21 เม.ย. 2020 เวลา 07:05 • กีฬา
LUNA SANDALS : รองเท้าแตะแบบชนเผ่าที่ว่ากันว่าใส่วิ่ง 50 กิโลเมตรได้สบาย
1
ว่ากันว่าแฟชั่นคือสิ่งที่เดินทางกันเป็นวงกลม ไม่มีสไตล์ไหนที่ตกยุคไปตลอดกาลเพราะเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมแล้วสิ่งนั้นจะกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งได้อย่างน่าประหลาด
1
นี่คือเรื่องราวของรองเท้าแตะที่ใส่แล้วรู้สึกเหมือนเดินเท้าเปล่า อุปกรณ์ที่ใช้นั้นมีน้อยชิ้นมากทว่ากลับสามารถใส่วิ่งได้ดีไม่แพ้รองเท้าจากนวัตกรรมสมัยใหม่ โดยต้นแบบนั้นมาจากรองเท้าของชนเผ่าในเม็กซิโกที่สามารถวิ่งได้เป็นพันๆ กิโลเมตรตั้งแต่ยุคโบราณ
ภายใต้การเรียนรู้และการสร้างขึ้นใหม่โดยอิงจากวัฒนธรรมเก่า รองเท้าอเนกประสงค์นามว่า Luna Sandals สามารถทำสิ่งใดได้บ้าง?
ติดตามได้ที่นี่
แฟชั่นย้อนกลับของรองเท้าวิ่ง
หลังจากผ่านเข้าสู่ยุคปี 2010 เป็นต้นมาตลาดรองเท้าวิ่งเติบโตขึ้นมาก หลายแบรนด์ใหญ่หันมาตั้งใจผลิตรองเท้าที่ตอบโจทย์ทั้งนักวิ่งอาชีพและนักวิ่งสมัครเลยโดยเฉพาะ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วพวกเขาเน้นไปที่พื้นรองเท้าที่สามารถซึมซับแรงกระแทกได้ดี ทำให้ผู้สวมใส่วิ่งได้ไกลและนานขึ้น
Photo : www.irishtimes.com
การแข่งขันในตลาดดังกล่าวทำให้มีการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมามากมาย อย่างแบรนด์อเมริกันที่ว่ากันว่าเป็น "เบอร์ 1 ของโลก" อย่าง Nike ก็สร้างเทคโนโลยี Air ออกมา ซึ่งจุดเด่นคือการอัดอากาศใส่เข้าไปในพื้นรองเท้า รวมถึง ZoomX ที่ทำจากโฟมซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ ส่วน adidas แบรนด์คู่แข่งจากเยอรมันก็ปล่อยซีรี่ส์ Boost ที่ใส่ "Energy Capsule" หรือเม็ดโฟมที่มีส่วนประกอบของพลาสติกในพื้นรองเท้าก่อนจะพัฒนาเป็นเปลี่ยนมาใช้ TPU (Thermoplastic Polyurethane) แทนเม็ดพลาสติกแบบเดิมโดยมีจุดมุ่งหมายให้ทนต่อการกระแทกได้ดียิ่งขึ้นไปอีก
1
อย่างไรก็ตามรองเท้าแบรนด์อเมริกันอีกเจ้าที่ชื่อว่า Luna ที่ก่อตั้งในปี 2010 โดย เท็ด แม็คโดนัลด์ กลับทำในสิ่งที่สวนกระแสด้วยการผลิตรองเท้าที่สามารถใช้วิ่งและออกลุยได้ทุกสถานการณ์และสภาพพื้นผิว ฟังตรงนี้อาจจะไม่แปลก ทว่าสิ่งที่แปลกกว่าเจ้าอื่นๆ คือ Luna ไม่ได้ใช้นวัตกรรมอัดอากาศหรือเม็ดพลาสติกแต่อย่างใด พวกเขาเลือกที่จะย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 100 ปีก่อนที่มีชนเผ่าหนึ่งใส่รองเท้าที่ผลิตเองจากภูมิปัญญาท้องถิ่นแต่กลับสามารถวิ่งได้ดี วิ่งได้ไกลจนกลายเป็นชนเผ่าที่ได้ชื่อว่า "เป็นสุดยอดนักวิ่งอันดับ 1 ของโลก"
