ใครเคยถามตัวเอง ด้วยประโยคแบบนี้กันบ้าง!
ประกันชีวิต จำเป็นต้องทำไหม❓
ทำไมเราต้องทำประกัน❓
ใครชื่นชอบ FB ไปกดติดตามได้นะ😊 Cr.Canva
พี่ตาก็เคยถามตัวเองเหมือนกัน
ว่าทำไม!!!
ฉันต้องทำประกันด้วย
...ฉันยังแข็งแรง
...ฉันสุขภาพดี
...ฉันยังเด็ก
เชื่อว่าหลายคนคงเป็นแบบ
เดียวกันกับพี่ตา
แต่เพราะเราไม่รู้ล่วงหน้า
เราจึงจำเป็นต้องวางแผนรับมือกับความเสี่ยง
และนี่คือ เหตุผล 4 ข้อ ที่เราควรต้องทำประกันชีวิต
1. จากไปก่อนวัยอันควร
(Die too soon) หรือ
ตายก่อนเวลาอันควร
ทำให้เราจำเป็นต้องทำประกันฯ
เพื่อป้องกันเหตุแห่งความไม่แน่นอน
นาย ก. คิดการณ์ไกล เป็นหัวหน้าครอบครัว อายุประมาณ 35 ปี หน้าที่การงานกำลังก้าวหน้า มีรายได้ดี เป็นชายหนุ่มอนาคตไกล
มีภาระดูแลภรรยาและลูกวัยอนุบาล
เริ่มต้นสร้างฐานะ สร้างครอบครัว ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ
หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น
แล้วลูกและภรรยาจะดำเนินชีวิตต่ออย่างไร เมื่อขาดเสาหลัก
และด้วยเหตุผลแห่งความไม่แน่นอน เราจึงจำเป็นต้องวางแผนด้วยการเลือกแผนความคุ้มครองที่เหมาะสม เพื่อปกป้องคุ้มครองคนที่เรารัก
Canva
2. อายุยืนเกินไป (live too long) เหตุผลของการวางแผนเกษียณอายุ
ด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าขึ้นมาก ทำให้คนอายุยืนขึ้น
และด้วยปัจจัยความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น
การเกษียณอายุก็เร็วขึ้น
บริษัทฯ ใหญ่ๆ หลายแห่ง
ให้พนักงานเกษียณ ตั้งแต่อายุ 55 ปี ทำให้ช่วงระยะเวลา
ในการใช้เงินหลังเกษียณอายุ ยาวขึ้นมากๆ ทำให้เราจำเป็นต้องวางแผนเกษียณ
เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างดี
หลังเกษียณ
และยังมีปัจจัยสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คือ ความซับซ้อนทางการเงิน
3. ค่าใช้จ่ายก้อนโตจากค่ารักษาพยาบาล (Unexpected large expense)
เชื่อว่าคงไม่มีใครวางแผนว่าจะเจอกับโชคร้าย
ด้วยเหตุผลเดียวกัน เราจึงไม่ได้เตรียมเงินก้อนโต
ไว้สำหรับจ่ายค่ารักษาพยาบาล
ดังนัั้นการเลือกทำประกันสุขภาพ
ประกันโรคร้ายแรง ทำให้เราลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
และยังเปลี่ยนความไม่แน่ของค่าใช้จ่ายในการรักษา ให้เป็นความแน่นอนได้ด้วยรายจ่ายค่าเบี้ยประกันสุขภาพ
Cr.canva
4. ลดหย่อนภาษี และอื่นๆ
ถึงวันนี้ หลายคนคงไม่ได้ชอบประกัน หรืออยากทำประกัน
แต่สิทธิทางภาษี ที่จูงใจให้นำเบี้ยประกันมาลดหย่อนได้สูงถึง 300,000 บาท/ปี
โดยแบ่งเป็น
- เบี้ยประกันแบบทั่วไปที่มีความคุ้มครองขั้นต่่ำ 10 ปี ลดหย่อนได้สูง ถึง 100,000 บาท
- แบบประกันบำนาญ ได้สูงถึง 200,000 บาท
แล้วยังมีค่าเบี้ยสุขภาพ บิดา,มารดา
ได้ สูงสุด 15,000 บาท
ค่าเบี้ยประกัน ภรรยา หรือ สามีไม่มีรายได้ อีก 10,000 บาท
cr. เพจบล๊อคภาษีข้างถนน
😊😊ขอเพิ่มเติมนิดหนึ่ง
สำหรับเบี้นประกันสุขภาพ ปีนี้ลดหย่อนภาษีเพิ่มเป็น 25,000 จากเดิม 15,000 บาท แต่รวมกับประกันแบบทั่วไป สูงสุด ไม่เกิน 100,000 ค่ะ
และช่วงหลายปีที่ผ่านมาประกันเองยังออกแบบประกันให้มีความหลากหลายมากขึ้น แบบประกันสะสมทรัพย์ แบบสั้นๆ 3 ปี 5 ปี 10 ปี ทำให้เป็นที่เก็บเงินในระยะสั้น ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก ดอกผลไม่เสียภาษี และยัง มี Unit-linked ประกันควบการลงทุน เป็นทางเลือกให้กับคนที่อยากได้ความคุ้มครอง พร้อมลงทุน
พี่ตาว่าเราหลายคนไม่ได้ชอบประกัน แต่เราชอบดอกผลของมัน
และความคุ้มค่าของมัน
และนี่คือ เหตุผลที่เราต้องวางแผนภาษี
และถ้า 4 เหตุผลที่พี่นำมา ยังไม่โดนใจใครพอจะทำประกัน พี่ตาอยากฝากไว้อีกข้อ คือ
"ความรัก" ถ้าเรารักตัวเองมากพอ เราจะวางแผนรับมือ
กับความเสี่ยงในชีวิต
หลายคนแก่มายังต้องทำงานหนัก ไม่ใช่เพราะเขาวางแผนไว้
**แต่เป็นเพราะไม่ได้วางแผนต่างหาก จึงทำให้มีชีวิตลำบาก**
จงใช้ความรักเป็นเหตุผล ที่จะทำประกัน เพื่อคนที่เรารัก...และพวกเขาก็รักเราเช่นกัน
และด้วยข้อนี้เหมือนกัน พี่ตาจึงทำกรมธรรม์ประกันชีวิตให้ตัวเอง และทำประกันสุขภาพให้ลูก เมื่อ 25 ปี ที่ผ่านมา และกรมธรรม์ครบสัญญาไปแล้ว...ลูกก็เรียนจบแล้วค่ะ 555 ยาวนานมากๆ
ขอได้รับความขอบคุณจากพี่ตา
ที่ตามกันมาจนถึงบรรทัดนี้
วันนี้เป็นการเขียนสั้นที่สุด
แต่ใช้เวลาหาภาพประกอบนานที่สุด
เนื้อหาวันนี้ยังเบาเบา
เป็นการแนะนำตัวกันไปก่อนแล้วกัน แล้วค่อยมาลง
เรื่องประกันตามช่วงวัย
เป็นประโยชน์แชร์ได้เลยนะคะ
พี่ตายินดีให้นำข้อมูลไปใช้
เจอกันค่ะ
รักทุกคนนะจ๊ะ
พี่ตา)😊
- 27
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
