22 เม.ย. 2020 เวลา 04:30 • ธุรกิจ
cr : A cup of culture
Cr : A cup of culture
:
"หลังหมดวิกฤติโควิด กูรูหลายสำนักเชื่อว่าจะเกิด New Normal ขึ้นใหม่แน่นอน แล้วในฐานะองค์กร! ต้องเตรียมอะไรบ้างละสู่ก้าวต่อไป..."
🤔
ในขณะที่ทุกๆองค์กรกำลังปรับตัวเข้าสู่โหมดรับมือวิกฤติแบบโงหัวไม่ขึ้น ปัญหาที่ต้องแก้แบบวันต่อวันถาโถมเข้ามา ในขณะที่มองไปข้างหน้าก็ยังไม่เห็นฝั่งว่าอยู่ที่ใด แต่ก็มีหน่วยงานหลายแห่งเริ่มมองไปถึงบทต่อไปของหนังสือที่ชื่อว่า Covid-19 เล่มนี้แล้ว
กูรูหลายสำนักเชื่อว่าจะเกิด New Normal แบบที่ไม่ซ้ำกับที่เคยเกิดขึ้นกับยุคหลังวิกฤติหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา ทฤษฎีหรือข้อสมมติฐานที่เคยมีมาอาจใช้ไม่ได้อีกต่อไป แต่ก่อนที่จะไปถึง New Normal นั้น บริษัทที่ปรึกษายักษ์ใหญ่อย่าง Mckinsey ได้นำเสนอ บทความ Beyond coronavirus: The path to the next normal ที่วาดภาพถึงหมุดหมายการก้าวผ่านหุบเหวลึก (Chasm) ของ Covid-19 จากจุดปัจจุบัน ไปจนถึง Next Normal ที่ผู้นำของแต่ละองค์กรต้องเอาชนะให้ได้ โดยแบ่งเป็นระยะต่างๆ 5 ระยะด้วยกัน
.
.
.
📍 #Resolve
ช่วงแรกของวิกฤติ คือการที่ผู้นำต้องเน้นไปที่การแก้ปัญหาเร่งด่วนทั้งหมดก่อน แผน BCP (Business Continuity Plan) และ Employee Safety Plan ต่าง ๆ ต้องควักขึ้นมาใช้ การปรับไปสู่ Remote Work สำหรับหน่วยงานที่สามารถทำได้เลย การแก้ปัญหา Supply Chain ที่ต้องสะดุดต่าง ๆ การตัดสินใจหลักๆ เช่น การปิดโรงงาน ปิดร้านต่าง ๆ ตามนโยบายของภาครัฐหรือนโยบายความปลอดภัยของพนักงาน
โดยสรุปคือ ความชัดเจนของการตัดสินใจในเรื่องขนาด ความเร็วและความรอบคอบของปฏิบัติการต่าง ๆนั่นเอง
.
.
.
📍 #Resilience
 
การแพร่ระบาดของ Covid-19 ทำให้เรายังไม่สามารถประมาณการถึงขนาดและระยะเวลาของการหดตัวของ GDP ว่าจะไปสิ้นสุดที่ใด แต่ Mckinsey แน่ใจว่าจะเป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุดในรอบร้อยปี ความสามารถที่จะฟื้นตัวหรือ Resilience จึงเป็นตัววัดว่าใครจะกลับมาได้ก่อนในระยะสั้นโดยเฉพาะเรื่องการจัดการกระแสเงินสด และในระยะต่อมาจะเป็นการฟื้นตัวในภาพใหญ่ขององค์กรที่จะฉวยโอกาสได้มากน้อยแค่ไหนในชวงที่คู่แข่งและตลาดกำลังช็อคกันอยู่ให้กลับมาเป็นได้เปรียบ
.
.
.
📍 #Return
ประเทศจีนเข้าสู่ Covid-19 ก่อนประเทศอื่นๆที่กำลังประสบชะตากรรมอยู่ ด้วยศักยภาพและอำนาจในการควบคุมสิ่งต่างๆได้เป็นอย่างดีของรัฐบาลก็น่าจะทำให้ออกจากวิกฤตได้ก่อน ถึงกระนั้นการกลับสู่ภาวะปกติก็เป็นไปอย่างช้ามาก ๆ สาเหตุมาจากระบบ Global Supply Chain กำลังรวน ซึ่งหลังจากผ่านวิกฤติมาได้แล้ว ผู้นำองค์กรต้องประเมินสรรพกำลังในการพาตัวเองกลับมาสู่จุดที่เคยเป็นให้ได้รวมทั้งตั้งรับการกลับมาซ้ำของการแพร่ระบาดในช่วงเข้าสู่ฤดูหนาวช่วงปลายปี
.
.
.
📍 #Reimagination
Covid-19 เป็นเหตุทำให้คนทั้งโลกต้องปรับพฤติกรรมกันอย่างกระทันหันทั้งในมุมการใช้ชีวิตและการทำงาน โดยเฉพาะการย้ายกิจกรรมไปสู่โลกออนไลน์หรือโลกเสมือนจริงอย่างไม่มีวันกลับมา ระบบ Supply Chain จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงหลังจากนี้ โดยผู้ผลิตจะย้ายไปอยู่ใกล้ผู้บริโภคของตัวเองมากยิ่งขึ้น ผู้นำองค์กรต้องจินตนาการให้ออกและปรับโครงสร้างของธุรกิจและองค์กรขนานใหญ่ สิ่งที่เคยจำเป็นอาจจะไม่จำเป็นอีกต่อไป มองให้ออกว่าจะดำเนินธุรกิจแบบยืดหยุ่น (Flex Operation) อย่างไรที่ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประสิทธิภาพ รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้แทนคนได้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในช่วงที่คนเข้ามาทำงานไม่ได้ สิ่งต่างๆเหล่านี้จะทำให้สามารถฟื้นกลับมาได้ในระยะยาว
.
.
.
📍 #Reform
วิกฤตนี้ทำให้คนทั้งโลกเข้าใจความหมายของ Black-Swan Event (อุบัติการณ์ที่มีโอกาสเกิดน้อยมาก แต่สร้างผลกระทบมหาศาล) ได้อย่างชัดเจน หลังจากนี้ไปทุกๆองค์กรจะตื่นตัวเป็นอย่างมากที่จะไม่ยอมให้ผลกระทบของ Black Swan เกิดกับธุรกิจ ประเทศ และโลกใบนี้มากเท่านี้ ผู้นำองค์กรควรสร้างความร่วมมือกับภาครัฐในการปฏิรูปกฏหมายและนโยบายเพื่อให้เอื้อต่อการรับมือวิกฤติแบบสายฟ้าฟาด ควรใช้วิกฤตครั้งนี้เป็นโอกาสในการทดลองนวัตกรรมเชิงสังคมตั้งแต่ Work from Home จนไปถึงระบบเฝ้าระวังในวงกว้าง (Large-Scale Surveillance) เพื่อจะเลือกใช้เทคโนโลยีที่จะนำมาใช้อย่างถาวรในระยะยาว
Cr : A Cup of Culture
-----------
โฆษณา