1
ตัวของซีอีโออย่าง แม็คโดนัลด์ นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากปี 2006 ที่เขาไปเที่ยวเม็กซิโกและอยู่, กิน, วิ่ง กับเผ่า ทาราอูมาร่า มันทำให้เขาถูกใจกับรองเท้าของชาวเผ่านี้มาก หลังจากที่เพื่อนของเขาที่ชื่อว่า "มานูเอล ลูน่า" ทำมันให้กับเขา แม้จะยอดเยี่ยมแล้วแต่ติดอยู่ที่ว่า เท็ด เชื่อว่าตนเองจะสามารถผลิตรองเท้าที่เพิ่มคุณภาพกว่าแบบดั้งเดิมได้ ด้วยการเอามาผสมกับนวัตกรรมบางอย่างในยุคปัจจุบัน นั่นเป็นเหตุผลให้เขาตั้งบริษัท Luna ที่เน้นขายรองเท้าประเภท Barefoot (ใส่สบายเหมือนเท้าเปล่า) เข้ามา
1
Photo : vimeo.com
นอกจากนี้ คริสโตเฟอร์ แม็คดูกัลล์ นักวิ่งชาวอเมริกันที่เข้าไปใช้ชีวิตคลุกคลีกับชนเผ่า "ทาราอูมาร่า" ในเทือกเขาค็อปเปอร์ แคนย่อน ประเทศเม็กซิโก ได้อธิบายถึงเผ่า ทาราอูมาร่า ในหนังสือขายดีอย่าง Born to Run ว่า "ชนเผ่าที่นักวิ่งระดับโลกเร้นกายซ่อนอยู่ พวกเขาคือเผ่าพันธุ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อน"
2
แม็คดูกัลล์ อธิบายเพิ่มเติมถึงสาเหตุที่ชนเผ่า ทาราอูมาร่า มีความสามารถในด้านการวิ่งเป็นพิเศษ ว่ามาจากสิ่งที่พวกเขาทำกันมาติดต่อกันเป็นกิจวัตรอย่างยาวนาน ทั้งการใช้ชีวิต การเข้าป่าล่าสัตว์ และกิจกรรมสันทนาการ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มีการวิ่งมาเป็นส่วนเกี่ยวข้องเท่านั้น
1
แม้คนเมืองแทบจะไม่มีโอกาสเลียนแบบความสามารถในการวิ่งของ ทาราอูมาร่า ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่สามารถนำมาคิดและต่อยอดได้ก็คืออุปกรณ์ที่พวกชนเผ่าใช้ ซึ่งแน่นอนว่ามันน้อยชิ้นมาก เผลอๆ อาจจะมีเพียงชิ้นเดียวเลยก็ได้นั่นก็คือ "รองเท้าแตะ" อเนกประสงค์ในชื่อที่ชนเผ่าเรียกชื่อมันว่า "ฮัวราเช" (Huarache)
1
และ ฮัวราเช ที่มีอายุ 100 กว่าปีนี่เองที่แบรนด์ Luna หยิบขึ้นมาพัฒนาให้เป็นจริงเป็นจัง พวกเขาพร้อมจะสวนกับกระแสรองเท้าพื้นหนาด้วยการผลิต Luna Sandals ขึ้นมาโดยเชื่อว่าผู้สวมใส่จะสามารถใช้รองเท้าคู่นี้ทำได้ทุกกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นการวิ่งหรือการเดินทางแบบแอดเวนเจอร์ก็ตาม
ความต่างของแบบเก่าและแบบใหม่
