับค่าไฟเดือน ก.พ. ดังนี้
- ใช้ไฟไม่เกิน 800 หน่วย ส่วนเพิ่มจากเดือน ก.พ.ใช้ฟรี
- ใช้ไฟตั้งแต่ 800 - 3000 หน่วย ส่วนเพิ่มจากเดือน ก.พ. ให้ส่วนลด 50%
- ใช้ไฟมากกว่า 3000 หน่วย ส่วนเพิ่มจากเดือน ก.พ. ให้ส่วนลด 30%
--โดยส่วนลดทั้งหมดจะคิดเป็นจำนวนหน่วยที่หักออกจากที่ใช้จริงในเดือนนั้นๆ แล้วนำหน่วยใช้ไฟที่หักส่วนลดนี้แล้วไปคิดค่าไฟฟ้า--
เรามาลองคิดกันเล่นๆ ว่าจะเกิดอะไรบ้าง....จากนโยบายไฟฟ้าส่วนลดพิเศษ
..
1. จะเกิดปรากฏการณ์คือ...
เดือนกพ ใช้ 500 หน่วย
เดือน มีค ใช้ 480 ...อดเงินสิทธิพิเศษ
เดือน เมย กดเต็มที่(เครื่องใช้ไฟฟ้าเท่าเดิม) ได้ 799 หน่วย เกินเดือน เกินมา 299 หน่วย ฟรีรรรรรร
ถ้าไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่ม...(ซื้อใหม่ไม่ทัน 55)
ก็เลยไปเปิดแอร์......สมมติมีแอร์ 1 เครื่อง 3000 วัตต์ เปิด 1 ชม คือเท่ากับค่าไฟฟ้า 3 kWh เปิดเพิ่มจากเดิม8 ชม เป็น 12 ชม เท่ากับเพิ่มวันละ 4 ชม *3 หน่วย = 12 หน่วยต่อวันที่เพิ่มขึ้น
มีทุนในมือคือ 299 หน่วย ดังนั้นพฤติกรรมเปิดแอร์แบบนี้ทำได้ราว 24 วัน (299/12)
ทีนี้ถ้าเพลินล่ะก็เกิน 800 หน่วยแน่ๆ แม้จะได้ส่วนลดหน่วยที่ 801 ที่ลด 50% ก็ตาม (กรณีไม่เกิน 3,000 หน่วย)
ดังนั้นค่าไฟฟ้าคุณก็เพิ่มขึ้นอยู่ดี
วิเคราะห์นโยบายนี้
--มีความช่วยให้คนบรรเทาความร้อนจากสภาพอากาศ
---แต่ก็มีความเสี่ยงในการใช้ไม่ประหยัด จนทำให้รู้ตัวอีกทีการใช้ไฟก็ทะลุ 800 หน่วยไปแล้ว
----ยกตัวอย่างแค่แอร์ 1 เครื่องที่กินไฟเยอะอันดับต้นๆ และอุณหภูมิภายนอกยังไม่ทะลุเดือด ไม่งั้นจะมีปัจจัยการทำงานของคอมเพรสเซอร์เข้ามาเกี่ยวข้องอีก
2. สิ่งที่ตามมาคือพีคไฟฟ้าที่อาจจะสูงขึ้นจากคาดการณ์เดิม... ซึ่งกระทบอะไรไหม แน่นอนกำลังผลิตไฟฟ้าพออยู่แล้ว แต่เชื้อเพลิงที่จะนำมาใช้ผลิตไฟฟ้าคงต้องอัดเต็มที่
ทั้งนี้เงื่อนไขยังคงเดิมคือกลุ่ม พวกจำเป็นต้องซื้อตามนโยบาย เช่น พลังงานทดแทนต่างๆ กลุ่มผูกมัดตามสัญญา
กลุ่มจำเป็นต้องเดินเครื่อง อันนี้ชั่วๆ เช่นในพื้นที่เขตเมือง เพื่อป้องกันโหลดไฟฟ้าไม่ให้ขาด
และกลุ่มสุดท้ายคือตามต้นทุนการผลิตไฟฟ้า
ซึ่งก็จะกลายเป็นการผสมผสานกลายเป็นค่า Ft หรือค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ ซึ่งเดือนก่อนๆ เป็นส่วนลดราว 11 สตางค์ อาจปรับเปลี่ยนไปในอนาคต
3. เอาเงินที่ไหนมาอุดหนุนนโยบายนี้ล่ะ???
ก็พอมีอยู่ เช่น เงินจากกองทุนรอบโรงไฟฟ้าที่ผู้ผลิตไฟฟ้าแต่ละประเภทนำส่งให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานที่ 1-2 สตางค์ต่อหน่วยการผลิตไฟฟ้า
ภาพตัวอย่างจากเพจน้องปอสาม
ส่วนตัว ถือว่านโยบายนี้ต้องชม ในความไอเดียกระฉูดของท่านจริงๆ
แต่ก็มีคมดาบที่สองที่ต้องระวังเรื่องของการใช้เงินกองทุน/การไม่ประหยัด...
รวมทั้งการสื่อความนโยบายนี้ให้ชัด เพราะผมยังคงคาใจตัวเลขเมจิก 800 หน่วยอยู่ครับ..
แต่ยังไงก็ตามอากาศร้อนจริงๆครับ ยังไงก็ใช้พลังงานอย่างคุ้มค่ามีประสิทธิภาพกันดีที่สุด
โฆษณา