จักกล่าวพรรณมะม่วง ท่านทั้งปวงจงรู้ความ
มะม่วงเมืองสยาม จะนับนามเอนกนัก
จะจัดที่จำได้ พอคนไทยแจ้งประจักษ์
มีหลากโดยเลสลักษณ์ ประเภทพรรคอัมพาผล
'พิมเสน’มีดาดื่น เปนภาคพื้นทุกตำบล
รู้จักแทบทุกคน ยังประดน'พิมเสนมัน'
'หมอนทอง' 'อกร่อง'รส หวานปรากฏรสสวรรค์
แมวเซามีสองพรรณ 'แมวเซาขาว' 'แมวเซาดำ'
'พรวนขอ'อีก'พรวนควาย' แก้วๆกลายมีประจำ
'ควันเทียน'แล'ทองดำ' 'มลิอ่อง' 'ทองปลายแขน'
'น้ำตาลปากกระบอก' ขานนามออกทุกดินแดน
มะม่วงนาย'ขุนแผน' ปลูกเมื่อทัพกลับคืนมา
'การเกด'อีก'ไข่ไก่' 'ทุเรียนใหญ่' 'สังขยา'
'ลิงโลด' 'มลิลา' 'แก้วลืมรัง' 'หนังกลางวัน'
'กระสวย'รสสนิธ 'อินทรชิต' 'ทศกรรฐ์'
'แขนอ่อน'อีก'นวนจันทร์' 'น้ำตาลจีน' 'เทพรำจวน'
'ไข่เหี้ย' 'ไข่นกกระสา' 'กะล่อนป่า' 'กะล่อนสวน'
อีก'สาวละห้อย'หวน 'สาวสกิดมารดา'ดู
มะม่วง'เทพรำลึก' 'แขกขายตึก'อีก'คราบหมู'
'กะละแม'มีช่อชู หนึ่งชื่อว่า'ชาละวัน'
มะม่วง'พราหมณ์ขายเมีย'นี้ ดูท่วงทีรสขยัน
เมียรักดังชีวัน ยังสู้ขายจ่ายอำพา
มะม่วง'สาวกระทืบหอ' นี่ก็ส่อรสโอชา
สาวอยากจะโภชา จนโกรธากระทืบเรือน
มะม่วง'พิมสวรรค์' ชื่อทั้งนั้นไม่มีเหมือน
ล่วงชั้นตวันเดือน ถึงสวรรค์ชั้นวิมาน
มะม่วงชื่อ'รำพึง' คนคนึงด้วยรสหวาน
ม่วง'เศียรคชสาร' อีก'หัวป้าน'มะม่วง'เนย'
'กระแตลืมรัง'เรียก โดยสำเหนียกกันตามเคย
'ค้างคาวลืมลูก'เลย หลงกินเพลินเนิ่นนานวัน
'ทองขาว' 'ทองดำ'ดู ขึ้นเป็นคู่แข่งเคียงกัน
'แก้วขาว' 'แก้วดำ'ปัน เปนระยะคละกันไป
'สุวรรณหงส์'เห็น แต่เขาเล่นละคอนไทย
เปนม่วงเสียเมื่อไร อยากใคร่รู้ดู'หงสทอง'
'โสนน้อย' 'ผอบนาก' 'เจ้าเงาะ'หลากเพื่อนทั้งผอง
'กระบุ่ม' 'กระเบา'ปอง เป็นเหมือน'เงาะ'เยาะ'รจนา'
มะม่วงชื่อ'การเวก' นามนกเอก ในเวหา
'หอยแครง' แล'แตงกวา' 'หัวกิ้งก่า' 'เหนียงนกกระทุง'
'คิ้วนาง' ดูน่ากิน 'เทพสิน' เหมือนชื่อกรุง
แลเห็น เปนหมู่มุง ม่วง'สาวน้อย' เยี่ยมห้องหวน
'หัวโต' 'ต้นต่ำเตี้ย' 'ผัวตีเมีย' ร้องไห้ครวญ
'สาวน้อย' สีน้ำนวล 'สาวรัญจวน' 'สาวสวรรค์'
มะม่วง 'ผัวพรากเมีย' คิดน่าเสีย ใจครันครัน
'แก้ว'พราก แม่จากกัน รสสำคัญ เห็นรุนแรง
'สาริกาลืมรัง'อยู่ 'วัดวัง'คู่กับ'แก้มแดง'
มะม่วง'กระแอม'แฝง มะม่วง'แฟบ' แอบพุดไทย
'สาวตบอุรา'ร่ำ ด้วยระกำ จะจำไกล
จากม่วง ของชอบใจ ตบอุรา น่าสงสาร
'มะตูม' อีก'ตับเป็ด' หวานมันเด็ด ดุจน้ำตาล
'อ้ายฮวบใหญ่' ใครไม่ปาน สับ'สำปั้น' 'น้ำตาลทราย'
มะม่วง 'เขียวสะอาด' กำเนิดชาติ 'พิมเสนกลาย'
มะม่วง 'กระจิบลาย' อีกม่วง'ล่า' หมาไม่แล
ม่วง'สาวกระทืบยอด' เดิมนางรอด บุตรตาแห
เดินไป ไม่ทันแล เหยียบม่วงเล็ก เด็กว่าขาน
ม่วงนั้น ครั้นใหญ่มา ดกระย้า ใครจะปาน
จึงตั้ง นามขนาน กระทืบยอด รอดบาทา
มะม่วง 'มะละลอ' 'สาเก'ก่อ เปนสมญา
'เทพรส' รสโอชา อัมพาดื่น พื้นดินดอน
เหลือจะ ร่ำไห้สุด ชื่อสมมุต นามกร
นักเรียน พึ่งแรกสอน อ่านกลอนเล่นเป็นสำราญ