ฮัวราเช แบบดั้งเดิมออริจินอลนั้นมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตน้อยมาก ชาวทาราอูมาร่าจะผลิตมันขึ้นมาเองด้วยมือของพวกเขา โดยสิ่งที่ต้องใช้มีเพียงพื้นรองเท้าที่ทำมาจากยาง และมีเชือกรัดที่ผูกรอบเท้ามาจากหนังสัตว์แค่นั้นเอง
1
Photo : www.earthrunners.com
จากคำอธิบายทั้งอุปกรณ์และการผลิตแล้วมันแสดงให้เห็นว่า ฮัวราเช แทบจะเป็นรองเท้าแตะพื้นบางๆ คู่หนึ่งเท่านั้น ซึ่งเหตุผลที่พวกเขาผลิตด้วยอุปกรณ์น้อยชิ้นและทำพื้นรองเท้าให้บางมีเพียงจุดประสงค์เดียว นั่นคือการให้รู้สึกไม่ต่างกับการใช้เท้าเปล่านั่นเอง ซึ่งเรื่องนี้ผู้เขียนและเล่าเรื่องเผ่าทาราอูมาร่าอย่าง คริสโตเฟอร์ แม็คดูกัลล์ ก็ยอมรับว่าตัวของเขาหลังจากได้ทดลองถอดรองเท้าวิ่งนั้นก็เกิดติดใจและไม่บาดเจ็บจากการวิ่งอีกเลย ซึ่ง ณ เวลานี้เขาวิ่งเท้าเปล่ามาแล้วถึง 40 ปี
1
ขณะที่ฮัวราเชของแบรนด์ Luna ที่ผลิตมานั้นมีความแตกต่างจากแบบดั้งเดิมอยู่บ้าง แม้พวกเขาจะยึดมั่นและขายความเป็น "ศาสตร์ของการวิ่งเท้าเปล่า" อันเป็นแนวคิดที่ว่ามนุษย์เกิดมาเพื่อวิ่ง และแต่เดิมมนุษย์นั้นวิ่งด้วยเท้าเปล่ามาโดยตลอดตามที่ ซีอีโอ ผู้เคยไปคลุกคลีกับชาวเผ่าจนได้ฉายา "Barefoot Ted" มาแล้ว ทว่าพื้นรองเท้าของ Luna ไม่ได้ทำมาจากยางเหมือนกับ ฮัวราเช ของเผ่าทาราอูมาร่าเลย นั่นคือสิ่งที่ แม็คโดนัลด์ เชื่อว่ามันจะดีกว่าเดิม
1
Luna อัพเกรดพื้นรองเท้าจากการใช้ยางชนิดต่างๆ ตามจะหาได้ของชนเผ่าซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นยางรถยนต์ เปลียนเป็นพื้นรองเท้าที่สั่งจากบริษัทชั้นนำด้านการผลิตพื้นรองเท้าอย่าง Vibram ซึ่งแบรนด์นี้มีจุดเด่นและถูกคิดค้นมาเพื่อใช้สำหรับปีนเขา มีการยึดเกาะดี ที่สำคัญคือทนทานใช้งานได้นานด้วย ซึ่งจุดเด่นทั้ง 3 ข้อนี้ จึงทำให้ Luna แตกต่างจากต้นตำรับไป เพราะพื้น Vibram จะมีความแข็งกว่าปกติ อย่างไรก็ตามพวกเขาพยายามจะคงเรื่องน้ำหนักเอาไว้ให้เบาที่สุด โดย Luna นั้นมีน้ำหนักเพียง 4.5 ออนซ์ (127 กรัม หรือ 1.2 ขีด) เท่านั้นเอง
1
Photo : LUNA Sandals Thailand
ขณะที่ส่วนอื่นๆ แทบจะคล้ายเดิมทั้งหมดโดยเฉพาะเรื่องของสายหนังที่ใช้ล็อคบริเวณระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้และข้อเท้า และสิ่งที่ Luna ไม่ลืมและพยายามจะคงไว้อีกอย่าง คือการทำให้รองเท้าของพวกเขาคงทนและใช้งานได้ดีกับกิจกรรมต่างๆ ทั้งการวิ่ง การปีนเขา การเดินป่า รวมถึงการเดินแบบปกติอีกด้วย
ใช้แข่งวิ่งได้จริงหรือ?
