21 เม.ย. 2020 เวลา 15:59 • ธุรกิจ
ความท้าทายใหม่ของบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่าย
เครื่องดื่มน้ำอัดลมเบอร์ 1ของโลก อย่าง Coca-cola
..
Coca-cola หรือที่คนไทยทุกคนคุ้นเคยกับชื่อ “โค้ก”
เป็นอย่างดี เป็นบริษัทที่มีประวัติอย่างนานถึง 128ปี
จากเครื่องดื่มที่มีไว้ในร้านขายยา สู่เครื่องดื่มอันดับ1ของโลก
เครื่องดื่ม Coca-cola เป็นเหมือนสัญลักษณ์น้ำอัดลมรสหวานของ สหรัฐอเมริกาไปแล้ว ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์มากกว่า 2,800 รายการ และจัดจำหน่ายกว่า 200 ประเทศ
ความต้องการของ Coca-cola ลดลงมากถึง 25% ในเดือนนี้
เนื่องมาจากการปิดโรงภาพยนต์ ร้านอาหาร และสนามกีฬา
ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบโดยตรงกับไตรมาสที่2 อย่างแน่นอน
Coca-cola รายงานผลประกอบการในไตรมาสแรก
•รายได้ในไตรมาสแรก 8.60 พันล้านดอลลาร์
•กำไรสุทธิในไตรมาสแรก 2.78 พันล้านดอลลาร์
กำไรเพิ่มขึ้นจากปีก่อนในไตรมาสแรกซึ่งกำไรอยู่ที่ 1.68 พันล้านดอลลาร์ สาเหตุที่มีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจของโลกในช่วง มกราคม-กุมภาพันธ์ ยังไหลลื่นอยู่
อย่างไรก็ตามในไตรมาสที่สองนั้น
มีการคาดการณ์เป็นการยากที่จะคำนวณหารายได้ในไตรมาสที่สองของนักวิเคราะห์ เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ และยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกทำให้ยากต่อการคำนวณหารายได้ในไตรมาสที่สอง
เมื่อเช้าหุ้นของ Coca-cola มีการผันผวนอย่างมากในตลาด
การซื้อขายหุ้นในช่วงเช้า แต่เมื่อสักครู่ ลดลง 1%
Coca-cola มีโมเมนตัมที่มั่นคงในช่วงต้นปี
แต่เริ่มได้รับผลกระทบในช่วงปลายเดือนกุมภา
หากไม่รวมประเทศจีนโค้กจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 3% เลยทีเดียว
โค้กมีการโฆษณาเมื่อผู้คนต่างอยู่บ้านด้วยการ
ดึงดูดจากลูกค้า โดยใช้ทางเลือกทางสุขภาพตัวอย่างผลิตภัณฑ์ โซดา ชูการ์ Zero และ Coke Engrey
สถานการณ์ในอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา
ปริมาณการขายในไตรมาสแรกยังทรงตัว เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในเดือนมีนาคม แต่ตรงกันข้ามกับเอเชีย ที่มีการลดลงมากถึง 7% จากปัญหาไวรัสระบาด
อย่างไรก็ตามยอดขายในจีนกำลังมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น
เนื่องมาจาก การค่อยๆจะเปิดประเทศ และเข้าสู้สภาวะปกติ
ผลประกอบการตลอดทั้งปี โค้กให้เหตุผลว่ายังไม่สามารถคำนวณได้อย่างแน่นอน โดยกล่าวถึงความไม่แน่นอนของการระบาดว่าจะจบตอนไหน ก่อนหน้านี้โค้กได้ออกคาดการณ์รายได้ในปี2020 จะเติมโตขึ้น5%
ประเด็นที่น่าสนใจ เมื่อช่วงเวลาที่ผ่านมาเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น จะส่งผลต่อรายรับในไตรมาสที่สองของโค้กถึง 4%-5%
โค้กกำลังลดต้นทุนการผลิตลง รวมถึงด้านการตลาดด้วย
ผู้บริหารของโค้กกล่าวว่าอาจจะไม่เข้าซื้อกิจการที่สำคัญ
และอาจจะไม่ซื้อหุ้นคืน
“โค้กเคยผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาแล้ว โค้กเชื่อว่าจะสามารถผ่านไปได้ด้วยดี”
สาระอัปเดตตลอดเวลา
การกดไลค์ 👍🏻กดแชร์ กดติดตาม
จะเป็นกำลังใจดีๆ สำหรับผู้เขียนให้มีกำลังใจต่อไปครับ❤️
ทางเพจอะไรดีมีเพจFacebook สามารถเข้าไปให้กำลังใจและติดตามได้นะครับ💙
โฆษณา