แม้จะมีหลายแหล่งอ้างอิงบอกว่ามนุษย์ถูกออกแบบมาเพื่อให้วิ่งด้วยเท้าเปล่า ซึ่งจากจุดนี้ทำให้เกิดความเชื่อว่า รองเท้าของ Luna น่าจะทำให้ผู้สวมใส่วิ่งได้ดีขึ้นและไกลขึ้นกว่าเดิมเหมือนกับที่เผ่า ทาราอูมาร่า เป็น
Photo : lunasandals.uk
อย่างไรก็ตามจากรีวิวทั่วสารทิศในโลกอินเตอร์เน็ตทั้งไทยและต่างชาติ ต่างฟันธงว่า Luna อาจจะไม่เหมาะกับการวิ่งมาราธอนหรืออัลตร้ามาราธอนมากนัก เพราะมีข้อเสียจากสายรัดที่นิ้วและข้อเท้าซึ่งอาจจะแน่นเกินไป แต่ความสุดยอดของ Luna คือการใส่วิ่งเทรล (วิ่งตะลุยเส้นทางธรรมชาติ) ต่างหาก
1
จะบอกว่าแหกตาก็คงไม่ถูกนัก เพราะแต่เดิมชาวทาราอูมาร่าก็ไม่ได้ลงมาวิ่งบนถนนหรืออยู่ในสนามอยู่แล้ว พวกเขาเดินวิ่งและใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ดังนั้นการเจอกับก้อนหินและพื้นผิวที่ขรุขระย่อมเป็นสิ่งที่พวกเขาได้เจอกันทุกวัน ซึ่งนั่นก็ไม่ต่างจากการวิ่งเทรลที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันเลย
สตีเฟน เรเกโนลด์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์รองเท้าอย่าง gearjunkie.com อธิบายว่ารองเท้าของ Luna นั้นสวมใส่สบายกว่าที่คิด เขาลองไปวิ่งลุยหินลุยน้ำและแอ่งโคลน ก่อนจะยืนยันว่าพื้นรองเท้านั้นหนึบและยึดเกาะได้ดีกับสภาพผิวที่ไม่ราบเรียบ ขณะที่เรื่องการใช้ในการเดินในชีวิตประจำวันนั้นเขาบอกว่าทำได้สบายมาก เช่นเดียวกับการวิ่งก็ทำได้แต่อาจจะไม่เหมาะกับการวิ่งระยะไกลเท่าไรนัก
ด้าน แมทธิว คาร์สเทน นักเดินทางและบล็อกเกอร์ที่ใช้เวลากว่า 10 ปีในการเดินทางไปทั่วโลกได้เขียนรีวิวของ Luna ลงใน expertvagabond.com ทว่าสิ่งที่เขาพบและเขียนนั้นแตกต่างจากที่เรเกโนลด์บอก เพราะเขาเอารองเท้า Luna ไปใช้อีกแบบ
คาร์สเทนอธิบายว่า เขาใช้รองเท้าของ Luna มาแล้วถึง 5 ปีไปมาทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นที่ กรีนแลนด์, ตุรกี, ไทย, เม็กซิโก, อัฟกานิสถาน, และ คอสตาริกา สิ่งที่เขาค้นพบคือ Luna เป็นรองเท้าที่เกิดมาเพื่อนักเดินทางอย่างแท้จริง เพราะน้ำหนักเบา, ง่ายต่อการแพ็คลงกระเป๋าเดินทาง และยังสามารถใช้เดินป่าหรือปีนป่ายได้โดยไม่ลื่นไถล ที่สำคัญสุดๆ ที่เขาชอบมากคือ ใส่แล้วไม่ต้องกังวลเรื่องเท้าเหม็นเลยเพราะดีไซน์แบบรองเท้าแตะทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องความอับชื้นเหมือนรองเท้าสนีกเกอร์แบบที่เขาเคยใช้
1
Photo :therunninglunatic.blogspot.com
จากเหล่านักรีวิวหรือบล็อกเกอร์ชื่อดังอธิบายมา ทำให้เรารู้ว่าการใส่ Luna วิ่งในระยะ 40-50 กิโลเมตรนั้นอาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก แต่ถ้าคุณชอบที่จะเดินทางไกลและไปในสภาพพื้นผิวที่คาดเดาไม่ได้ Luna จะตอบโจทย์มากกว่า เพราะครอบคลุมทั้งเรื่องของความสบาย และความเบา โดยที่จุดเด่นเรื่องพื้นรองเท้าที่ช่วยให้เดินและวิ่งได้อย่างเป็นธรรมชาติเป็นตัวชูโรง
ท้ายที่สุดแล้วของอย่างนี้มันก็แล้วแต่คนถนัด บางคนชอบเท้าเปล่า, บางคนชอบรองเท้าแตะ บางคนชอบสนีกเกอร์ ดังนั้นอย่างเพิ่งเชื่ออะไรหากคุณยังไม่ได้ลองด้วยตัวคุณเอง ... แต่ถ้าคุณชอบใช้ชีวิตแบบแอดเวนเจอร์แล้วล่ะก็ Luna ก็ดูจะเป็นรองเท้าที่น่าลองไม่น้อยเลยทีเดียว
บทความโดย ชยันธร ใจมูล
แหล่งอ้างอิง
โฆษณา